13 กุมภาพันธ์ 2547 17:57 น.

อิสระเสรี...บินหลาคืนดง.

แก้วประเสริฐ


 บินหลาดง......คอยนกขมิ้นน้อย    
แก้วประเสริฐ  
บินหลาดง..    
อัลมิตรา  

ฉันเป็นเพียงนกขมิ้นบินลงใต้
ฝ่าเภพภัยทุกข์ร้อนบั่นทอนทั่ว
ดั่งเพลิงสุมถาโถมโหมน่ากลัว
ใจระรัวห่วงบินหลา..นกป่าไพร

ป่านฉะนี้เพื่อนข้าคงจมทุกข์
มิสนุกสนานเหมือนเมื่อวานได้
เทือกบรรทัดสูงเสียดฟ้าล้าหัวใจ
เจ้านกไพรดับดิ้นสิ้นชีวา

พรานใจร้ายหมายจ้องปองชีวิต
สิ่งถูกผิดรู้ไหม..ใช่เข่นฆ่า
เราเพียงนกอยู่ดงไพรใช่พารา
ไยจึงมาฆ่ากันฉันอยากรู้

บินหลาครวญสะท้อนย้อนก้องเขา
ขมิ้นเศร้าช่วยอย่างไรให้อดสู
เหล่าพรานไพรใจร้ายหมายพันตู
เกินต่อสู้ปกปักษ์รักษ์ไพรวัลย์

เราเป็นเพียงขมิ้นจ้อยแรงน้อยนิด
ไม่มีฤทธิ์ต่อต้านการร้ายนั่น
เท่าที่ทำได้แต่เพียงเยี่ยงทุกวัน
คือรังสรรค์ให้บินหลา..กล้าแกร่งเดิม

กางปีกบินเถิดหนา..บินหลาเอ๋ย
อย่าละเลยศรัทธามาส่งเสริม
หากไร้เรี่ยวแรงผกผินบินต่อเติม
โปรดจงเริ่ม..อย่าท้อรอวันตาย

สองปีกบินอาจล้าเกินข้ามเขา
ยืมปีกเราเพื่อแสดงแกร่งความหมาย
หากใจหวาดหวั่นวิตกอกเดียวดาย
ก็จะคล้ายเคียงข้างมิห่างกัน

แม้นสัญชาติหลากหลายคล้ายจำแนก
ดูผิดแผกวกวนหนทางฝัน
นกขมิ้น - บินหลามาต่างพันธุ์
ขอให้มั่นเรายืนยงพงศ์เผ่าเดียว  


  บินหลาน้อยคอยรักภักดิ์ใจมั่น
นับแต่วันเจ้าบินจากลาลับหาย
ร้องก้องป่าพนาวัลย์จนแทบตาย
สุดเสียดายใจมั่นพลันคร่ำครวญ

        หวนคำนึงถึงคำมั่นดั่นด้นหา
เจ้าลับตาหาจนทั่วจนกำสรวล
ล้วนตัวเจ้าขมิ้นน้อยใจรัญจวน
เราเคยชวนร้องกล่อมพนาไพร

        เหตุไฉนป่านฉะนี้หายมิหวนกลับ
เจ้าแลลับจากบินหลาแทบจะร้องไห้
เคยบินส่งให้เจ้าสู่ถิ่นดินแดนไกล
ถึงอย่างไรบินหลาคอยเจ้าหวนกลับมา

         เราสองร้องกล่อมไพรในทิวเขา
บัดนี้เจ้าบินหายลับไปสุดค้นหา
ตามเวลาเคยนัดไว้กันในสัญญา
ว่าจะมาร้องเพลงกล่อมลำเนาว์ไพร

          นับแต่นี้ขมิ้นน้อยมิอาจแลเห็น
บินหลาเช่นร้องกล่อมเจ้าเราร้องไห้
ถูกเขาจับใส่กรงไว้ไม่รู้จะทำอย่างไร
มีแต่หัวใจที่อยากหวนกลับถิ่นเดิม

           ลาแล้วหนอขมิ้นน้อยเจ้าเพื่อนยาก
ถึงลำบากแต่ใจยังหวนดุจแรกเริ่ม
ร้องไปใจอยากให้ขมิ้นมาช่วยเสริม
เพื่อต่อเติมสิ่งที่ใจเราได้ขาดหายไป.

                   แก้วประเสริฐ.
บินหลาเจ้าอยู่หนใดที่ไหนหนอ
ขมิ้นรอคู่ขานประสานเสียง
ลมพัดแผ่วแว่วคล้ายนัยสำเนียง
ฤๅเป็นเพียงกอไผ่สั่นไหวครวญ

ทั้งที่ล้ายังปีกกล้าตามหาฝัน
ทุกคืนวันเวียนผ่านกาลยังหวล
เจ้าบินหลามาจากไกลให้รัญจวน
คงผันผวนตามชะตาที่ท้าทาย

ณ เทือกเขาบรรทัดยังชัดแจ้ง
ครั้นแสดงสง่าองค์คงความหมาย
แหล่งพำนักภักดิ์ชนม์จนมลาย
ขอทอดกายเป็นธุลีที่ตำนาน

ขอวิงวอนพรานไพรให้รู้สึก
โปรดสำนึกนิยามตามคำขาน
บินหลาดงดำรงป่าน่าสราญ
ไยมาพาลโกรธขึ้งถึงวายชนม์

หากมิมีสกุณาบนหล้านี้
สนองฤดีใช่ไหมหรือไม่สน
มาฆ่าฟันบรรลัยในบัดดล
ฤๅจักด้นอำนาจชาติผู้ใด

ข้าเป็นเพียงขมิ้นป่ามาพำนัก
ยากจะหักอาดูรสูญสิ้นได้
จะเผ่าพันธุ์แผกผิดหากคิดไป
ก็มิได้แตกต่างทางเกิดมา

บินหลาเอยอย่าเศร้าร้าวในอก
มวลวิหกต่างเห็นดั่งเช่นข้า
หากวันใดพรานใจร้ายหมายบีฑา
จะรีบมากางปีกป้องครองคุ้มภัย

:) 
 
 จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา  
 รหัส - วัน เวลา : 219024 - 12 ก.พ. 47 - 22:14  


           วันเวลาผ่านไปในกรงบินหลาเอ๋ย
อกไม่เสบยคร่ำครวญใจหวนหาได้
ในดวงจิตแสนสุดช้ำเหลือนี่กระไร
ทั้งดวงใจอยากออกไปใจจะขาดรอนๆ

            ต้องเร่ร่อนผ่อนพักไปหลายๆที่
ทั้งที่ไม่ยินดีแต่ต้องทำตามคำสอน
ในกรงนี้อุดมอาหารฉันไม่อาวรณ์
ตามคำสอนยังจำไว้ยากจะกระทำ

            น้ำตารินปริ่มใสใจสุดจะขาด
แสนประหลาดพลันคิดจิตระส่ำ
แกล้งกระทำเซื่องซึมไม่กินน้ำ
ทำชอกช้ำหมอบนอนบนพื้นกรง

             ตรงวันที่สิบสี่กุมภาเขาไม่สน
ฉันจะได้พ้นทุกข์บ่วงกรรมที่ช้ำลง
เผอิญกรงถูกเขาเปิดไม่แลตรง
ประตูกรงเปิดแสนปลื้มรื่นเริงครัน

            เหมือนสวรรค์กำหนดปลดปล่อยฉัน
ตัวเรานั้นเผ่นทะยานสู่ท้องฟ้าพลัน
แสนเบิกบานบินหมายจ้องมองตะวัน
หันเหหันเขม่นทิศทางตามที่คิดได้

              ตรึงตราใจถึงขมิ้นคงหายหงอย
ล่องลอยฟ้าผาดโผนโดยออมกำลังไว้
แต่หัวใจหมายใต้ไม่ปองบินสู่ทิศใด
คือทางใต้ของเทือกเขาบรรทัดทอง

             ของกาลเวลาผ่านไปด้วยใจไม่ล้า
อิสระภาพคืนมาพาใจคลายหม่นหมอง
สองปีกแกร่งเกินกว่าวิหคที่ต่างจ้องมอง
ร่างทั้งผองสุดแข็งแกร่งดังหินผาศิลาแรง

              ยอดทิวเขาบรรทัดปรากฏอยู่เบื้องหน้า
สุดจะคว้าให้มาใกล้เหมือนตะวันที่ส่องแสง
อิสระเสรีภาพชุ่มฉ่ำดวงหทัยมิให้ใจอ่อนแรง
ดุจดั่งมีแสงอมตะอาบฉาบจิตฉ่ำแห่งวิญญา

                ถึงแล้วซิวิมานฉันที่ฝันสร้าง
ทิวลำธารน้ำส่งเสียงดังเสียงซ่าส์ๆ
คาคบไม้เก่ายังอยู่ให้แสนชื่นวิญญา
เหลือบมองหาเห็นเจ้าขมิ้นเกาะกิ่งไกล
 
                ร้องเพลงไปเรียกคลอเคล้าพนอเสียง
ขมิ้นเมียงจ้องมองแลดูบินหลาหน้าแจ่มใส
ต่างบินมาหากางปีกบินคู่ท่องเที่ยวลดเลี้ยวไป
บินสู่ไพรวัลย์ลึกเข้าไปในแดนดงพ้นคนพาล

                แว่วสำเนียงเสียงร้องก้องกังวาลอันใสสด
เสียงจำได้บินหลาขมิ้นไพเราะเกษมสานต์
ส่งกระแสร์เสียงคลอเคล้าหัวใจแสนเบิกบาน
อลังการณ์ฉันทนาอิสระภาพเสรีมาร์ตี้ที่ยาวไกล.

                              แก้วประเสริฐ.

อัลมิตรา......แก้วประเสริฐ.........ร้อยรวมเรียบเรียง.....ฝากไว้ในอารมณ์.
                             
                              13  กุมภาพันธ์  2547 				
11 กุมภาพันธ์ 2547 16:59 น.

บินหลาดง......คอยนกขมิ้นน้อย

แก้วประเสริฐ

บินหลาดง..    
อัลมิตรา  

ฉันเป็นเพียงนกขมิ้นบินลงใต้
ฝ่าเภพภัยทุกข์ร้อนบั่นทอนทั่ว
ดั่งเพลิงสุมถาโถมโหมน่ากลัว
ใจระรัวห่วงบินหลา..นกป่าไพร

ป่านฉะนี้เพื่อนข้าคงจมทุกข์
มิสนุกสนานเหมือนเมื่อวานได้
เทือกบรรทัดสูงเสียดฟ้าล้าหัวใจ
เจ้านกไพรดับดิ้นสิ้นชีวา

พรานใจร้ายหมายจ้องปองชีวิต
สิ่งถูกผิดรู้ไหม..ใช่เข่นฆ่า
เราเพียงนกอยู่ดงไพรใช่พารา
ไยจึงมาฆ่ากันฉันอยากรู้

บินหลาครวญสะท้อนย้อนก้องเขา
ขมิ้นเศร้าช่วยอย่างไรให้อดสู
เหล่าพรานไพรใจร้ายหมายพันตู
เกินต่อสู้ปกปักษ์รักษ์ไพรวัลย์

เราเป็นเพียงขมิ้นจ้อยแรงน้อยนิด
ไม่มีฤทธิ์ต่อต้านการร้ายนั่น
เท่าที่ทำได้แต่เพียงเยี่ยงทุกวัน
คือรังสรรค์ให้บินหลา..กล้าแกร่งเดิม

กางปีกบินเถิดหนา..บินหลาเอ๋ย
อย่าละเลยศรัทธามาส่งเสริม
หากไร้เรี่ยวแรงผกผินบินต่อเติม
โปรดจงเริ่ม..อย่าท้อรอวันตาย

สองปีกบินอาจล้าเกินข้ามเขา
ยืมปีกเราเพื่อแสดงแกร่งความหมาย
หากใจหวาดหวั่นวิตกอกเดียวดาย
ก็จะคล้ายเคียงข้างมิห่างกัน

แม้นสัญชาติหลากหลายคล้ายจำแนก
ดูผิดแผกวกวนหนทางฝัน
นกขมิ้น - บินหลามาต่างพันธุ์
ขอให้มั่นเรายืนยงพงศ์เผ่าเดียว  
 
 
 
   Poem ID :   46399 - ผู้ชม 64   ผู้ตอบ 10  
 Written by :   อัลมิตรา  
 Posted by :   รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา  
 Source :   ก็ได้แต่เปรียบเทียบ .. ใครหนอจะเข้าใจ ..เฮ้อ..!!  
 Date - Time:   09 ก.พ. 47 - 16:56  
 Note :   -  
 E-Mail :   nomailtome@hotmail.com  
 URL :   www.thaipoem.com  
 
 
 
 
  บินหลาน้อยคอยรักภักดิ์ใจมั่น
นับแต่วันเจ้าบินจากลาลับหาย
ร้องก้องป่าพนาวัลย์จนแทบตาย
สุดเสียดายใจมั่นพลันคร่ำครวญ

        หวนคำนึงถึงคำมั่นดั่นด้นหา
เจ้าลับตาหาจนทั่วจนกำสรวล
ล้วนตัวเจ้าขมิ้นน้อยใจรัญจวน
เราเคยชวนร้องกล่อมพนาไพร

        เหตุไฉนป่านฉะนี้หายมิหวนกลับ
เจ้าแลลับจากบินหลาแทบจะร้องไห้
เคยบินส่งให้เจ้าสู่ถิ่นดินแดนไกล
ถึงอย่างไรบินหลาคอยเจ้าหวนกลับมา

         เราสองร้องกล่อมไพรในทิวเขา
บัดนี้เจ้าบินหายลับไปสุดค้นหา
ตามเวลาเคยนัดไว้กันในสัญญา
ว่าจะมาร้องเพลงกล่อมลำเนาว์ไพร

          นับแต่นี้ขมิ้นน้อยมิอาจแลเห็น
บินหลาเช่นร้องกล่อมเจ้าเราร้องไห้
ถูกเขาจับใส่กรงไว้ไม่รู้จะทำอย่างไร
มีแต่หัวใจที่อยากหวนกลับถิ่นเดิม

           ลาแล้วหนอขมิ้นน้อยเจ้าเพื่อนยาก
ถึงลำบากแต่ใจยังหวนดุจแรกเริ่ม
ร้องไปใจอยากให้ขมิ้นมาช่วยเสริม
เพื่อต่อเติมสิ่งที่ใจเราได้ขาดหายไป.

                   แก้วประเสริฐ.

อ่านกลอนยอดนักกลอน...ไพเราะจับจิตแต่ขอบังอาจต่อเติมเพราะรักกลอนท่านมาก  หวังว่าจะไม่ว่ากันนะครับ........แก้วประเสริฐ.				
6 กุมภาพันธ์ 2547 17:45 น.

สานความฝัน

แก้วประเสริฐ


       โลกใบนี้สุดกว้างไกลในความคิด
อย่าได้ติดริดรอนหทัยใจของเขา
วิสัยทัศน์ความเจริญขึ้นไม่บางเบา
เรื่องเราเขาควรจำแนกแยกจากกัน

      การศึกษาเล่าเรียนหาความรู้
ยุคนี้ครูสร้างบทเรียนเพียรขยัน
หาสิ่งใหม่ให้ทันโลกอย่างเขากัน
เพื่อสร้างสรรค์เด็กนั้นให้ทันคน

     เขาปล่อยแล้วให้เด็กคิดสร้างสรรค์
เพื่อในวันข้างหน้าจะได้ไม่สับสน
ทันยุคโลกทันสมัยจะได้ให้ทันคน
เกิดเป็นตนคนละยุคอย่าฉุดไป

      เราแก่เฒ่าเขายังหนุ่มและวัยสาว
เหมือนต้นข้าวแรกแย้มสุดผ่องใส
ผลิตใยผลย่อมงอกงามปล่อยเขาไป
เพียงแต่ได้คอยดูแลและตักเตือน

       เด็กนั้นผิดมิใช่ว่าให้เขาชอกช้ำ
คอยเตือนร่ำพร่ำหาทางดุจเสมือน
ลูกของเราหลานเหลนย่อมเสทือน
ไม่ตักเตือนเหมือนฉุดเขาเข้าสู่คลอง

       เด็กเอ๋ยเด็กจงมีความคิดประดิษฐ์สร้าง
และหาทางสร้างสรรค์ประเทศให้สนอง
เกิดเป็นคนควรจะได้ปฏิบัติตามคัลลอง
เพื่อสนองบุญคุณชาติให้งามศิวิลัยส์

         ทำไปเถิดคิดว่าดีแล้วจงทำไปเถิด
จะประเสริฐในความแรกคิดจิตแจ่มใส
ใจของเจ้าควรประกอบกรรมดีให้ไฉไล
สร้างสิ่งใหม่ๆไว้ให้โลกเราเฝ้าจดจำ.

                    แก้วประเสริฐ.
				
5 กุมภาพันธ์ 2547 23:14 น.

เอื้องคำหลวง

แก้วประเสริฐ

เอื้องคำหลวง
         ดึกเอยดึกแล้วเสียงแว่วหรีดเรไรขันแจ้ว
เสนาะแล้วใจแผ่วหวนชวนคิดถึง
ยืนจ้องมองดูฟ้าให้หัวใจสุดรำพึง
หวนนึกถึงตรึงอารมณ์เร้าเราเฝ้าคอย

          ดาวเหนือลอยลับฟ้าเหมือนลาจาก
บุหลันพรากจากดาวเหนือยากจะถอย
อากาศเย็นทาบจับผิวกายใจสุดคอย
นึกถึงรอยกลิ่นหอมเจ้าเคล้าสุคนธ์
      
           ป่านฉะนี้หนอคงบานแล้วแม่ยอดรัก
ใจพี่ภักดิ์รักห่วงหากลัวเจ้าหมองหม่น
สุคนธ์เร้ากลิ่นหอมยั่วยวนจนสุดทน
เหลืองอ่อนปนเข้มจัดรัดรึงตรึงหัวใจ

           แสนเสียดายกายนี้พี่อยู่สุดขอบฟ้า
แต่ใจมายังแดนเหนือด้วยผ่องใส
เพราะใจรักภักดีเจ้าทุกลมหายใจ
ถึงอย่างไรจะหวนกลับถึงถิ่นเดิม
 
            เริ่มแล้วหนอคอยพี่ก่อนนะยอดรัก
พี่จะควักดวงหทัยออกให้ช่วยส่งเสริม
แล้วจะเพิ่มความรักแก่เจ้ายิ่งกว่าเดิม
สีสรรค์เพิ่มเติมความรักเจ้าจนเต็ม

             น้ำค้างเริ่มพรมพรายลายเต็มใบหน้า
ทั่วกายาเปียกปอนลมหนาวเข้ามาเข้ม
กายฉันสั่นสุดสะท้านลมโชยพัดเล็ม
ใจยิ่งเต็มรอยรสรักไม่อยากจากไปไกล

              เอื้องหลวงเอ๋ยเอื้องคำหลวงพี่หวงนัก
อย่าชล่านักแม้สวยรวยรินกลิ่นกว่าไหน
ใครเขาจ้องมองดูเจ้าเฝ้าปองพี่อยู่ห่างไกล
แต่หัวใจของพี่เจ้าเฝ้าปองน้องอยู่คนเดียว. 

          
                              แก้วประเสริฐ.  				
4 กุมภาพันธ์ 2547 13:09 น.

ภาพลักษณ์

แก้วประเสริฐ


                    วันเวลาผ่านไปใจสุดจะเหงา
            นั่งซึมเศร้าแหงนมองท้องฟ้านภาผ่อง
            ละอองฝนรวมเป็นเมฆลอยดุจประคอง
            ฉันแลมองนกน้อยเจ้าบินเริงร่าถลาลม

                    สมแล้วนกน้อยเจ้าเริงร่าด้วยอิสระ
             ปราศภาวะร้อนรุ่มใจไปได้เหมาะสม
             ลมผวนพัดเจ้าบินไปได้ตามอารมณ์
             มิตรอมตรมด้วยผูกมัดรัดใจในฤดี

                    ภาพลักษณ์เก่าพลั้งผุดฉุดให้ฝัน
              แม้นกลางวันมันบรรเจิดจรัสศรี
              ปรีเปรมจิตคิดถึงเจ้าเร้าใจในฤดี
              ช่างเปรมปรีดิ์มีขึ้นได้ในกลางวัน

                    เสียงกังสดาลพลันดังสะดุ้งปลุกใจตื่น
              ลุกขึ้นยืนมองเหลี่ยวแลไปใจกระสันต์
              ครั้งภาพลักษณ์ที่เราสองมอบไว้แก่กัน
              ช่างนำมาฝันสร้างภาพพจน์จนสลดใจ

                     ก้าวเดินไปวนในรอบพระอุโบสถ์
              พร้อมกำหนดแนวจิตใจให้ผ่องใส
              ในสติพร้อมคำภาวนามีไว้ขึ้นในใจ
               ตั้งใจไว้เพื่อให้คลายเศร้าเหงาฤดี
            
                     นบน้อมนอบยอกรไหว้พระไตรลักษณ์
               โปรดชี้ชักให้คืนจิตใจอย่าได้หมองศรี
               มีคุณพระคุ้มครองให้ดวงหทัยจิตในฤดี
               อย่าได้มีจิตใจเศร้าพร้อมก้าวออกเดิน.

                                      แก้วประเสริฐ.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้วประเสริฐ
Lovings  แก้วประเสริฐ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้วประเสริฐ