3 กุมภาพันธ์ 2553 13:25 น.
แก้วประภัสสร
เมื่อวันที่ 01 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเลิกงานแล้ว
เพื่อนได้นัดข้าพเจ้าไปทานข้าวมื้อเย็นและคุยเรื่องงานกัน
ร้านอาหารที่นัดพบกัน อยู่แถวเมืองนนทบุรี
หลังจากที่ทานข้าวและคุยกันเสร็จ ประมาณสองทุ่ม
ข้าพเจ้าก็ขอตัวกลับบ้าน โดยเรียกเท๊กซี่กลับ
เมื่อก้าวเท้าขึ้นรถ คนขับได้หันมายิ้มและถามว่า
"หนูจะไปไหนคะ?" คนขับเป็นคุณลุงอายุน่าจะประมาณ 60 กว่าๆ
ช้าพเจ้ารู้สึกชอบกับคำถามที่เขาถาม น้อยครั้งนักที่จะได้ยิน
คนขับกล่าวด้วยวาจาสุภาพและเป็นมิตร
"ไปฝั่งตรงข้ามเดอะมอลท่าพระค่ะ ขึ้นทางด่วนนะคะ"
ข้าพเจ้าตอบกลับไป และเปิดกระเป๋า เพื่อหยิบเงินยื่นให้จ่ายค่าทางด่วน
"ได้ค่ะหนู" คุณลุงยังคงพูด ค่ะ เช่นเดิม
ข้าพเจ้านั่งไปสักพัก คุณลุงก็พูดว่า
"หนูรู้มั้ยคะ ว่าหนูนะ เป็นคนมีบุญวาสนามากค่ะ"
คำพูด ทำให้ข้าพเจ้างง และนึกอยู่ในใจว่า อะไรกันเพิ่งจะก้าวขึ้นรถ
มองหน้ากันก็ยังไม่ชัด ลุงจะทราบได้ยังไงว่ามีวาสนา หรือไม่มี
ก็เลยถามต่อว่า "คุณลุงเป็นหมอดูเหรอคะ"
ลุงก็ตอบว่า "เปล่าหรอกหนู ลุงดูที่โหงวเฮ้งนะ
หากคนอื่น จะดูว่า หนูก็ธรรมดาๆ
แต่ลุงมองเห็นหนูเป็นคนมีเมตตา แต่ขี้ใจอ่อน ปากบอกไม่
แต่ในใจหนูน่ะ ยินดีจะช่วยคนอื่นเกินร้อยเปอร์เซ็น"
คราวนี้ ทำให้ข้าพเจ้านั่งนิ่ง เงียบ ยัง งงๆอยู่
มองขวา ทะเบียนรถลงท้าย 14 อ้าว หวยเพิ่งออกไปนี่นา
มองด้านหน้า หมายเลขผู้ขับขี่ ลงท้าย 12 โอ.อะไรจะบังเอิญจังค่ะ
มองสำรวจในรถ ด้ายขวามือ ลุงเขียน คัมภีร์ คาถาบูชาเมียไว้
ที่ว่า รักเมียจงยอมเมีย อะไรทำนองนั้นนะ
แต่ด้านซ้ายมือ มีป้ายอะไรไม่แน่ใจติดอยู่ ก็เลยหยิบขึ้นมา
เป็นประกาศนียบัตร จากรายการ จส 100มอบให้แก่
นายยงยุทธ วิจิตรลัญจกร
เก็บเงินได้ สามหมื่นห้าพันบาท และส่งคืนเจ้าของ
ข้าพเจ้าก็แปลกใจ ถามถึงนามสกุลลุง คำว่า
วิจิตรลัญจกร ลัญจกร นี่แปลว่าอะไร
ลุงบอกว่า" หนูเคยเห็นตราประทับของพระมหากษัตริย์มั้ยคะ"
ข้าพเจ้าตอบไปว่า" เคยได้ยินค่ะคุณลุง แต่หนูไม่เคยเห็น"
ทันทีสมองก็คิดขึ้นมาได้ เลยถามลุงไปว่า
"หากหนูเดาไม่ผิด นี่คือนามสกุลพระราชทานใช่มั้ยคะ"
ลุงแกปล่อยหัวเราะ 555 ออกมาแล้วตอบกลับมาว่า
"ใช่ค่ะหนู หนูนี่ฉลาดอนะคะ เดิมลุงนามสกุล แซ่หลีค่ะ
ภายหลัง ทำความดี ความชอบเยอะ เลยได้รับนามสกุลพระราชทานใหม่ค่ะ"
ข้าพเจ้ารู้สึกขนลุกซู่ขึ้น เริ่มรู้สึกอยากพูดคุยกับคุณลุงมากขึ้นแล้วค่ะ
สักพัก มีเสียงโทรศัพท์เข้ามาในมือถือของลุง
ท่านไม่ได้ใช้หูฟัง แต่เปิดเป็นแบบมีเสียงออกมาค่ะ
"ฮัลโหล คุณพ่อคะ พ่อถูกหวยมั้ยคะ 14 กับ 12
ที่รถของพ่อนะคะ" เสียงปลายทางถามมา
"ถูกค่ะลูก" ลุงตอบลูกสาวไป พร้อมกับหัวเราะดัง
"ฮ้า..พ่อ. ถูกจริงๆเหรอคะ ดีใจด้วยค่ะ งานนี้มีเลี้ยงๆ"
น้ำเสียงสดใสของลูกสาวลุง พูดพร้อมหัวเราะ
"ถูกกินนะลูกเพราะพ่อไม่ได้ซื้อค่ะ 555" ลุงหัวเราะอีกครั้งค่ะ
ในสิ่งที่ข้าพเจ้าสัมผัสได้ ขณะที่พ่อกับลูกกำลังสนทนากัน
สิ่งหนึ่งนั่นคือ บ่งบอกว่า ครอบครัวนี้ น่ารักมากๆ
ลูกสาวพูดกับพ่อลงท้ายว่า "ค่ะ" ขณะที่ผู้เป็นพ่อก็กล่าวตอบด้วยคำสุภาพ
กลับไปเช่นกัน
หลังจากนั้น ลุงหันมาคุยกับข้าพเจ้าต่อค่ะ
บอกว่า ขอให้ข้าพเจ้า หมั่นเจริญภาวนา ถือศีลห้าอย่างสม่ำเสมอ
จะช่วยหนุนบุญที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้น
ลุงบอกว่า ทุกวันนี้ที่คนเรา ไม่ยึดมั่น และมีปัญหาตามมาหลายๆอย่าง
เพราะเราเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว หากคนเราเห็นแก่ตัว
ก็จะดี
"คุณลุงคะ หากคนเราเห็นแก่ตัว มันจะมีอะไรดีละคะ
สังคมยิ่งจะแย่ ไม่มีการเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ " ข้าพเจ้าถามกลับไป
"คำว่าเห็นแก่ตัว ที่ลุงพูดหมายถึง เห็นแก่ตัวเราเองค่ะหนู
อย่างเช่นหนูเหมือนกัน เพราะความเมตตามากเกินไป
เลยเห็นแก่คนอื่น ทำอะไรเพื่อคนอื่น เลยลืมทำอะไรเพื่อตนเอง"
ลุงหันมายิ้มให้ข้าพเจ้า
"อืม ถูกต้องของคุณลุงค่ะ พระก็กล่าวเสมอว่า อัตหิ อัตโนนาโถ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน หากเรามัวแต่ช่วยคนอื่น
แล้วเขาจะหัดเดินเองได้อย่างไร?"
ข้าพเจ้าเก็บคำพูดของคุณลุงไปคิด และเริ่มต้นปฏิบัติ นั่งสมาธิ
ให้มากขึ้น หมั่นสวดมนต์ ทุกขณะ ไม่ว่าจะอยู่บนรถ หรือตื่นนอน เข้านอน
ขอบคุณคำสอนที่คุณลุงมอบให้กับคนสัญจร ที่พบกันเพียงไม่ถึงชั่วโมงค่ะ
ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมคุณลุงที่นามว่า"ยงยุทธ วิจิตรลัญจกร"
วันนี้ข้าพเจ้าได้เปิดหาข้อมูลจากกูเกิ้ล
ได้พบข้อความที่เขียนเกี่ยวกับคุณลุง เลยขอนำมาลง ให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ
ค่ะ
คุณลุงยงยุทธ วิจิตรลัญจกร แท็กซี่คนซื่อเก็บเงินสด35,000 ส่งคืนเจ้าของผ่านร่วมด้วยช่วยกัน FM 96.0
ผมเห็นภาพพ่อหลวง ที่อยู่ บนธนบัตรกำลังมองผมอยู่ ผมเป็นคนดี
อยากทำดี เงินนี้ไม่ใช่ของผม ผมอยากจะคืนเจ้าของให้เร็วที่สุด" เป็นคำกล่าวของโชว์เฟอร์แท็กซี่คนซื่อวัย 65 ปี "ยงยุทธ วิจิตรลัญจกร" โชเฟอร์แท็กซี่สีชมพู ทร-3420 กทม. ซึ่งแจ้งออกอากาศทางสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 96.0 MHz. โดยแจ้งเข้ามาเมื่อ 05.00 น.เศษวันนี้ (11 ก.ค.) และ แจ้งออกอากาศเมื่อเวลา 09.10 น.วันเดียวกันซึ่งเมื่อเช้ามืดตนนำแท็กซี่ไปเข้าอู่ล้างรถเห็นซองตกอยู่ที่พื้นเข้าใจว่าเป็นขยะ สุดท้ายมีแต่เงินสด 35,000 บาท จึงนึกถึงรายการร่วมด้วยช่วยกัน FM.96.0 MHz. เพื่อต้องการให้ช่วยประกาศหาเจ้าของ ส่วนตนก็ออกตระเวนตามหาเจ้าของมาโดยตลอด จำได้ว่ามีผู้โดยสารลงที่บ้านไหนก็จะตระเวนไปสอบถาม แต่ก็ไม่ใช่เจ้าของเงินสักราย
จากที่ซองขาวดังกล่าวมีแต่รอยเท้าเหยียบจากผู้โดยสารขึ้นลงหลายราย จากซองสกปรกดังกล่าวกลับมีแต่พันธบัตรฉบับละพัน อยู่ในซองจดหมายตอนแรกเข้าใจว่าเป็นของคุณลุงผู้โดยสารที่ขนต้นไม้มาเต็มคันใช้บริการประมาณเวลา 14.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 จึงแจ้งกับวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 96.0 MHz ทราบเพื่อสอบถามว่ามีใครแจ้งของหายไว้หรือเปล่า และ ตนกำลังเดินทางไปที่บ้านของคุณลุงคนนั้น เมื่อไปถึงไม่พบคุณลุงผู้โดยสารจึงสอบถามญาติ ทราบว่าคุณลุงเดินทางไป จังหวัดลำพูน ตนจึงของเบอร์เพื่อสอบถามว่าคุณลุงลืมของไว้หรือเปล่า ปรากฏว่าคุณลุงผู้โดยสารไม่ลืมอะไรไว้ จึงแจ้งกลับมาที่ วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 96.0 MHz เพื่อขอให้หาเจ้าของที่แท้จริง คุณสุกัญญา มากล้น Producer พร้อมทีมงานวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 96.0 MHz. สอบถามว่าที่ซองจดหมายระบุถึงใครหรือไม่ ปรากฏว่าไม่ระบุมีแต่ชื่อของซองใส่ธนบัตร ระบุชื่อ บริษัทวินเซนต์ ไชย์ จำกัด เลขที่ 31/12 ถนนสีลม เขตบางรัก กทม.
ทีมงานวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 96.0 MHz ติดต่อไปที่บริษัทวินเซนต์ ไชย์ จำกัด สอบถามคุณอาทิตย์ สินธุพงศ์ ผู้จัดการ บริษัทวินเซนต์ ไชย์ จำกัด เพื่อตามหาเจ้าของเงินทราบว่าเป็นชาวสิงคโปร์ ชื่อ Mr. VINCENT TAN ENG CHYE เปิดบริษัทตบแต่งภายในอยู่แถวสีลม โดยเช้าวันที่ 10 กรกฎาคม เจ้านายนั่งแท็กซี่จาก ศาลาแดง ไปลงดอนเมืองเพื่อเดินทางไป จ.เชียงใหม่ แล้วทำซองธนบัตรตกในรถแท็กซี่คันดังกล่าว รายการตรวจสอบความถูกต้องเบื้องต้น จึงให้คุณอาทิตย์ สินธุพงศ์ และ คุณยงยุทธ วิจิตรลัญจกร โชเฟอร์แท็กซี่สีชมพู ทร-3420 กทม. เดินทางมาที่ วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน FM 96.0 MHz.
เวลา 11.00 น. คุณยงยุทธ วิจิตรลัญจกร อายุ 65 ปี (บ้านเลขที่ 10/5 หมู่2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี) โชเฟอร์แท็กซี่สีชมพู ทร-3420 กทม. เดินทางมายังสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันFM96 ซอยรามคำแหง21 แขวง/เขตวังทองหลาง กทม. นำซองใส่ธนบัตรพร้อมเงิน 35,000 บาท(สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) มามอบเงิน ให้คุณอาทิตย์สินธุพงศ์ ผู้จัดการบริษัทวินเซนต์ ไชย์ จำกัด เป็นตัวแทนมารับเงินแทน โดยมี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ผู้ดำเนินรายการร่วมด้วยช่วยกัน และ คุณพจน์ โพธิ์ศรี ผู้จัดการร่วมด้วยช่วยกัน เป็นพยาน ในการส่งมอบ โดยคุณอาทิตย์ ได้มอบเงินเป็นสินน้ำใจให้คุณอาทิตย์ เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ผู้ฟังหลายท่านต่างชื่นชมในน้ำใจ ของคุณยงยุทธ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องสั้นค่ะ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องสั้นของข้าพเจ้าเรื่องนี้ คงทำให้แง่คิดได้
ไม่มากก็น้อยค่ะ
แก้วประภัสสร
03 กุมภาพันธ์ 2553