2 กันยายน 2552 21:29 น.
แก้วประเสริฐ
๏ ๏ สะท้านกานท์ ๚ะ๛
๏ เป็นมนุษย์แสนสุดล้ำ ไยจน จิตเฮย
ผันป่วนหวังปะปน คร่ำร้อง
ปัญญาลบแนวตน หวังมั่น เลิศแฮ
เป็นพลิกคนคลุกซ้อง สู่ก้องยากสนอง ฯ
๏ บางสิ่งเห็นรอบไว้ รกตา
หวังปั่นสิ่งปรารถนา ฝากไว้
ระรานสิ่งนำมา เพื่อก่อ เกริกแฮ
อวดเก่งกว่ามนุษย์ไซร้ ยากแล้วหมู่ชน ฯ
๏ มนุษย์ฉลาดมิย่อมขึ้น เขียงคอน คอยนอ
มักหลบหลีกขั้นตอน หมดแล้ว
พฤติตนดุจไม้ขอน พังผุ มากนา
ทำตนขาดผ่องแพร้ว ลบสิ้นสิ่งงาม ฯ
๏ บ้านกลอนไทยมากล้ำ คำคม
มวลเหล่าต่างภิรมย์ กานท์ไว้
ฝึกฝนหัดเชยชม ติดต่อ เลิศแฮ
ถูกผิดเข้าลูบไล้ ก่อน้ำใจสนอง ฯ
๏ มนุษย์เก่งจะช่วยเอื้อ แนะนำ ทางแฮ
แรกเริ่มอย่ามองขำ ต่ำช้า
มนุษย์เกิดใช่เก่งทำ สิ่งก่อ แรกนา
ฉันทลักษณ์มิล้า ส่งไว้ฝึกฝน ฯ
๏ อันมนุษย์เป็นคนไซร้ วกวน เคล้าแล
ภาษาร่ำควายจน ซาบซึ้ง
ส่งเขาขวิดปะปน เกิดทั่ว บ้านแฮ
จึงเกิดวิบัติขึ้ง ก่อผู้เขียนกลอน ฯ
๏ กลับจิตเป็นคิดไซร้ พลิกแพลง
หันสู่จากแอบแฝง เปี่ยมแล้ว
สรรค์วางสิ่งงามแถลง ฝากสู่ ภิรมย์เฮย
มนุษย์จึ่งงามเพริศแพร้ว สุดซึ้งตรึงหทัย.๚ะ๛
*** แก้วประเสริฐ. ***
29 สิงหาคม 2552 21:23 น.
แก้วประเสริฐ
** จะรัก..เฮ้อ..หนักใจ **
จะมีรักสักครั้งช่างแสนยาก
จะคิดฝากคำหวานก็พาลเซ่อ
จะทักเขากลัวด่าซ่าจริงเออ
จะชวนเธอมิกล้ามาเหนียมอาย
จะเจ้าชู้เช่นยักษ์ชักกลัวคุก
จะบุกรุกกลัวพ่อเตะถวาย
จะหาเพื่อนนกต่อก็จะกลาย
จะทำลายพาหล่อนร่อนหนีจร
จะซื้อดอกไม้ฝากทางจุดหมาย
จะพลิกกลายย้อนกลับนับสังหรณ์
จะจดหมายวอนเขาเฝ้าวิงวอน
จะถูกร่อนลงขยะมาเก็บไป
จะทำอย่างไรเล่าเจ้าข้าเอ๋ย
จะละเลยรักเขาเฝ้าสั่นไหว
จะทิ้งถ้อยลืมคำแต่น้ำใจ
จะถอดไว้ก็คิดแม้นิทรา
จะหน้าด้านหมั่นเกี้ยวกลัวเลี้ยวลด
จะสู้อดทนไว้ไม่หรรษา
จะขอหมั้นกลัวพ่อถีบออกมา
จะอาสาทำงานพาลละเลย
จะให้พ่อไปขอก็ตายจาก
จะบอกแม่ก็พรากจากเฉลย
จะพึ่งพี่ผัวว่ามาเปรียบเปรย
จะหมายเผยมิกล้าน่าไม่อาย
จะทำอย่างไรให้ช่วยบอกเถิด
จะแจ้งเกิดมีเมียไม่เสียหลาย
จะนับเงินนับทองก็มากมาย
จะบอกขายกระต๊อบย๊อบแย๊บเรา
จะบอกพ่อกำนันท่านสั่นหัว
จะเมามัวกินเหล้าเขาว่าเขลา
จะมีรักสักทีมีแค่เงา
จะคอยเฝ้าคนอื่นจะชื่นบาน
จะช่วยทำโน่นนี่มีแต่ว่า
จะถูกด่าอย่างไรไม่สงสาร
จะตามติดเป็นเงาเขาประจาน
จะฝากขานกับเพื่อนจะเฉือนมาลย์
จะขีดเขียนร่ายกานท์ผ่านอักษร
จะฝากกลอนระบบไม่ประสาน
จะมีรักสักหน่อยน้อยเหตุการณ์
จะผ่านกาลแก่เฒ่ายากเคล้าเชย.
*** แก้วประเสริฐ. ***
28 สิงหาคม 2552 12:37 น.
แก้วประเสริฐ
** วสันต์สวาท **
ฝนพร่างโปรยฉ่ำชื่น ใจระรื่นชวนสุขสันต์
หอมกลิ่นวิลาวัลย์ กรุ่นใจฉันเหลิงเบิกบาน
รื่นรสจดแนบทรวง ซ่านสู่ห้วงแปลกฝนผ่าน
บัวบานน้ำครวญกานต์ ดุจร้าวรานซ่านเกสร
ริกริกซ่านเรียงเรียง โอบเฝ้าเคียงหอมกลิ่นอ่อน
เย็นเยือกเกลือกอาวรณ์ ฝนลิดรอนงึมงำใจ
ลมพัดหอมกลิ่นแฝง พลันเคล้าแมลงสู่ทรวงใน
อบอวลเด่นสดใส เย้าแกว่งไกวหมายชมเชย
ดอกบัวพลันแย้มบาน น้ำไหลพล่านสู่กลางเผย
กบน้อยล่วงละเลย ผุดดำเคยระริกชื่น
ฝนซาพาเร้าจิต ให้หวนคิดฉ่ำสะอื้น
ว่ายแหวกน้ำระรื่น ลอยเกาะคืนฝั่งธารา
หวานล้ำเคียงคู่นาง เลาะริมทางพลางหรรษา
เหลือไว้แสนตรึงตรา หวนสุดคราวารผ่านไป
ฝนพร่ำยามใฝ่ถวิล มั่นคงจินต์กรุ่นทรวงใน
ลับแล้วสิ่งไฉไล ฝังลึกไว้ฝากดวงมาลย์
ยืนมองท้องฟ้าฉ่ำ เคยเลิศล้ำล่วงฝนซ่าน
เปียกร่างพลางซมซาน ใจทรมานเมื่อเดินมา
หนาวใจผ่านทั้งปวง แต่สั่นห้วงดวงจินตนา
บัวน้อยเบ่งบานตา ไหวเหมือนหาคู่เคียงครอง
กบหรือจะเหมือนเท่า แมลงภู่เคล้าเกสรสนอง
เหมือนเราเฝ้าเรืองรอง ไร้เคียงครองตากฝนโปรย
แหงนมองนภามาศ ตะวันสาดแสงทองโรย
เกิดรุ้งลมผ่านโชย ต้องระโหยโดดเด่นกาย
ลาแล้วแนวสิ่งคิด หวนวิปริตติดดวงหทัย
ตากฝนเดินหนีไป กระท่อมไฉนแสนผุพัง
หรือนี่คือสาเหตุ มันทุเรศมิอาจยั้ง
เมืองฟ้ามีมนต์ขลัง ก่อเกิดพลังทางสู่วิไล
ขอเธอจงมีสุข นิราศทุกข์ปองสิ่งไว้
รวงข้าวชูช่อไสว ยามมองไปสุดนัยน์ตา
ลาก่อนสุดที่รัก ยามท้องจักคิดถึงข้า
โอบอุ้มมินำพา ลูกเกิดมาจะรับเอง.
*** แก้วประเสริฐ. ***
24 สิงหาคม 2552 13:33 น.
แก้วประเสริฐ
......๏** เส้นทางชีวิต **๚ะ๛
๏ หวิววาบหวามซาบซึ้ง อนงค์นาง จริงเฮย
เพ็ญพักตร์ดั่งจันทร์วาง จากฟ้า
โขนงโค้งดุจวงกาง เสี้ยวครึ่ง งามนอ
เกิดก่อแสงเจิดจ้า มากหล้าจากสรวง ฯ
๏ สองเนตรยามเบิ่งแล้ว งดงาม
เยื้องกายพริ้งผุดลาม ฝากพ้อง
มณีรัตน์ดั่งนิยาม ปราชญ์ฝาก นำแฮ
โฉมเฉิดจรัสเกรงขาม ฝากไว้แดนดิน ฯ
๏ ประทุมเย้ยส่งฟ้า ไฉไล นักเฮย
บานเบ่งยั่วเย้าไฉน สั่นซึ้ง
ไหวหวั่นช่างเกรียงไกร อกพี่ แลนา
เนตรสบงามเคียดขึ้ง บ่งไว้ใจสลาย ฯ
๏ อกเอ๋ยอกสบแล้ว พรั่นพรึง
ผันพกวกเวียนตรึง ชอกช้ำ
ชีวิตขีดเส้นตลึง นวลแม่ ฝากแฮ
ทางสู่ซึ้งส่อล้ำ สั่นพลิ้วหวั่นไหว ฯ
๏ ทวนพบสบสิ่งช้ำ มากมาย นักแฮ
ดุจเปรียบดั่งเขื่อนฝาย ก่อตั้ง
กรีดกั้นสิ่งเรียงราย สิ้นหมด ทางเอย
ใจพี่มิอาจยั้ง รักเจ้าทางใจ ฯ
๏ จันทร์ส่องแสงเจิดหล้า สบนาง
ประกายผุดมณีวาง สาดพลิ้ว
รัศมีจับกายพลาง โชติช่วง พรายแฮ
แม้นมาดเคียงคงกริ้ว แหลกแล้วหนอเรา ฯ
๏ ชะเง้อมองสบแล้ว เนตรนาง งามเฮย
แย้มส่งจากเจ้าวาง สู่ข้า
อกพรั่นสั่นทรวงกลาง ไหวหวั่น ใจแฮ
ดุจล่องลอยเหิรฟ้า เจิดล้ำดวงฤดี ฯ
๏ มณีน้อยลอยเคลื่อนคล้อย อบอวล กลิ่นนา
กายหยุดสูดหอมหวน สู่ซึ้ง
เส้นทางหมดแย้มยวน ใจพล่าน จริงแฮ
เปรียบดั่งหมู่ภมรผึ้ง ขาดไร้เกสร.๚ะ๛
*** แก้วประเสริฐ. ***
22 สิงหาคม 2552 21:34 น.
แก้วประเสริฐ
** สุดขอบรัก **
แขเจ้าลอยลับลงตรงสิ่งร้าง
สู่อ้างว้างหฤทัยคลั่งไคล้เผลอ
แว่วเรไรหริ่งร้องก้องละเมอ
สู่หวามเพ้อพลิกผันสั่นห้วงใจ
พฤกษาไหวอบอวลยวนฝันห้วง
รำลึกดวงสมรแนบแอบอกไฉน
ผ่านหวานซึ้งเป็นบ่วงห้วงไฉไล
พรากห่างไปฟากฟ้าคราลิดรอน
หลับตาพริ้มปิ่มหวังภวังค์จิต
ซ่านลิขิตมอบฝากจากอักษร
ลบเปื้อนหยาดหล่นลงตรงอาวรณ์
ช่างสะท้อนเหงาเงียบเปรียบอารมณ์
พลันสิ่งกั้นเปรียบสิงขรรอนไว้
ฝากคลั่งไคล้หมายมั่นปั้นเสกสม
มองขอบฟ้าคิดไปให้ตรอมตรม
กลิ่นหอมพรมจืดจางร้างห่างกัน
โอ้มีรักสักครั้งช่างแสนยาก
สู้บั่นบากฝากสิ่งอิงสุขสันต์
เหลือแต่รอยฝากเคียงเลี่ยงใจกัน
สู่ไหวหวั่นพรั่นพรึงตรึงจินตนา
มองกระดาษอักษรร่อนลิขิต
ไยกลับปลิดสิ่งหวังครั้งหรรษา
เหลือความหวังฝากรักจักเคยมา
พลาดเวลาผ่านลับดับดวงมาลย์
หมายสิ่งซึ้งฝากไว้ยามไกลจาก
คงสิ่งพรากซ่อนเร้นเน้นสู่สาส์น
ซึ่งจารึกฝากไว้คล้ายเหตุการณ์
หวานซึ้งซ่านยวนล้ำตอกย้ำไป
ชีวิตนี้ผ่านสิ้นสุดขอบรัก
เคยจูบพักตร์ฝังลึกตรึกสดใส
รอยคงหายจางแล้วแพรววิไล
เหลือฝากไว้ผ่านฟ้าลับราตรี.
*** แก้วประเสริฐ.***