เห็นคนอื่นไปดูหิ่งห้อย ไอ้เราก็ได้แต่ทำหน้าละห้อย ไปตลาดน้ำอัมพวาก็หลายหนแล้วค่ะ แต่ไม่เคยไปนอนพัก และแล้ว สิ่งที่ปรารถนาก็เป็นจริง " คุณ เตรียมโปรแกรมหรือยังว่าไปอัมพวาแล้วจะไปไหนบ้าง ไปดูหิ่งห้อยกัน ลองปรึกษาพี่เล็กดูครับว่าไปพักที่ไหน " " เจ้......" แก้วฯก๊อปข้อความไปวางให้พี่อ่าน " 5 5 5 คุณกิ่งไปค้างที่อื่นได้เหรอ .." เจ้แซว " ได้สิๆๆ รีบตอบแทนเลย ก่อนที่จะไม่ได้ไปดูหิ่งห้อย" เช้าวันที่ 04 มิถุนายน 2554 แก้วฯยังต้องมานั่งทำงานถึงบ่ายโมง ขณะที่คุณกิ่งก็เตรียมตัวหาที่พัก และรอเวลามารับไปเที่ยว " คุณ....ผมหาไว้สองสามแห่ง ลองดูตามลิงค์นะครับ" หลังจากเปิดเข้าไปดู " บ้านนก" " ว้าวๆๆ คุณเอานี่แหละคะ เค้าจะเอาบ้านนกแก้ว หรือไม่ก็บ้านนกนางนวล สวยดีค่ะ" ปรากฏว่าคุณกิ่งโทรไปถามรายละเอียด เหลือเพียงหนึ่งห้อง ก็เลยต้องหากันใหม่ค่ะ สรุป แก้วฯเลือก บ้านสวน สายน้ำ พอเข้าไปดูบรรยากาศ และกิจกรรมที่เขาแนะนำแล้ว รู้สึกชอบ ดูร่มรื่น และสงบ ที่สำคัญอยู่ริมแม่น้ำ หนึ่งละ พอเข้าไปในบ้านสวน มีจักรยานให้ปั่นชมรอบๆสวนได้ค่ะ สอง อยู่ติดริมน้ำ จากการที่ดูภาพแล้ว วิวสวยมาก สาม มีตักบาตรเช้า สี่ นี่สำคัญ เขานำเสนอว่า มีลิ้นจี่ ( แต่ทำใจไว้แล้วว่า ลิ้นจี่คงหมดฤดูเขาแล้วอาจจะไม่มี ) ห้า มีเครื่องดื่ม กาแฟ โอวันติน อาหารเช้าให้ทานด้วยค่ะ หก สำคัญไม่ได้อยู่ใกล้ตลาดอัมพวา จึงคิดว่าต้องน่าอยู่ และเป็น ธรรมชาติแน่นอน เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ บ่ายสองโมง หลังจากให้คุณกิ่ง ติดต่อ คุณสันติ ซึ่งเป็นเจ้าของได้แล้ว ก็โอนเงินไปมัดจำล่วงหน้า หนึ่งพันบาท ส่วนที่เหลือ ไปชำระที่นั่นค่ะ อ้อ ลืมบอกไปว่า ตอนคุณกิ่งโทรจอง เขาบอกหลังละ 1000 บ้านสองหลังติดกัน พอไปถึง เขาแนะนำว่า บ้านริมน้ำอีกหลังว่างพอดี แต่เพิ่มอีก สามร้อย ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ สองสีพี่น้องเลือกบ้านน้ำทันใด ส่วนคุณกิ่ง ก็ต้องหยวนๆ นอนบ้านหลังถัดไปในสวน แต่ก็อยู่บริเวณเดียวกัน หลังจากเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปหาอะไรทาน เพราะท้องเริ่มร้องกระจองอแงแล้ว เจ้าของบ้านแนะนำ ร้านน้องอุ้ม ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ห่างจาก อุทยาน ร.2 สามารถขับรถหรือเดินไปไม่ไกลเท่าไหร่มากนัก ช่วงเวลาที่เราไปถึงโชคดีได้ที่นั่งที่ยื่นออกไปในแม่น้ำ รับลมเย็นๆ อาหารที่นี่อร่อย ถูกปาก แกงส้มหน่อไม้ดองใส่ปลาดุกทะเลอันนี้เคยทานมาหลายที่ รู้สึกอาหารร้านนี้รสกลมกล่อมดีค่ะ ไม่ผิดหวังค่ะ ทั้งกุ้งอบวุ้นเส้น ปลากระพงทอดน้ำปลา ปลาดุกทะเลผัดฉ่า หลังจากท้องอิ่ม เราก็ไปวนกลันไปหาที่จอดรถเพื่อไปชมหิ่งห้อยกัน ขับไปสักพัก ก็มีคนมาโบกให้จอดหน้าบ้านใครก็ไม่ทราบ " จอดได้เหรอ หน้าบ้านคนอื่นเค้านะ" "จอดได้ครับ บ้านนี้ เขาไม่สบาย เขาไม่ออกมาหรอก อีกนานนนถึงจะหาย" .......? พอหาที่จอดรถได้ ก็ซื้อตั๋วนั่งเรือชมหิ่งห้อย คนละ 60 บาท เรือออกเที่ยวเวลา หนึ่งทุ่มตรง ยังมีเวลาอีกนิดหน่อย ก็เลยไปถ่ายภาพเล่นๆกัน หลังจากได้เวลา ก็ลงเรือเพื่อชมหิ่งห้อย สวมเสื้อชูชีพซะก่อน ว่ายน้ำไม่เก่ง กลัวสิ้นชีพค่ะ อิ ว้าวววว เกิดมาไม่เคยเห็น หิ่งห้อยเหมือนในหนังและเหมือนที่เขาเล่ากันเลย แสงกระพริบๆๆ แก้วฯไม่ทราบว่า คนอื่นที่เคยไปชมมา จะเห็นเยอะแค่ไหน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไปชม เยอะมากๆ แสงของหิ่งห้อยตัวน้อยๆ พอรวมกัน กระพริบๆ ช่วงสวยเหลือเกิน เรือพาไปชมถึงครึ่งทาง สักพัก ก็มีโทรศัพท์ถึงคุณกิ่ง " คุณ ..เรือกำลังจะออกแล้วนะ คุณมาถึงหรือยัง" เจ้าของเรือโทรหา " ผมอยู่บนเรือแล้วครับ " เหวอ...แล้วเมื่อกี้ ที่เขาให้เราลงกันมา เขาลืมแล้วเหรอ มาถึงครึ่งทางแล้วครับพี่ อิ หลังจากชมหิ่งห้อยเสร็จ เราก็เดินชมตลาดต่อ " คุณ เค้าอยากกินไอสครีมอะ หวานๆ" แวะเข้าไปร้านไอสครีม โอ้ เยอะแยะไปหมดเลยค่ะ สุดท้ายเลือกรสอัญชัญมะพร้าวอ่อน คุณกิ่งบอกสอง คือเหมือนกัน ส่วนเจ้เลือกมะยมพริกเกลือ เอามาชิมๆๆ ไรหว่า..แปลกๆเนาะเจ้ เหนียวๆ มีพริกเกลือโรยอยู่ด้วย หลังจากชมตลาดน้ำกันพอสมควรก็เดินทางกลับที่พัก อาบน้ำ อาบท่า และก็ออกมานั่งจิบไมโล กาแฟกันตรงที่ระเบียงริมน้ำ อยากจะบอกว่า อากาศดีมากๆเลยค่ะ หากเพื่อนๆกำลังจะ หรือจะไป แนะนำที่นี่เลยนะคะ เจ้าของบ้านเป็นกันเอง และเครื่องดื่ม น้ำแข็ง จาน ช้อน เขามีวางให้ตรงระเบียง ช่วยเหลือตนเอง ทานเสร็จจะวางไว้ หรือจะล้างให้ก็ได้ค่ะ เราสามคนออกมานั่งคุยกัน แก้วฯกับคุณกิ่ง นั่งต่อโคลงกันคนละสามบท ส่วนเจ้ก็นั่งอ่านหนังสือ แบบชิวๆ อืม....ชีวิตนี้คงไม่มีอะไรที่ดีมากไปกว่านี้แล้วละค่ะ มีคุณพ่อ คุณแม่ผู้ให้กำเหนิดที่แสนประเสริฐ มีพี่ๆ ที่คอยให้กำลังใจน้องเสมอๆ มีเพื่อนที่เข้าใจ ถึงแม้บางครั้งจะแง้งๆใส่กันเหมือนพุดเดิ้ล อิ มีคนที่รักเรา ( หรือเปล่าหว่า อิ )อยู่ข้างๆ เขียนประโยคนี้ออกไป มะรู้จะมีคนนั่งหัวเราะหรือเปล่าน๊า ..อิ ห้าทุ่ม เริ่มง่วงนอน บอกบายบายคุณกิ่ง ต่างคนต่างแยกย้ายไปนอน เจ้หิวน้ำ เอาน้ำแข็งใส่แก้วเอาไว้กินให้ห้อง " คุณนายยย จะนอนข้างในใช่มั้ย ด้านข้างหัวเตียง " " แม่นแล่ววว ถูกต้องเด้อค่ะ " ขี้กลัว ยอมรับค่ะ ว่าขี้กลัว อิ แปรงฟัน ปะแป้ง ทิ้งตัวลงบนเตียง หันไปมอง เจ้หลับไปแล้ว เหวอออ...เค้ายังไม่หลับเลย หลับก่อนได้ยังไงว้า... กลอกตา ขึ้นๆ ลงๆ ซ้ายๆ ขวาๆ สักพักก็ผลอยหลับด้วยความเพลีย " กร๊องงงง " ตกใจตื่นทันที เสียงดังอยู่ข้างๆหู ใจเต้นระรัว เหมือนกลอง แต่ไม่เป็นจังหวะ เมื่อกี้เสียงนั้น......เสียงอะไร ...ข้างหู .. พ่อเจ้า แม่เจ้า ช่วยลูกด้วย...อย่ามาหลอกหลอน มาแกล้งลูกเลย ลูกมาขออาศัยพักผ่อนเพียงคืนเดียวก็จะลาแล้วเจ้าค่ะ เอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียง มองรอบๆ ก็ไม่มีอะไร นอกจากความเงียบ กับเสียงหายใจของเจ้ ยังไม่ทันจะปิดไฟ ทันใดนั้น " กร๊องงง " เอ้อ......เสียงน้ำแข็งละลายหล่นลงก้นแก้ว 555555 จะบร้าตายยย ...นอนต่อ... นาฬิกาปลุกตีห้าครึ่ง เตรียมตัวเพื่อไปตักบาตรเช้า แก้วฯให้ทางบ้านพักจัดเตรียมอาหารให้ เขาคิดชุดละ 50 บาท มีครบค่ะ ข้าว น้ำ ขนม แกง หลังจากตักบาตร เรียบร้อย ก็มาทานข้าวต้มที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ ก็ต่างคนพักผ่อนตามอัธยาศัย แก้วฯเลยไปปั่นจักยานชมสวนกัน แล้วกลับมาเตรียมตัว อาบน้ำ เช๊คเอ๊า เพื่อเดินทางไปทำบุญที่วัดบางแคน้อย และวัดทุ่งเศรษฐีกันต่อ เราจบทริปนี้ด้วยทานอาหารร้านครัวแม่อุไร ร้านนี้เสี่ยงไปกันเอง ( ไม่อร่อยค่ะ สั่งตั้งเยอะ อิ) ท้ายนี้ ขอนำภาพมาให้ชมกันนะคะ ตามคำแนะนำของเฌอมาลย์ ขอภาพใหญ่ขึ้น หากเข้ามาเปิดดูภาพได้ช้า ขอร้องงง อย่าเพ่อเปลี่ยนหน้านะคะ สุดท้ายคนที่ลืมไม่ได้ ที่จะกล่าวขอบคุณ คือ คุณกิ่ง ขอบคุณมากค่ะที่พาไปเที่ยว ทำบุญ กลับมาด้วยพร้อมพลังที่จะทำงานในวันนี้ บรรยากาศบ้านสวน สายน้ำ ริมระเบียง โปร่งโล่ง ให้นั่งเล่นกัน ดอกไม้สวยๆ บริเวณสวน แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านน้องอุ้ม เมนูที่สั่งมา อร่อยทุกอย่างค่ะ อิ่มหนำสำราญท้องแล้ว ก็เดินทางไปตลาดน้ำอัมพวาค่ะ หลังจากนั่งเรือชมหิ่งห้อยแล้ว ก็มานั่งจิบเครื่องดื่มที่ระเบียง คุยกัน เห็นคนสวมแว่นมั้ยคะ นั่นแหละค่ะ กิ่งโศก อิ ตักบาตรตอนเช้า 06.00-07.00 ทานข้าวต้มมื้อเช้ากัน ปั่นจักรยานเล่น ชมสวนกันค่ะ หลังจากนั้น เดินทางไปมำบุญที่วัดบางแคน้อย และวัดทุ่งเศรษฐี ผีเสื้อบินเข้าไปในรถ เชิญออกก็ไม่ยอมออกไปค่ะ ส่วนที่เหลือ แหม....เธอนอนสบายจังเลยนะ ร้อนมั้ยนั่น อิ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ แก้วประภัสสร 06/06/2544