04 มีนาคม 2554 " คุณ มีอะไรวางไว้บนรถมั้ย อย่าลืม " ปู่ถามแม่แก้วแบม ขณะมาส่งที่บ้าน " ไม่มีค่ะ แต่ เอ้อ รู้สึกว่าจะมีลืมอยู่นะคะ " ชีกล่าวพร้อมกับอมยิ้ม " ลืมหัวใจไว้ที่คุณ .5 5 5 5 " ชีพูดพร้อมกับหน้าเขินอายหน่อยๆ จริงๆแล้วอายุปูนนี้ ไม่น่าจะอายเล้ย..นะ ..แม่คุณ อิๆ " นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว หัวใจคุณนะอยู่ที่ผมตั้งนานแล้ว" หุๆๆ ได้ทีๆ แม่แก้วแบมหยอดต่อ " ฝากไว้แล้วห้ามเอามาส่งคืนนะ.." เอิ๊กๆๆ " แน่นอนครับ จะรักษาไว้เป็นอย่างดี " เขามองตาฉัน ฉันมองตาเขา แล้วเราก็มองตากัน ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง สักพัก เสียงลุงยามดังขึ้น " จะถอยมั้ยครับรถนะ จะถอยหลังมั้ยครับ " อะเจ๊ยยย "บ๊ายบายค่ะ อ้อ พรุ่งนี้จะไปชมโขนกลางแจ้งกับเค้ามั้ย วันก่อนเห็นเขามาออกรายการทีวีช่องเก้า อยากไปชมค่ะ " " ดูก่อนครับ พรุ่งนี้ผมสัมนาอีกวัน ถึง 16.30 " " ได้คะ เค้าจะชวนเจ้เล็กไปด้วย บ๊าย บาย " 05 มีนาคม 2554 หลังจากงานเลิกช่วงบ่าย แก้วฯไปโฉบแถวๆเยาวราช ไปพบพี่ที่นั่น เนื่องจากพี่ขัดใจไม่ได้ ชวนแกไปชมโขน ซึ่งเคยไปชมนานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยอาจารย์เสรี หวังในธรรมยังแสดงอยู่ ตอนนั้นประทับใจมาก จนลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ มาวันนี้ หากพลาดโอกาสได้ชมอีก ก็ต้องรอปีหน้าโน่น ถึงจะได้สัมผัส กลิ่นไอ กับเสียงพากย์อันตรึงใจเช่นนั้น บ่ายสองโมง เราแวะทานอาหาร ที่ร้าน แคนตั้น ที่อยู่ติดกับ โรงแรมไชน่าทาวน์ เป็นอาหารแบบจีนๆ อาหารตามสั่งและติ่มซ่ำ แก้วฯเลือกร้านนี้ เพราะราคาไม่แพงมากค่ะ หลังจากอิ่มหนำสำราญหทัยแล้ว ก็ได้เวลา เดินทางต่อไปยังที่จุดหมาย ยังมีเวลาเหลืออีกสามชั่วโมง แก้วฯก็เลยชวนพี่ เดินเล่นชมของที่แม่ค้า พ่อค้า นำมาวางขายแถว ท่าช้าง ถึงท่าพระจันทร์ แผงพระให้เช่าเยอะแยะ แต่กลับไม่ใช่จุดสนใจของแก้วฯเลยสักนิด พี่สะกิดถาม " เห็นชอบส่องพระ พระสะสมเยอะแยะ หล่อนไม่สนใจเหรอ" แก้วฯส่ายหน้า " พระที่เค้ามีและได้มา ล้วนมาจากของสูง มีคุณค่าทางจิตใจ และกราบไว้ด้วยความศรัทธา แต่แบบแบกับดิน ขอชมแต่ไม่นิยมสะสมอะเจ๊ " " พี่ก็เห็น หลายๆองค์คล้ายของเธอ ทำไมละ ดูเก่าๆทั้งนั้นเลยนี่นา" เจ๊ถาม " เอาเป็นว่า เค้าไม่ศรัทธาอะเจ๊ เดี๋ยวจะพาเจ๊เดินไปตรงแถวๆ หน้าร้านศูนย์หนังสือเกี่ยวกับธรรมมะ ให้ดูชัดๆ แล้วเจ๊จะไม่สงสัยอะไรเลย เราพาพี่เดินเลี้ยวขวา ไปฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ แล้วชี้ให้ดู เป็นตัวอย่างหนึ่งแผง เจ๊พูดเบาๆ " โห....เขามีพระแบบเดียวกันเป็นร้อยๆ แยกถุง ยังกับ สินค้ายกโหลแถวสำเพ็งเลยอะ " แก้วฯยิ้ม " เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าทำไม ไม่สนใจ ของจริงก็คงหลงมาอยู่บ้าง และของปลอมก็เยอะ พระดีๆ ไม่ถึงมือคนที่ตาไม่ถึงหรอกเจ๊ ไปอยู่กับเซียนพระดังๆ หมดแล่ว .." หลังจากพาพี่เดินชม จนเหงื่อไหลไคลย้อย เราก็เดินไปถึงหน้า พิพิธภัณสถานแห่งชาติ ซึ่งอยู่ติดใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ การแสดงโขนกลางแจ้ง มีมาเป็นปีที่ 58 แล้วค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 23 สำหรับท่านที่สนใจจะไปชม ยังมีอีกหลายสัปดาห์ค่ะ เขาแสดงวันเสาร์และอาทิตย์ เริ่มแสดงเวลา 17.00-19.00 แต่ละวันการแสดงไม่ซ้ำกัน ส่วนคนแสดงก็มาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์และจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เราโชคดีที่ได้เกิดมาในแผ่นดินไทย ที่มีวัฒนธรรมและการแสดง ที่เป็นเอกลักษณ์มาแต่ช้านาน สำหรับเมื่อวาน เป็นการแสดงโขนผู้หญิง เรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกสิบขุนสิบรถ และละครใน เรื่องอิเหนา ตอนอิเหนาลานางจินตะหรา แก้วฯขอนำภาพบางส่วนมาให้ชมกันค่ะ เสียดายนั่งไกลหน่อยค่ะ ข้างๆ ลานแสดง จะมีอาหารขาย สามารถซื้อนำมาทานขณะนั่งชมได้ค่ะ กะรเป๋าเชี่ยนหมากแม่แก้วฯ อิ ดูสิคะ เข้ากับบรรยากาศเชียว อาทิตย์เริ่มอัสดง น้องๆ เริ่มเตรียมตัว นักข่าวและตากล้อง เตรียมพร้อม พิธีกรกล่าวรายงานการแสดง เริ่มการแสดงเรื่องอิเหนา ตอนอิเหนาลานางจินตะหรา เป็นละครใน แต่ในวันนี้ ใช้ตัวแสดงเป็นชายล้วนค่ะ การแสดงจะสมบูรณ์ไปไม่ได้ หากไม่มีคนพากย์เสียง ตอนเสียงกรับดัง ท่วงทำนองผสมเสียงเอื้อน ฟังแล้วทึ่ง ตรึงใจ ขนลุกเลยค่ะ ต่อไปเป็นการแสดงโขนหญิง เรื่องรามเกียรติ์ นักแสดงเป็นหญิงล้วนๆ พระราม พระลักษณ์ หน้าหวานจังค่ะ ทศกัณฐ์ คงต้องอวสานการลงภาพให้ทุกท่านชมเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ สงสัยเครื่องคอมกำลังจะมีปัญหาแล้วละคะ ช้าและอืดมาก อิ ฝากภาพรังนกริมระเบียง ให้ชมกันอีกภาพค่ะ ริมระเบียง ปลูกดอกอัญชัญ กำลังคิดว่า จะตัดทิ้ง เนื่องจากใบมักจะร่วง ลงไปใส่หลังคาบ้านอื่น แต่เหตุไฉน เจ้านกน้อย มาทำรังเสียนี่ เลยปล่อยเขาอยู่ไปค่ะ ส่วนหนึ่งจากใจ คือมอบเป็นของขวัญวันเกิด ให้ " โคลอน " คนดีแห่งบ้านกลอนจ้า