7 กันยายน 2553 15:05 น.
แก้วประเสริฐ
ห้วงรักเหวลึก
๐ แอบอิงแนบซาบทรวงดุจบ่วงมัด
ยามถูกปัดวกวนระคนหวง
ล่วงล้ำลึกฝากไว้ป่วนใยยวง
ถูกรักลวงสิ้นแล้วพริ้มแพรวจาง.ฯ
๐ แอบอิงแนบซ่านซึ้ง ม่านรัก
วกนักยากประจักษ์ ฝากไว้
อิงแอบอุ่นย้ำนัก ชวนซบ จริงนอ
ปัดสิ่งม่านรักไซร้ ฝากซึ้งตรึงผวาฯ
๐ อวลอบไอกลิ่นเย้า ราตรี
ห้วงซ่านถวิลเปรมปรีดิ์ บ่มแล้ว
มวลแสงสาดม่านฤดี อุ่นเกิด ทรวงแฮ
มองเหม่อแขสุดแป้ว ยอกห้วงเฉิดถวิลฯ
๐ กลิ่นกายอบนวลเนื้อ แนบสนิท ใจเฮย
ม่านรักหุ้มฝากชิด พี่ซึ้ง
หอมกายกลิ่นนวลติด- ใจยิ่ง ฤาแม่
หวานอิ่มฝากก้นบึ้ง ยั่วเย้าเคล้าสนองฯ
๐ ห้วงรักเหวลึกซึ้ง บ่มทวี ทรวงแฮ
พันผูกจากนารี ดุจฟ้า
วกวนเปลี่ยนมารศรี ช้ำชอก เราเฮย
หมายมุ่งผดุงไขว่คว้า ยากแล้วกำสรวลฯ
๐ รักฉุดทุกข์ฝากแล้ว หนอใจ
ปั่นป่วนจากไฉไล ก่อเชื้อ
เพลิงเผามอดแฝงใน- ใจพี่
ปานสู่ยากกอบเกื้อ สุดสิ้นถวิลหวลฯ
๐ หอมอบคลายจากเนื้อ แม่นาง
ลอยกลิ่นจนชืดจาง ผ่านแล้ว
มิหวนกลับใจคราง ยากก่อ
ลอยล่องลับนางแก้ว เจือไว้โลมสลายฯ
๐ แอบอิงแนบซาบทรวง บ่วงลึกห้วงมากลับกลาย
สุดแสนจะเสียดาย ม่านรักคล้อยลอยล่องฟ้า
เหลือไว้ให้หวนถวิล มาล้างสิ้นสิ่งครวญหา
ไกลแล้วสุดลับตา โอ้อกเอ๋ยเลยตรอมตรม.:-
* แก้วประเสริฐ. *
1 กันยายน 2553 13:41 น.
แก้วประเสริฐ
รักเผื่อเลือก
ใฝ่คำนึงซึ้งถึงแม่นางเอ๋ย
กระไรเลยหนีพรากจากมิ่งขวัญ
ให้เปล่าเปลี่ยวเดียวดายในชีวัน
สู่รำพันแสนอนาถประหลาดใจ
สุดจะรักสุดหวงดวงใจนี้
ครั้นยอมพลีผ่านฤทัยไม่สดใส
ต่อยอดชู้แสนเศร้าเคล้าภายใน
เพียงแต่ได้ไขว่คว้าว้าเหว่ตรม
อกหนออกชายชาติอนาถเศร้า
ผ่านคลุกเคล้าเวลามาเสพย์สม
ต่อไปนี้ขอถนอมกล่อมภิรมย์
ครวญอารมณ์บ่มไว้สู่ในทรวง
ผ่านรสชาติฝากซึ้งถึงในห้วง
ปมมัดบ่วงห่วงรักแม้นจักหวง
ทนปวดร้าวผ่านไว้คล้ายใยยวง
กาลลบดวงค่อยสลายคลายชีวิน
บทเรียนนี้ฝากสอนผ่อนสิ่งเศร้า
ความยั่วเย้าให้ผวามาครวญถวิล
บทเรียนเก่าเคล้าฤทัยใฝ่ดวงจินต์
แทบสูญสิ้นหมดทางระหว่างเดิน
จะขอเลือกเผื่อรักฝากบ่วงนี้
จากนางที่ผ่านไปช่วยคลายเขิน
แม้นเข้ามาหวังสนิทติดใจเพลิน
มิขอเผชิญกลัวแล้วหนอแก้วตา
รักคือสุขทุกข์คือรักฝากเศร้า
หนาวกึ่งผ่าวร้อนมาคราค้นหา
ผ่านลำบากยากเข็ญเช่นเคยมา
โถอุสส่าห์เย้าหยอกหลอกหนอเรา
ถึงจะมีฝากไว้คล้ายเผื่อเลือก
เย็นยะเยือกร้อนผ่าวเคล้าแสนเศร้า
แม้นโดดเดี่ยวเดียวดายสลายเยาว์
มวลหยอกเย้าเคล้าตรมข่มใจนาง.
* แก้วประเสริฐ. *
29 สิงหาคม 2553 15:21 น.
แก้วประเสริฐ
เพลิงราคะ
แสนเพริศพริ้งอวลอบนทีศรีสวาด
งามดารดาษพรรณรายมไหศวรรย์
หอมกลิ่นโปรยโชยชื่นลัดดาวัลย์
เริงร่าอนันต์อโนดาตพาดเรืองรอง
ใสสะอาดบริสุทธิ์ดุจแมนสรวง
เหล่าพุ่มพวงดารณีพลีจัดสนอง
ประทุมมาศเต่งตึงอึงคะนอง
ชูชันครองสองเต้าเย้าพริ้มพราย
บุปผาพฤกษ์โปรยปรายไอหอมกลิ่น
โชยระรินกลิ่นผกาฟุ้งจรุงขยาย
ด้วยทีท่าเย้ายวนชวนหทัยคลาย
ปรุงแต่งขจายอาภรณ์ร่อนเริงลม
หวังสลายดวงฤทัยให้แตกซ่าน
พลิกผันผ่านคืนกลับนับเสพย์สม
ด้วยท่าทีอ่อนช้อยปรอยเชยชม
หว่านทวีถมองค์มุนินทร์ชินสีห์
เหล่ามาณวิกาสารพัดจัดถวาย
เพื่อสลายดวงหทัยนัยยวนฉวี
สุดเปล่งปลั่งครอบราคะคละทวี
ยวนยั่วฤดีหลายท่าตัณหาเถกิง
ชม้อยดวงเนตรหยาดเยิ้มเพิ่มพิลาส
แล้วนวยนาดปราศอาภรณ์ร่อนเถลิง
เปล่งสำเนียงหวานหาคราระเริง
หวังกระเจิงดวงหทัยให้ละลาย
องค์มุนินทร์ปิ่นนิพพานนั้นสอน
สิ้นอาวรณ์ตรัสรู้หมู่มารถวาย
เปี่ยมสิ่งเกิดตัณหาราคะขจาย
ซุกซ่อนในธรรมมารมย์บ่มวาง
ทรงตัดขาดเยื้อใยใช้ปัญญา
พิจารณากองไฟอันใหญ่สล้าง
ทั้งเศษเล็กมากน้อยอย่าคล้อยทาง
สมาธิสร้างพลิกค้นจนเบิกบาน.
* แก้วประเสริฐ. *
20 สิงหาคม 2553 16:47 น.
แก้วประเสริฐ
ห้วงรักหรือไฉน
๐ พราวเพริศพริ้งรักล้น คุณอนันต์ จริงฤา
แม้นมาดจะใฝ่สรรค์ กีดกั้น
ห้วงฟ้าถูกบั่นพลัน ผันพลิก นักแฮ
ดุจดั่งกำแพงนั้น ลึกล้ำฉีกสลาย:-
๐ พราวเพริศพริ้งรักนั้น คุณอนันต์มากล้นหรือ
แม้นมาดจะใฝ่ถือ คือกีดกั้นห้วงสั่นผวา
ห้วงฟ้าถูกบั่นพลัน หลบหลีกนั้นดั่งจันทรา
ดุจดั่งกำแพงครา พลิกหาค้นหมดล้ำสลายฯ
๐ ทวนทบพบรอยเก่า ฉีกแสนเศร้าสบกับกลาย
มากนักมักจักคลาย ร้ายจริงหนอล้อเล่นผวน
หวนพบพักตร์ยิ้มเย้า ดั่งพลิกเฝ้าสถิตย์เรรวน
หอมกลิ่นเคยเคล้าชวน ดุจล้วนลากฝากลอยลมฯ
๐ อิงแอบแนบชิดฝัน รอยเก่านั้นพลันขื่นขม
กลิ่นแก้มเคยเฝ้าชม บ่มรอยช้ำกลับฝากหทัย
เคยกอดอ้อนออเซาะ รักที่เพาะมาป่วนคลาย
หวานรักหมดละลาย สิ้นสลายในบ่วงสนองฯ
๐ รอยลิดติดล้ำลึก เฝ้าคอยผนึกต่อสิ่งปอง
นวลนางหวังใยยอง สนองแค่ค่ำย้ำแพรวฝัน
แสงสีผ่องเพริศพริ้ง โอ้ใจหญิงสุดจำนรรจ์
ทั้งผองลบเลือนสรรค์ สิ้นถวัลย์ในแสงตะวันฯ
๐ ราตรีที่แสนหวาน กลิ่นแก้มนั้นมิอาจผัน
กลิ่นหอมอเนกอนันต์ พลันสู่พับสุดนับถวิล
บ่อรักในห้วงโศก แสนวิปโยคเป็นอาจินต์
หยดหยาดหลั่งโรยริน ดุจสิ้นรักกำแพงขวางฯ
๐ ห้วงรักนี้หรือไฉน สุดแสนไกลยากยิ่งสร้าง
เก่าใหม่ใคร่จืดจาง วางให้เจ้าคอยเฝ้าผสม
แพร่พันธุ์ขยายหนอ เฝ้าพะนอใฝ่ภิรมย์
อ้อล้อครองเชยชม เสกสมบ่มน้ำใจนางฯ
๐ ลาแล้วในห้วงรัก แสนประจักษ์ใคร่ขอวาง
แม้นผูกมิเลือนราง สร้างสิ่งช้ำระกำไสว
วางตัวให้โดดเดี่ยว มุ่งเดินเลี้ยวสู่แดนไพร
ขอบฟ้าอันแสนไกล เหตุไฉนดุจคล้ายกำแพง.:-
* แก้วประเสริฐ. *