ปีกบุญ..... เธอเป็นยอดหญิงกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิด เธอยอมลาออกจากราชการ รับเงินบำนาญ เพื่อมาเลี้ยงดูแม่... เธอเปรียบพ่อและแม่เป็นเช่นพระอรหันต์ในบ้าน ไม่ว่าเธอจะทำอะไร นอน เดินทาง หรือทำอะไรที่ทำให้พ่อกับแม่ ไม่สบายใจ ทุกครั้งเธอต้องกราบที่เท้าสามครั้งเพื่อขอโทษ... แม้เธอจะนั่งสมาธิมาเป็นเวลาหลายปี ตัดเรื่อง โมหะ โทสะ โลภ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอไม่สามารถทำได้ คือกลัวผี... วันหนึ่ง พี่น้องคนอื่น ไปต่างจังหวัด คงเหลือเธอกับแม่สองคนในบ้าน เธอนอนคนละมุ้งกับแม่ สักครู่..."โบร่ะ....โบร่ะ....โบร๋ววววววว.." หมาหอน เธอไม่ต้องคิดอะไร มุดมุ้งไปนอนกับแม่ทันที.... แม่พอเข้าใจ ลืมตามาดูนิดหน่อย แล้วหลับต่อ... เสียงหมาไม่ยอมหยุดหอน...เธอนอนพลิกตัวไปมา... สักพักก็มีเสียงหนึ่งเล็ดลอดออกมาจากรูเล็กๆของอวัยวะ ส่วนหนึ่งของร่างกายเธอ "แป๊ดดดดดดดดดดดด " แม่ลืมตาตื่น...เธอรู้สึกผิด จึงลุกขึ้นนั่งแล้วกราบขอโทษแม่ "แม่คะ ..หนูขอโทษ ..อิ เมื่อกี้หนูผายลม.." แม่หันมามองเธอ แล้วยิ้ม..พร้อมพยักหน้าตอบไปว่า " อื้อ...ไม่เป็นไรหรอก...แม่ก็ต้องขอโทษลูกเหมือนกัน.." เธอทำหน้างงๆ แล้วถามแม่ว่า "อ้าว แม่มาขอโทษหนูทำไมค่ะ." " แม่ก็ผายลมเหมือนกัน..." 555555555555555 กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องที่รักทุกท่าน.. 29 สิงหาคม อย่าลืมไปเลือกตั้ง สก. สข. กันนะคะ..
12 ส.ค. 2553 แก้วฯตื่นตีห้า...บอกให้พี่ๆและน้า นอนต่อ.. ลุกขึ้นมานึ่งข้าวเหนียว หุงข้าว...เตรียมทำอาหารให้แม่ และตักบาตรเช้า... ก่อนหน้านี้ เวลารวมญาติ มาไม่กี่คน อาหารก็ทำเหลือกิน เหลือแจก.. แจกเสร็จก็ยังไม่หมด....แก้วฯเลยบอกพี่ๆว่า ผัก ปลา อาหารคาว ล้างเตรียมไว้ แต่ยังไม่ต้องทำหมด ทำอาหารพอกิน ประมาณคน ...กะแบ่งให้ข้างๆบ้าน แต่หากมากันเพิ่ม ก็เอาของที่เตรียมไว้ มาทำ คนมาทีหลัง ได้กินของสด และไม่เป็นการฟุ่มเฟือยอีกค่ะ เช้านั้น ทำลาบปลาบึก ผัดผัดรวม ไข่เจียว ง่ายๆ ค่ะ ทำลาบปลาบึกเป็นครั้งแรก สับๆ อิ.. พี่มาแนะนำทีหลังว่า หากหั่นเป็นชิ้นบางๆจะน่าทานมากกว่าสับ... ผัดรวมผัก พอไหวมั้ยคะ .. ไข่เจียวร้อนๆ น้ำมันใส่เล็กน้อย ทำอาหารเสร็จ อาบน้ำ ออกไปใส่บาตรในหมู่บ้าน.. เมื่อก่อนจะมีพระวัดเดียวเดินบิณฑบาตร แต่กลับไปคราวนี้ มากันถึงสามวัดเลยค่ะ.. หลังจากเตรียมอาหารให้แม่ทานเรียบร้อย พาแม่ไปวัดบ้านยางลุ่ม ไปเยี่ยมพระซึ่งท่านอาพาธ.. เลยถ่ายโบสถ์ที่วัดมาฝากกันค่ะ ถ่ายที่หน้ากุฏิเจ้าอาวาสองค์เก่าค่ะ โบสถ์ ซึ่งยังสร้างไม่เสร็จ รอปัจจัยจากญาติโยมอยู่คะ ... พระพุทธรูปที่ถูกทำขึ้นมา และประดิษฐ์อยู่ในป่า บริเวณวัดค่ะ ต้นเฟิร์นข้าหลวง ใบเขียวชะอุ่ม .. หลังจากลาหลวงพ่อแล้ว ก็กลับมาบ้าน แม่ไปนอนอ่านหนังสือ ที่กระต๊อบน้อย ก่อนหน้านี้ เกิดการแย่งตัวแม่ไปงานกัน พี่คนนั้นจะให้ไป พูด พี่คนโน้นก็จะมารับไป สุดท้าย แม่ปฏิเสธหมด บอกว่าจะรอลูกชายสุดที่รักที่เหลือเพียงคนเดียวมาหา แก้วฯเดินสำรวจต้นไม้ เมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา เอาปลูกไว้ หลายต้น และรวมทั้งของเก่าที่ปลูกไว้ ... เก็บภาพมาฝากกันค่ะ ได้ผลต้นเดียวที่ออกลูก อิ ที่เหลือ มีดอก แต่ว่าต้นสูง ไม่มีลูกซะงั้น.. ได้ผลผลิตจากมะพร้าว เก็บขายได้แล้วค่ะ ต้นสูงเท่าคนเอง. พริกต้นนี้ มีบุญคุณกับที่บ้านมาก เดิมเป็นต้นพริกธรรมดาๆ อยู่ๆ เลื้อยตามต้นส้มโอ และไม่เคยตายเลย จะสิบปีแล้วนะคะ ได้อาศัยเขานี่แหละค่ะ มาทำอาหาร แต่เผ็ดมาก ขอบอก.. เดินไปด้านหลัง ตามแนวรั้วบ้าน พวกเราเอาต้นไม้ที่อยากจะปลูกมาลงไว้.. ตายบ้างโตบ้าง เพราะบางต้น เติบโตได้ดีในป่า... ต้นนี้เหมือนกันค่ะ เรียกว่า ผักติ้ว ปลูกยาก สุดท้ายก็โตด้วยสองมือคน.. ต้นหมากกำลังออกลูกเต็มต้น แม่ปลูกไว้ ให้ชาวบ้านเอาไว้เคี้ยวหมากค่ะ ต้นมะยม กำลังออกลูกเล็กๆ ต้นมะกรูด เวลาทำอาหาร เด็ดใบมาสดๆ หอมมากๆเลยค่ะ ต้นชะอม กำลังงามเชียว. ยังมีอีกมากมาย ผักริมรั้ว บวบ ผักบุ้งนา ตะไคร้ กระเพา ฯลฯ ช่วงบ่ายก่อนจะกลับมากรุงเทพฯ พี่เขยกับพี่สาวไปอำเภอเขมราฐเยี่ยมญาติ โชคดีเหลือเกิน ชาวบ้านเอาเห็ดระโงกมาขายข้างทาง เลยเป็นบุญของแก้วฯ ที่ได้กินแกงเห็ดสดๆ ฝีมือพี่สาวค่ะ ตำแตง ฝีมือแก้ว อิ ใส่พริก 1 เม็ด เด็กๆ ชอบ ปลาหมึกทอด หอมๆ คะ พี่บอกว่า ชื่อ เห็ดก่อ ..แต่รสชาติ สู้เห็ดระโงกไม่ได้ค่ะ บรรดาจำพวกเห็ด แก้วฯชอบมากๆ อยู่สองชนิด เห็ดโคน และเห็ดระโงก เห็ดระโงก สีเหลือง ผิวลื่นๆ แม้จะล้างดินออกยาก แต่พอได้ทำแกงแล้ว อร่อยที่สุดเลยค่ะ แกงเห็ดระโงก ไม่ใส่พริก การนำเห็ดมาปรุงเป็นอาหาร ให้นำเอาข้าวสารใส่ลงไปในแกง ที่คุณทำทุกครั้ง หากข้าวสารเป็นสีขาวเหมือนเดิม ปลอดภัยค่ะ แต่หากสีของข้าวสารเปลี่ยนเป็น สีดำ สีส้ม หรือไม่ใช่สีขาว เททิ้งไปเลย ภาชนะที่นำมาใส่ หากจะนำมาใช้อีก ก็ให้ล้าง ต้ม ทำความสะอาดให้ดีที่สุด จบด้วยภาพดอกกุหลาบหน้าบ้าน 15.30 กราบเท้าคุณแม่ ลากลับมาทำงาน ... ลามาด้วยความคิดถึง เป็นห่วง แม่แข้มแข็ง แก้วฯแอบกลืนน้ำตาลงคอ ไม่อยากกลับมา แต่ภาระ หน้าที่ ยังมีอยู่ แม่บอกว่า แม่ยังจะอยู่ ดูความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของลูกแม่ทุกคน ยังอยู่อีกนาน อิ ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลา แวะมาอ่านเรื่องสั้นของแก้วประภัสสร **เสียดายคนเขียนไม่ได้ชม** เมื่อคืนวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา รายการศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ ทางช่อง 5 ได้นำโคลงของแก้วประภัสสร ออกอากาศ บทอาเศียรวาท เพื่อนๆ พี่ๆ ได้ดูกัน ... แต่ขณะนั้น แก้วฯนอนอยู่บนรถไฟแล้วค่ะ..
11 ส.ค. 2553 08.30 น. พี่เขยขับรถมารับที่สถานีรถไฟ แก้วฯแวะไปตลาด ซื้อผลไม้ อาหาร เพื่อ เตรียมไว้ทำบุญ ตักบาตรในตอนเช้า.. พี่สาวโทรเข้ามือถือ ถามว่าถึงไหนกันแล้ว แม่รอทานข้าวด้วย.. หากยังไม่ถึง แม่จะได้ทานก่อน แก้วฯบอกว่า ถึงบ้านไม่เกินสิบนาทีค่ะ แม่นั่งรอที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน กับอาหารเต็มโต๊ะ พี่สาวอีกสองคน พอลงจากรถ ของที่อยู่ในรถ ปล่อยมันไปก่อน อิ เข้าไปกราบเท้าแม่ แม่ดึงแก้วฯเข้ากอด หอมแก้ม ฟอดๆๆ แบบว่า หลายฟอดไงคะ อิ "ว่าไงคะ ลูกแก้วประภัสสร ...(พักหลังแม่ชอบแซวประจำ..) กลับมาคราวนี้ ทำไมตัวดำละลูก .. .." แม่เสยผมแก้วฯ " โธ่.. แม่ก็... หนูไปอยู่นั่นลำบากมากนะแม่.. หนูน่าสงสารมากๆ..ไปไหนก็ต้องเจอแดด แผดเผา เหงื่อไหล ไคลย้อย.. แม่สงสารหนูมั๊ยคะ..แฮ่ะๆๆ .." แก้วฯ แกล้งเย้าแม่เล่น " ไม่สงสารหรอก เรานะชอบเที่ยวจนตัวดำมากกว่าละมั้ง.." หลังจากอาบน้ำ ปะแป้ง หอมๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาทานข้าว ซึ่งแม่กับพี่ๆนำหน้าไปก่อนแล้ว .. ฝนตกหนักมากๆค่ะ น้ำเจิ่งนองพื้น โชคดีว่า ไม่ไหลเข้าไปในบ้าน อาหารมื้อแรก ที่ถึงบ้าน มี ส้มตำของโปรด แต่เผ็ดมากๆ ทานไปได้ไม่กี่คำเองค่ะ ตับหมูปิ้ง ตับไก่ปิ้ง แกงบวบใส่ปลาช่อน ปลาทับทิมเผา และผักสด อ้อ และก็อาหารมังสวิรัต พี่ๆ เข้าพรรษา งดเนื้อสัตว์ค่ะ ปลาทับทิมย่างเกลือ ผัดรวมผัก สำหรับพี่ ที่ทานมังสวิรัต ส้มตำปู ปลาร้า อร่อยค่ะ แต่เผ็ดมาก ผักสด เก็บจากรอบๆรั้วบ้านนั่นแหละค่ะ ไม่ต้องซื้อ ตับหมู ไก่ กระดูกอ่อนย่าง หอมมากๆค่ะ หลังจากทานอาหารเรียบร้อย แก้วฯก็ขอตัวแม่ เพื่อไปทำธุระกับพี่สาว ที่กรมที่ดินจังหวัด แม่และพี่คนอื่นๆ ถามว่าจะไปไหนกัน แก้วฯบอกไปธุระ แป๊บเดียว เดี๋ยวกลับ.. แต่ดูเหมือนว่า แม่ยังสงสัย .. สุดท้ายพี่สาวก็เลยต้องบอกความจริงท่านไป เพราะไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ ว่า น้องช่วยปลดหนี้ให้ เพราะเนื่องจาก เอาที่ไปจำนอง ส่งลูกเรียน แต่ภาระมากเกิน เลยให้น้องช่วย จะไปโอนที่ดินให้น้อง.. จริงๆแล้ว ก่อนหน้านี้ ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า จะเล่าดีหรือไม่ดี.. ไม่ว่าจะอย่างไร เมื่อเกิดเป็นพี่น้องกันแล้ว ถึงแม้จะช่วยได้หรือไม่ได้ การที่รับฟังปัญหาซึ่งกันและกัน เป็นทางออกที่ดีที่สุด อย่างน้อยก็ได้ผ่อนคลาย บางทีเรา และเขา อาจจะแนะนำ หาทางออกให้ได้ หลานชายคนโต ขณะนี้เรียบจบแพทย์แล้ว เริ่มทำงานที่โรงพยาบาลจังหวัดมหาสารคาม หลานชายคนที่สอง อีก 1 เทอม ก็จะจบเช่นกันค่ะ แม่เรียกเราทั้งสอง พี่กับแก้วฯเขาไปหา ไม่ได้ตำหนิพี่ ที่มีอะไรไม่เล่าสู่กันฟัง แต่บอกว่า ดีใจที่พี่น้อง ลูกแม่ทุกคนรักกัน * *นี่คือของขวัญที่มีค่า ที่ลูกให้แม่ .. ขอให้ลูกช่วยเหลือกัน อย่าทิ้งกัน เมื่อไม่มีแม่...** เรื่องราวช่วงเช้า จบลงตรงที่ ไปกรมที่ดิน เสร็จภาระหน้าที่ กลับมาบ้าน แม่กำลังนอนอ่านหนังสือที่ กระต๊อบหลังเล็ก ที่พ่อเอาหญ้าคา และไม้ไผ่ ทำให้แม่และลูกๆๆ นอนเล่น แก้วฯเข้าไปนอนข้างๆแม่ นึกขึ้นได้ โทรเข้าเบอร์น้องที่ทำงาน ถามเรื่องงาน และส่งสายให้คุยกับแม่ แม่ให้พรน้องยาววววววววว อิ สักพัก เพื่อนโทรมาหาแก้วฯ ทักทายกัน บอกว่าคงไม่ได้มาหา แม่ให้พรยาววววววววววววว 555 ช๊อตเด็ด...พี่แจ้นเอง ส่งข้อความวันแม่เข้ามา อ่านแล้วซึ้งมากๆ .. หากจะตอบเป็นข้อความ คงต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง เพราะไม่ถนัด ส่งเมสเสสเท่าไหร่ กดเบอร์หาพี่แจ้น...ทักทาย ถามทุกข์สุข.. แม่คุยกับพี่แจ้น.......ให้พรยาวววววววววววววว 555 แต่มีหลายประโยค ที่แม่เฒ่าวัย 88 กล่าวกับพี่แจ้น ที่แก้วฯพอจะจำได้คือ "หากลูกเป็นครู ขอให้สอนเด็ก เหมือนกับลูกตัวเอง... หากลูกทำงาน เป็นหัวหน้า นายคน ขอให้มีเมตตา แก่ลูกน้อง...ฯลฯ" และอีกหลายๆคำ ที่แม่ให้พรพี่... หลังจากวางสายแล้ว ...แก้วฯก็เผลอหลับไป เพราะความง่วง เอาไว้เล่าต่อไปเรื่อยๆนะคะ อย่าเพิ่งเบื่ออ่านกันน๊า... ขอให้มีความสุขกันทุกวันค่ะ
10 ส.ค. 2553 แก้วฯเดินทางกลับบ้านเยี่ยมแม่ โดยรถไฟตู้นอน ซึ่งเลือกตู้ใหม่ เพราะนอนแล้วไม่ปวดหลัง เนื่องจากตนเอง ไม่สามารถจะนั่งรถในระยะทางไกลๆได้นาน จึงเลือกตู้นอนค่ะ รถออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ตรงเวลา 20.30 น. พอรถไฟเคลื่อนตัว ก็ขอให้พนักงานปูเตียง เราเลือกเตียงล่างค่ะ ตู้รถไฟจากญี่ปุ่น นิ่ม เก็บเสียงได้ดีพอสมควร ห้องน้ำสะอาด เท่าที่แก้วฯได้พูดคุยกับหลายๆคน ที่ใช้บริการตู้นี้ พูดเสียงเดียวกันว่า ชอบมาก ถึงแม้จะจ่ายแพงกว่าตู้นอนแอร์ของไทย ปรกติ เตียงนอนล่าง แอร์ ตู้ไทย 741 บาท ต่อเที่ยว แต่ตู้ของญี่ปุ่น เพิ่มอีกสี่สิบบาทเองค่ะ นาฬิกาจากมือถือ ปลุก ตีห้าครึ่ง แก้วฯลุกเดินไปเข้าห้องน้ำ แปรงฟัน กลับมาที่เตียง หลายๆคน ปลายทางอยู่ที่ จังหวัดศรีษะเกษ , อุทุมพรพิสัย, อุบลฯ ซึ่งยังคงนอนหลับอยู่ แก้วฯหยิบหนังสือ ที่ได้รับการแนะนำจากน้องที่บริษัทว่า เป็นหนังสือที่ดีมากๆ ไม่เชื่อหรอก อิ ต้องซื้อมาอ่านก่อน ถึงจะเชื่อ ก่อนขึ้นรถ เลยแวะ ซื้อที่ร้านเซเว่น หนังสือชื่อ " หยุด ความเลว..ที่..ไล่ล่าคุณ.." ด้านล่างของหนังสือ เขียนไว้ว่า ของขวัญล้ำค่า... สำหรับมนุษย์ทุกคน...ที่มีแม่... เห็นมั๊ยละคะ แค่หน้าปก ก็น่าติดตามแล้ว อยากให้อ่านเองค่ะเนื้อหามีหลากหลาย ทั้งธรรมมะ และทำให้คืดตาม หัวข้อเรื่องที่แก้วฯ อ่านแล้วเห็นด้วยมากๆ " เหนือฟ้า ยังมีฟ้า" "เอามะม่วง มาสอนคน" และอีกหลายเรื่องราว ที่อ่านแล้วประทับใจ หลังจากอ่านจบเล่ม... แก้วฯสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ขอบคุณ พ.อ.(พิเศษ)ทองคำ ศรีโยธิน คุณ สมคิด ลวางกูร ที่เขียนหนังสือเล่มนี้ให้คนทั่วประเทศได้อ่านกัน มีประโยคหนึ่ง ที่ พ.อ. กล่าวกลับ คุณสมคิดว่า จะเขียนเรื่องที่ขออนุญาตท่านมาหลายครั้งแล้ว แต่ถูกคนอื่นให้เขียนตัดหน้าไปก่อน คุณสมคิดตอบว่า " พยายามต่อไปลูก..ความดีมันทำยาก.." หลังจากทุกคนตื่นกันหมดแล้ว เตียงบน คงเหลือ ชาวฝรั่งตัวสูงโย่ง อีกหนึ่งคน และแก้วฯ ที่ปลายทางอยู่ที่อุบลฯ เขาลงมานั่งเตียงล่างและถามแก้วฯเป็นภาษาอังกฤษว่า " คุณพูดภาษาอังกฤษได้มั๊ย" แก้วฯ ตอบว่า " พูดได้นิดหน่อย" เป็นธรรมดาค่ะ คนไทย อ่อนน้อม ถ่อมตนเสมอ .. แต่ความจริง พูดได้นิดหน่อยจริงๆค่ะ... แฮ่ะๆๆ หลังจากนั้น เราก็เริ่มบทสนทนา ซึ่งระยะทางที่เหลือ คือจากจังหวัดศีรษะเกษ ถึงอุบลฯ ลืมบอกไปว่า รถไฟเสียเวลา (ตามเคย) เกือบสองชั่วโมงค่ะ ปรกติ เจ็ดโมงครึ่งจะต้องถึงอุบลฯ แต่เรายังอยู่ที่ ศรีษะเกษ เราเริ่มคุยกันหลายเรื่อง เขามองที่กระเป๋าเดินทางของแก้วฯ แล้วพูดว่า "พูม่า " แก้วบอกว่า "ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" "พูม่า และ อาดิแดส ผลิตที่เยอรมัน" "อ้อ งั้นคุณก็เป็นคนเยอรมัน ใช่มั้ย" แก้วถาม " ใช่ครับ ผมเป็นคนเยอรมัน" "อยู่เมืองไหนคะ " "ผมอยู่ ดุสเซ็นดอฟ " "อืม.. แล้วคุณมาสายการบินอะไรคะ ฉันเห็น สายการบินแอร์เบ.... ดูเหมือนว่า ราคาค่อนข้างจะถูก" "ไม่ครับ..ถูกก็จริง แต่ผมไม่ชอบ เขาไม่เซอร์วิสเหมือนสายการบินทางเอเซีย ทุกอย่างบนเครื่องต้องซื้อ ที่นั่งก็ไม่สะดวกสักเท่าไหร่" "อ้าวเหรอ..ฉันคิดว่าน่าจะดีสำหรับคนเดินทางเสียอีก แล้วคุณใช้ บริการสายการบินไหนคะ " "ผมชอบ สายการบินการ์....ครับ เขาบริการดีมากๆ ถึงแม้ผมจะเลือก ที่นั่งชั้นธรรมดา แต่พนักงานเดินมาถามตลอด ขาดเหลืออะไรบ้าง ผมชอบ รวมทั้งที่นั่งด้วย ไม่แคบเกินไปสำหรับคนตัวโต" เขาถามแก้วฯว่า "คุณไปอุบลฯ ไปเที่ยวหรือครับ " แก้วตอบว่า " ฉันไปเยี่ยมแม่ วันแม่ แต่ก็ไม่ได้เลือก หากฉันว่างเมื่อไหร่ ฉันก็จะกลับบ้านทันที" "แล้วคุณล่ะ ไปเที่ยวที่อุบลฯเหรอ" เขาส่ายหน้า " ไม่ครับ ผมจะไปลงอุบลฯ แล้วเดินทางต่อไปประเทศลาว" "อ้าว..ทำไมไม่เที่ยวที่เมืองไทยละคะ เมืองไทย ยังมีแหล่งท่องเที่ยว ที่สวยงามอีกมากมาย ไม่ว่า น้ำตก ภูเขา ทะเล " มาฟังคำตอบฝรั่งชาวเยอรมันคนนี้ดูค่ะ " ผมเคยชอบและฝันอยากมาเที่ยวเมืองไทยมาก แต่ว่า เท่าที่ผมพบมา หลายคน ชอบเงินมากกว่า ยิ่งผู้หญิง เขาชอบเงินมากกว่าผม..." แก้วฯอึ้งไปนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจในสิ่งที่ฝรั่งคนนี้พูด มีสิ่งเดียวที่ฉันจะทำตอนนี้ ก็คือ อธิบายให้เขาเข้าใจ แม้ผลจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ว่ากัน " ฉันไม่ทราบว่า คุณไปพบอะไรมาบ้างในเมืองไทย แต่อยากบอกให้คุณรู้ว่า คนไทย ไม่ได้เหมือนกันทุกคน .. บางคน เขาอาจจะจำเป็นที่ต้องนำเงิน หาเลี้ยงพ่อ แม่ ครอบครัว อีกหลายปาก หลายท้อง ที่รอที่บ้าน อยากขอให้คุณมองคนไทย ในแง่บวก ย้ำว่า นั่นไม่ใช่ทุกคน คนไทย ส่วนมาก จิตใจดี เมตตาค่ะ ผม ไม่ได้หมายถึงคนไทยทุกคน ผมขอโทษ ที่กล่าวแบบนั้น แต่เท่าที่ผมเจอมากับตัวเอง จะเป็นอย่างนั้นครับ หลังจากสนทนากัน จนรถไฟ ใกล้ถึงสถานีอำเภอวารินทร์ชำราบ จังหวัดอุบลฯ เขาเอ่ยปากถามว่า มีนามบัตรมั้ย แก้วฯตอบว่ามี พร้อมกับคว้านามบัตรบริษัท ยื่นให้เขา ดูปฏิกิริยา จากเริ่มพูดคุย และก่อนจะกล่าวลากัน ดูเหมือนว่า เขาเปิดใจคุยกับแก้วฯมากขึ้น หลังจากที่เขาหยิบนามบัตรแก้วฯไปดู แล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร ผมชื่อ มาร์โค นะครับ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณมาร์โค ..แต่ ..ใช่มาร์โค โปโร มั้ยคะ แก้วฯพูดพร้อมกับหัวเราะ เขาหัวเราะตาม ซึ่งเรามักจะไม่ค่อยได้เห็น คนฝรั่ง หัวเราะ แบบนี้สักเท่าไหร่ ก่อนรถถึงสถานี แก้วฯเปิดกระเป๋า เพื่อหยิบเอา สมุดโน้ต เล่มเล็กๆ ที่แก้วฯเตรียมจะนำไปให้แม่ ไว้แจกเด็กๆ ในวันแม่ ยื่นให้เขา แล้วบอกว่า ฉันให้คุณ เขาคงไม่ได้ยิน ในสิ่งที่แก้วฯพูด เขารับไปดู แล้วบอกว่า สวยครับ มันเป็นอะไร เป็นสมุดโน้ต แบบพกพา ติดกระเป๋าไปได้ทุกที่ ฉันเตรียมไว้ให้แม่ มอบให้เด็กๆ วันแม่ค่ะ เขายิ้มและกลับด้านหลังมาดู มันเป็นกรอบรูปด้วยนะคุณ เขาชี้ให้แก้วฯดู ไหน..สมุดโน้ตต่างหากละ .. แหม ก็เราซื้อมาเอง นี่นา ไม่ๆๆ คุณดูสิ.... หลังจากใช้กระดาษหมดแล้ว คุณก็สามารถ ตั้งเป็นกรอบรูป ใส่ภาพสวยๆได้ แก้วฯชะโงกหน้าไปดู เออ..จริงแฮ่ะ ฝรั่งตาดี กว่าเราอีก คริ... เขายื่นของกลับให้แก้วฯ... แต่แก้วฯบอกเขาว่า ฉันให้คุณไง เอาไว้จดบันทึก ตอนคุณไปเที่ยวประเทศลาว ดูสีหน้าเขา ไม่ค่อยมั่นว่า ให้เขาจริงหรือเปล่า เขาเอาของชิ้นนั้น แนบอก แล้วพูดย้ำ อีกครั้ง คุณให้ผมจริงๆเหรอครับ ชัวร์ ฉันให้คุณ มันอาจจะไม่มีค่ามากนัก สำหรับคุณ แต่ฉันขอเป็นตัวแทนคนไทยอีกล้านๆคน มอบของให้คุณ ไว้เป็นที่ระลึกค่ะ เขากล่าวคำ ขอบคุณฉัน แล้วบอกว่า เขาจะจำ คนไทยใจดี ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ ตลอดไป เรากล่าวคำว่า โชคดี แล้วต่างคนต่างลงจากรถไฟ ฉันแอบยิ้มอยู่ในใจ สิ่งที่แก้วฯทำ คงไม่สามารถ ลบความรู้สึก ที่คุณมาร์โค คิดอคติ กับคนไทย ที่เขาได้พบมาได้ แต่หวังว่า หากทุกคน ทุกชาติ มองเห็นเพื่อนมนุษย์ เป็นเหมือน ญาติ พี่น้อง เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ยิ้มให้กันด้วยความจริงใจ บางที เขาเหล่านั้น อาจจะเปลี่ยนมุมมอง และความรู้สึกดีๆกลับมาก็ได้ค่ะ อ้าว....ยัยแก้ว ...ไหนบอกจะเขียนเรื่องขำๆ ในครอบครัวล่ะ.. อิ .. อ่านอันนี้ก่อนแล้วกันนะคะ แล้วจะเล่าเรื่องขำๆ ในบ้านให้ฟัง เรื่องต่อไป ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ ขอให้มีความสุขกันทุกวันค่ะ ทางเดินระหว่างตู้ เตียงล่างก่อนปูเตียงค่ะ ขาวจั๊วะ น่านอนจังนิ ใครเคยเห็นบันใดบ้าง..ยกมือขึ้นสูงๆ... ว้าย...จั๊กแร้ดำเชียว....5555 กางแขนให้บันใดค่ะ สำหรับคนนอนเตียงบน ไฟหัวเตียง ไว้อ่านหนังสือค่ะ อ่างน้ำ ด้านในห้องน้ำค่ะ
ถนนหลายสาย .ย่อมมีทางแยก เพื่อมุ่งไปหลายที่.. บางสายอาจมุ่งตรงสู่เมืองใหญ่..เพื่อเสาะแสวงหาความรู้ ทำงาน หาประสบการณ์ บางสายอาจจะเป็นเส้นทาง ที่ให้หลายคนหวนวกกลับไปบ้าน บ้านหลังแรกที่เคยอยู่อาศัย... ถนนหลายสาย ยังคงรองรับผู้คนที่หลากหลาย ในวันแต่ละวัน โดยที่ไม่มีวันเหนื่อย.. เฉกเช่นกับรถไฟ เมื่อใดที่ผู้คุมหัวจักรทำงาน รถไฟก็ออกเคลื่อนตัว ไปตามเส้นทางสายต่างๆ ตามหน้าที่ เพื่อนำผู้คนไปถึงจุดมุ่งหมาย และปลายทาง โดยสวัสดิภาพ แต่เมื่อถึงเวลา ก็ต้องเสื่อมและชำรุดไปตามกาลเวลา.. คงไม่ต่างกับคน.. เมื่อวันหนึ่ง คนสองคน เดินทางเส้นทางสายยาว มั่นคง เป็นเส้นทางที่ราบรื่น... แต่เมื่อวันใดที่ทั้งสองคน จำต้องแยกทางกัน บนถนน... แต่คนละเส้นที่ตนได้เลือกแล้ว คนหนึ่ง..อาจจะเดินทางต่อไป โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย.... เดินไปด้วยหัวใจอันปวดร้าว... อีกคนหนึ่ง... มุ่งหน้ากลับบ้าน ที่มีภาระและหน้าที่ยังรออยู่ ไม่ว่าเส้นทางที่ได้พบมา จะดีหรือร้าย ปวดร้าวมากเพียงใด จงจุดตะเกียงในใจให้เกิดขึ้นมา แม้จะรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง เหมือนหลงอยู่ในป่าลึก"" ที่มีหมอกเทาโรยตัวแผ่คลุมให้หนาวเยือก * ขอให้เลือกหน้าที่มากกว่าหัวใจ ..* * เลือกครอบครัวแทนความปวดร้าว * จงจุดตะเกียงในใจคุณ ลุกขึ้นมาแล้วเดินต่อไป ไม่ว่าเส้นทางที่คุณเดินมา จะทำให้คุณเจ็บ ปวด ขื่นขมเพียงใด ไม่ว่าเส้นทางนั้น คุณจะไร้คนร่วมเดินทางด้วย แต่ขอให้คุณจำไว้ว่า . ยังมีคนรอคอยคุณมาชั่วชีวิต คือ พ่อ แม่ ท่านทั้งสอง ยังคอยคุณอยู่เสมอ ไม่มีรักใด จะยิ่งใหญ่เท่ารักของแม่ ไม่มีมือใด ที่จะอบอุ่นและปลอดภัย เท่ากับมือของพ่อ เขียนจากหัวใจของลูกคนหนึ่ง ถึง ลูกอีกหลายๆคน แก้วประภัสสร 09/08/2553