ทุกครั้งที่มีเวลาจากงาน แก้วฯจะแวบเข้าไปหน้าเฟสบุ๊ก อัฟเดทข้อมูล ว่าเพื่อนๆ พี่ๆโพสต์อะไรลงไปบ้าง หรือไม่ก็ เข้าไปหากิจกรรม ตอบคำถาม บ้างก็ได้รับรางวัล บ้างก็ได้เพื่อนกลับมา 06 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เข้าๆไปไล่อ่านหน้าเฟส ตาก็ไปสะดุดกับข้อความของอาจารย์คณานันท์ ทวีโภค รักในหลวง ซึ่งแก้วฯไม่ได้รู้จักท่านมาก่อน แต่หากจำไม่ผิด ไม่แน่ใจว่าพ่วงมาจากเพื่อนกลุ่มไหน ท่านโพสต์ข้อความว่า วันที่ 6 จะสอนฝึกสมาธิบำบัด รักษาโรคที่บ้านเมตตาภิรมย์ ลาดหญ้าซอย 14 แก้วฯนึกในใจ ทางผ่านบ้านเราพอดีนี่นา น่าจะแวะไปดูหน่อย ไม่เสียหลาย เรียน 18.00-20.00 ออกจากที่ทำงาน 17.30 รีบนั่งเรือข้ามฟาก เรียกมอเตอร์ไซด์ให้ไปส่ง ก่อนฝนจะตก พอไปถึง ไม่รู้ว่าหลังไหน เดินเข้าไปในซอย หาบ้านรั้วสีขาว สอนสมาธิ ถามหลายคน ที่นั่นไม่รู้จัก เดินออกมาปากซอย ถามอีกครั้ง หากบ้านอาจารย์อยู่ที่นี่ก็น่าจะมีคนรู้จักแน่นอน แต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นแถวนี้สอนสมาธิ แก้วฯเดินจนเหงื่อไหล เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี สุดท้ายลองเดินขึ้นไปทางวงเวียนใหญ่ดีกว่า หากหาไม่พบ ก็กลับบ้าน และจะบอกตัวเองว่า ... เราตั้งใจแล้ว เมื่อไม่พบก็ไม่เป็นไร เดินไปสักพัก พบคุณลุง คุณป้า เดินจูงแขนกันกำลังจะเข้าบ้าน แก้วฯรู้สึกมั่นใจว่า น่าจะรู้จัก เลยถาม " ขอโทษค่ะ คุณลุงรู้จักบ้านเมตตาภิรมย์หรือเปล่าคะ หนูเดินหาหลายรอบแล้ว ไม่พบค่ะ" คุณลุงหันไปมองคุณป้า " เอ...แถวนี้เหรอหนู ไม่เคยเห็นนะ แล้วหนูจะมาทำอะไร" " หนูเห็นเขาโพสต์ลงเฟสบุ๊กว่าสอนฝึกสมาธิเพื่อธรรมทาน หนูเลยอยากมาเรียนค่ะ เดินหาแต่ไม่เจอ ชื่อบ้านเมตตาภิรมย์" สักพักคุณลุงก็พูดขึ้น" อ๋อ ..หนูลองเดินข้ามไปฝั่งโน้นลูก ประตูรั้วสีขาวนะ น่าจะใช่ เป็นคลีนิคคุณหมอเมตตา แต่ตอนนี้ท่านไม่ได้รักษาแล้ว คงบ้านนั้นละ" แก้วฯยกมือไหว้ขอบคุณคุณลุง คุณป้า ด้วยความซึ้งใจ หากไม่ได้ท่านทั้งสอง ตนเองก็คงเดินกลับบ้านไปเฉยๆ เมื่อเดินข้ามสะพานลอย ก็ยังไม่แน่ใจ เพราะหน้าบ้านประตูรั้วเหล็กสีขาว ยังคงปิด และเงียบ แก้วฯแวะถามร้านซ่อมรถข้างๆว่า ใช่บ้านเมตตาภิรมย์มั้ย เขาบอกว่าใช่ อาจารย์เพิ่งขี่จักรยานออกไปสักพักนี่เอง "อ่า. พี่เห็นมีใครมาหรือเปล่าคะ" " ไม่เห็นใครเลยนะ แต่น้องลองไปกดกริ่งดูสิ ลองถามแม่บ้านดู" เมื่อแม่บ้านเปิดประตูออกมา ก็ได้คำตอบเดียวกันว่า อาจารย์ปั่นจักรยานไปข้างนอก วันนี้มีเรียนเหรอ เขาไม่รู้ แก้วฯยืนรอสักพัก ก็ไม่มีใครมา เหตุด้วยเราไม่มีเบอร์โทรศัพท์โทรมาถามก่อน ก็บอกแม่บ้านว่า สงสัยวันนี้ไม่มีเรียน ขอกลับก่อน พอเดินคล้อยไปไม่กี่ก้าว ก็มีน้องคนหนึ่งมาถึง จังหวะได้ยินเสียงแม่บ้านพูดว่า " คนที่เพิ่งเดินไป เขาก็จะมาเรียน" หมายถึงแก้วฯ พอได้ยิน ก็เลยเดินกลับมา แล้วน้องแบงค์ ( รู้จักชื่อกันทีหลัง) ก็โทรหาอาจารย์ รอสักพักเราก็เดินเข้าไปในบ้าน ในห้องที่อาจารย์เอาไว้สำหรับสอนสมาธิ ก้าวแรก เงียบ อบอุ่น สบายใจ วันแรก( 06/07/12 ) ยังไม่ได้เรียน ถึงแม้จะไม่ได้เรียน แต่ก็โชคดีมากๆ ที่วันนั้น ครูบาก้อง ( พระที่ทุกคนศรัทธาและนับถือ) ได้แวะมาเยี่ยมคุณแม่อาจารย์ เนื่องจากได้ข่าวว่า ท่านไม่สบาย ช่วงเวลาไม่กีชั่วโมง ครูบาก้อง เมตตาเทศนาธรรมเรื่องจิต เรื่องน้ำดื่ม อีเอ็ม ท่านให้น้ำทิพย์ขวดเท่ากับขวดตาหยอดตา ซึ่งผ่านการหมักเป็นเวลา 30 ปี แก่คนที่มาวันนั้น แก้วฯเป็นหนึ่งที่ได้รับน้ำ มีคนหนึ่งเพิ่งมาจากต่างประเทศ ไปแสวงบุญ เกิดความกดดันของอากาศ ทำให้คณะหายใจไม่สะดวก เธอเล่าว่า กินพริกไทย กินกระเทียม ก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายนึกถึงน้ำทิพย์ที่ครูบาก้องให้ไป เอามาหยดใส่น้ำเพียงหยดเดียว อาการแน่นหน้าอก ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนยังคงนั่งสนทนาธรรมกันต่อ แก้วฯมองดูนาฬิกา เกือบจะสามทุ่มแล้ว จึงขอลากลับบ้าน เพราะกลัวเข้าซอยแล้วอันตราย ครูบาหยิบพระในย่ามของท่าน แล้วมอบให้แก้วฯ ( ตอนนี้ก็เอาขึ้นคอแล้วคะ ขอศรัทธาจงเกิดแก่ข้าพเจ้า) พอกราบลาครูบา ลาอาจารย์และทุกคน นัดเรียนวันรุ่งขึ้น ยังไม่ก้าวพ้นประตู น้องโจ ลูกศิษย์ของอาจารย์คณานันท์ ก็เรียกแก้วฯให้กลับเข้าไป ว่า ครูบาเรียก พอเดินเข้าไปท่านหยิบธนบัตรฉบับ100 บาทออกมา แล้วพิจารณา เปิดฝาตลับเอามือเตะขี้ผึ้ง แล้วมาแตะที่ธนบัตร หลับตาเป่า เมือกลับบ้าน แก้วเล่าให้พี่ฟังว่า ไปทำอะไรมาบ้าง เริ่ม วันที่ 7-9 กรกฎาคม 18.00-20.00 ( แต่จริงๆแล้วเลยเวลาทุกวัน เพราะอยากได้ความรู้กลับไปให้มากที่สุด) อาจารย์สอนเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร น้ำ และเข้าสู่ฝึกสมาธิลมปราณ เปิดจักระ ความรู้สึกต่างกับการไปนั่งสมาธิด้วยตนเองอย่างบอกไม่ถูก การมีครูผู้ชี้แนะ ทำให้เข้าใจหลักการปฏิบัติมากขึ้น แก้วฯบอกกับตัวเองว่า แม้จะนานแค่ไหน ก็จะตั้งใจฝึกด้วยความอดทน ด้วยจิตที่ผ่องใส เมื่อเรียบจบครบวันที่สอน ก็ไปสอบถามอาจารย์ว่า เมื่อไหร่จะเปืดสอนอีกคะ อาจารย์บอกว่า วันที่ 22 จะสอนให้ 09.00-16.00 ( ไม่เกิน 10 คน) ตอนนี้หลายคนรอเรียนแล้วคะ อาจารย์ชวนไปทำบุญยกช่อฟ้าที่วัดธรรมทานในวันที่ 15 ที่ผ่านมา และไปถวายปัจจัยสร้างแท้งน้ำทีวัดมงคลชัยพัฒนา (โครงการพระราชดำหริของในหลวง) แก้วฯยังไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ก็บอกอาจารย์ว่า ขอไปด้วย จองที่นั่ง 2 ที่ ซึ่งขณะนั้น อีกคนแก้วฯยังไม่รู้ว่า ใครจะไปด้วย พี่หรือคุณกิ่ง เมื่อถามพี่ พี่บอกว่าไม่ไป คุณกิ่งไม่ได้ถามอะไรมากนัก พูดคำเดียวว่า " ผมรับปากไปครับ" เราเดินทางออกจากบ้านเมตตาภิรมย์ 06.00 ไปทำบุญยกช่อฟ้าที่วัดธรรมยาน จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่นั่นชาวบ้านทุกสารทิศหลั่งไหลมาร่วมงานบุญครั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรกของแก้วฯและคุณกิ่งที่ได้เห็นพิธียกช่อฟ้า คุณกิ่งพูดคำเดียวว่า หากงานนี้ไม่ได้มาจะผิดหวังมากๆ สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น ขณะทำพิธียกช่อฟ้า ช่อที่ 3 พระอาทิตย์ทรงกลด อาหารมื้อกลางวัน ท่านพาแวะทานร้านไก่ย่างบัวตอง อาจารย์บอกว่า อย่าลืมน๊า ขณะทานอาหาร ให้พิจารณาอาหารที่ทานเข้าไปด้วย แก้วฯบอกท่านว่า " พิจารณาแล้วว่าอร่อย " อิอิ หลังจากนั้น ยังพอมีเวลา อาจารย์พาพวกเราแวะไปนั่งกินลมชมวิวที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ดูว่าเขื่อนยังพอรับน้ำได้มากอยู่ เดินทางต่อไปที่วัดมงคลชัยพัฒนา เพื่อมอบเงินบริจาคให้หลวงพ่อ ส่วนหนึ่งอาจารย์บอกว่านำไปซื้อแท้งน้ำ และเครื่องทำน้ำดื่ม ไว้ให้ที่วัดและชาวบ้านจะได้ระโยชน์ด้วย ที่วัดมีแปลงผัก ต้นไม้ มีสระน้ำ วันแห่งนี้ เกิดขึ้นตามพระราชดำหริของในหลวง แต่ดูเหมือนว่า ยังขาดการสนับสนุนอยู่มาก หากใครมีโอกาสผ่านไปทางสระบุรี อย่าลืมแวะไปทำบุญไหว้พระ เรียนรู้โครงการของในหลวงได้เลยนะคะ ก่อนจบ แก้วฯขอนำคำสอนจากอาจารย์คณานันท์มาฝากเพื่อนๆ พี่ๆทุกคนด้วยนะคะ " ทำจิตทุกวันให้ผ่องใส วางใจในอุเบกขา รักษากาย วาจา ใจให้อยู่ในระดับทีเสมอ อย่าให้จิตตกหล่น เมื่อมีอะไรมากระทบเข้า" " ฝากจิตอาสาสานต่อเรื่องโครงการน้ำดื่ม ตามโครงการของในหลวง ป้องกันหากมีภัยภิบัติเกินขึ้น อย่างน้อยวัดจะเป็นที่พึ่งพิงในคราวนั้น น้ำดื่มก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่นเดียวกับหลายๆโครงการที่จิตอาสาทำกันอยู่แล้ว ไม่ว่า สร้างโรงเรียน สร้างฝาย ทาสี ปลูกต้นไม้ ขอให้เสริมเรื่องน้ำดื่มเข้าไปด้วย" ท้ายสุด แก้วฯกล่าวคำขอบคุณตัวเอง ที่สามารถก้าวผ่านกำแพงที่ก่อนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้กล้าที่ก้าวออกมาเรียนรู้โลกภายนอกมากขึ้น ความกลัวลดน้อยลง โลกนี้มีอีกหลายสิ่งที่เรายังไม่ได้สัมผัสและเรียนรู้ ขอบคุณตัวเองอีกครั้ง หากคุณไม่เดินไปหาโอกาส คุณคงไม่ได้พบมิตรที่เปี่ยมด้วยความรักและเมตตาด้วยจิตบริสุทธิ์เช่นอาจารย์คณานันท์ ทวีโภค และมิตรใหม่ทุกคนของแก้วฯ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาและเยี่ยมชมค่ะ *แก้วประภัสสร * เมื่อไปถึงวัด ผู้คนกำลังหลั่งไหลมาร่วมงานยกช่อฟ้า อาจารย์คณานันท์ ถวายเงินบริจาค ท่านเจ้าคุณ พระภาวนากิจวิมล เจ้าอาวาสวัดท่าซุง ประธานในพิธี ขณะทำพิธียกช่อฟ้า พระอาทิตย์ทรงกลด หลังจากนั้น อาจารย์พาไปทานอาหารกลางวันที่ร้านบัวตอง อาหารถูกปากแบบไทยดีคะ ยังพอมีเวลาก่อนเดินทางไปวัดมงคลชัยพัฒนา อาจารย์พาทุกคนไปแวะชมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก่อน เดินทางไปที่วัดมงคลชับพัฒนา ถวายเงินบริจาคกับเจ้าอาวาสวัดค่ะ เดิมชมสวนภายในบรืเวณวัดกันก่อน นางแบบจำเป็น หน้าตาเริ่มโรยแล้วคะ ก็ตื่นตีสี่นี่คะ อิ อาจารย์ติดตั้งแท้งน้ำเพื่อไว้ดื่ม ไว้ใช้ในยามที่เกิดภัยพิบัติ มอบให้แก่ทางวัดด้วยเงินที่ร่วมรับบริจาคมาค่ะ ภาพนี้สงสัยว่า ด้านล่างนะ แค่เงา หรือว่า หญิงสาวผมสวยกันแน่คะ มองดีๆมีให้เห็น เ๊อ๊ะ..หรือเราจินตนาการได้ยอดเยี่ยม อิ ขอจบเรื่องสั้นด้วยภาพพระอาทิตย์ตกที่ข้างหอระฆังนะคะ
ปัดฝุ่นห้องหับ กับวันว่าง หันไปเห็นดอกไม้ที่ตั้งโชว์บนโต๊ะ ด้วยทำมานานหลายปี เจอฝุ่นเกาะ สีเริ่มไม่สวย เลยลงมือทำขึ้นมาใหม่ อยากทำดอกชวนชม เพราะชอบที่สีสันเขาสวย และชื่อก็ดูดีมีความหมาย ไม่มีแบบพิมพ์ใบ เลยต้องหากระป๋องน้ำอัดลม มาตัดทำพิมพ์เองค่ะ โดยอาศัย เด็ดใบจริงมาทาบ ลงมือปั้นดิน ผสมสี ทำดอกบาน ดอกตูม ใบอ่อน ใบแก่ ทำลำต้น ได้ผลออกมาตามนี้ค่ะ
เมื่อคืนหันไปมองดอกไม้ประดิษฐ์ที่แก้วฯเคยทำไว้ ดอกเบญจมาศ กล้วยไม้ช้าง ดอกคาเนชั่น ดอกเอื้องผึ้ง สีเริ่มซีด นึกอยากจะทำใหม่ค่ะ เลยชวนพี่ไปที่สนามหลวงสอง คลองทวีวัฒนา เพื่อริ้อฟื้นความรู้จากวิชาที่ครูนก ( ครูจากกทม.) ซึ่งสอนอยู่ที่ั่นั่น ให้ครูทำดอกเป็นตัวอย่าง เมื่อไปถึง เดินดูตามโซนต่างๆ ไม่ได้่ไปนานพอสมควร แปลกตาเยอะเลยค่ะ หนึ่งละ ร้่านค้ามีมากกว่าเดิม และสินค้า ก็หลากหลาย ไม่ต่างกับ สวนจตุจักร แก้วฯชอบมุุมตุ๊กตาปั้นจากดิน ปูนปาสเตอร์ ชอบเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ ทุกร้านจัด แต่ง สวยงามไปหมด ที่ชอบที่สุด คือการออกแบบน้ำตกจำลอง มีภาพประกอบ เดินเข้าชมทุกร้านเลยคะ ขอเขาถ่ายภาพ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ยินดีให้ถ่าย ดอกไ้ม้หลากหลายพันธุ์ ชูช่่อ ล้อลม รอคนชม สร้างสีสัน ร้านโมบาย ก็เสียงกังวาน พร้อมกับขับกล่อม เล่นดนตรีจากเสียงลมที่กระทบโมบาย ไม่มีทำนอง แต่เสนาะจนต้องหยุดฟัง หลังจากเดินชมและเลือกซื้อต้นไม้ ก็เดินไปหาครูที่เคยสอน ทำดอกไ้ม้ประดิษฐ์จากดิน โชคดีค่ะวันนี้ไปเจอพี่แอ๊ว ซึ่งเคยนั่งเรียนด้วยกันมาหลายปีที่นี่ ช่วงที่แก้วไปเรียน มีหลากหลายอาชีพมาที่นี่ ครู เ้จ้าของกิจการ ราชการปลดเกษียร นักเรียน และก็ผู้ที่พ่อแม่ส่งมาเรียน เพื่อให้ฝึกสมาธิ ( แต่อันนี้ลำบาครูหน่อยค่ะ ต้องใจเย็นมากๆ ) หลังจากนั้นก็สั่งอาหารมานั่งทานตรงที่ครูกำลังสอน คุยกันสนุกสนาน บอกครูว่าอยากทำชวนชมอีก กระถางก่อนให้พี่ไปแล้วจำแบบไม่ได้ค่ะ ซื้อดินต่อจากพี่แอ๊ว แล้วให้ครูทำเป็นตัวอย่าง เมื่อได้เวลาพอสมควร มองท้องฟ้า เริ่่มมืดครื้ม เจ้บอก"กลับเถอะ" แก้วฯ " โห..เจ้ นานๆมาที เดินให้คุ้มหน่อยดิ เค้ายังไม่ได้ดูหลายโซนเลยนะ" " วันหลังค่อยมาใหม่จะสี่โมงเย็นแล้ว" แม่่แก้วจำใจต้องลาจร ก่อนฝนตก พร้อมกันนี้นำภาพสวยๆมาฝากเพื่อนๆทุกคนด้วยนะคะ ท่ามกลางร้านค้า ผู้คนเดินเลือกหาของที่ตนถูกใจ บ้างชี้ ชมต้นไ้ม้ บ้างเลือกหาปลาสวยๆ บ้างเดินหากระถางต้นไ้ม้ จูงแขน กุมมือกันเิดิน จะมีสักคนไหม ที่หันไปมองรอยคราบน้ำท่วม ที่ยังมองเห็น ก่อนที่เราจะเห็นรอยยิ้มของแม่ค้าที่นี่ ก่อนหน้านี้ พวกเขากอดคอกันร้องไห้ สูญเสียทรัพย์สิน ข้าวของเสียหาย ทางรัฐจะชดใช้ยังไง ก็คงไม่อาจทดแทนได้ แม้เราจะไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้มากมาย แต่ทุกคนยังอยากยิ้มและต้อนรับผู้ไปเยือนอยู่สมอ ชวนกันไปอุดหนุนและเที่ยวชมหาซื้อสินค้าของไทย ทำโดยคนไทยกันนะคะ ฝากไ้ว้จากใจค่ะ นอนหลับฝันดีทุกท่านค่ะ จะเดินผ่านไปแล้ว หันมาเจอ เอามาฝากลุงฤกษ์กันหน่อย 5555 ครูนกปั้นกบให้ดู ถ่ายกับพี่แอ๊ว ดีใจมากๆ พอดีพี่เขาแวะมาหาครู นั่งทำดอกไ้้ม้เล่นๆค่ะ ครูทำตัวอย่างดอกชวนชมให้ ไว้เทอมหน้า อาจจะไปเรียนด้วยค่ะครู เจ้ซื้อต้นนี้มา ลืมชื่อซะงั้น วันนี้ตั้งใจจะไปกินส้มตำ ต้มแซบกัน แต่พอได้นั่งคุยแล้ว ไม่อยากลุกไปไหน ก็เลยสั่งอาหารมาทานกันค่ะ เห็นอิคิวซัง น่่ารักๆ ตอนนี้ฟุตบอลกำลังมาแรง ซื้อหนึ่งตัว เขาขาย 110 ต่อได้ 100 ค่ะ สำหรับคนรักสุนัขนะคะ ทีแรกเห็นคิดว่าของจริง ทำเหมือนมาก ชอบภาพเป็ด วาดเหมือนมากๆ ม้า จริงๆเป็นภาพวาดสี แก้วฯลองเอามาทำภาพขาวดำ ก็สวยไปอีกแบบ ลงตัวมาก แจกันดอกไม้ กับที่วางจาน สวยๆ อันนี้ตั้งใจเอามาฝาก สามลิง ช่วงนี้หายไปไหนกันหมดคะ จำทางเข้าบ้านได้มั้นเนี่ย อิ
หลังจากเพียงพลิ้วบรรยายและพาทุกท่านชมภาพกันไปแล้ว แก้วประภัสสรขอนำภาพที่เหลือมาเพิ่มให้เพื่อนๆได้ชม ผ่านมุมกล้องของแก้วฯนะคะ เราคงไม่ต้องบรรยายอะไรมากมาย ภาพทุกภาพ รอยยิ้มของทุกคน หามีใครบังคับให้ทำไม่ ..เอ..หรือมีใครกำลังปวดท้อง แล้วต้องฝืนยิ้มบ้างคะ อิอิ นี่คือลูกมะม่วงหาว มะนาวโห่ สีสวยๆ แปลกจัง ตอนไปปลูกต้นไม้ที่เพชรบุรี ปู่ก็เจองูก่อน อ้าว คราวนี้เจองูอีกแล้ว คุณอิม กะจะหักกิ่งเลยนะนั่น เจ้าของบ้านไม่อยู่ อิ ต้นนี้ มะยมแดง อาคุงปุ๋ยบอกมาค่ะ สาวน้อยกับคุณแม่ น่าจะใช่ คนพาเราเที่ยวชมสวน หัวเราะวันละนิด จิตแจ่มใสค่ะ เก็บไว้เป็นไอเดีย ปลูกที่บ้านกัน มะเขือลูกใหญ่มากๆ คาดว่า ลูกเดียวเอาอยู่เลยละ เท่ากำปั้นผู้ชายเลยนะคะ แหมะ....เจอคนสวนยิ้ม เท่ห์ แบบนี้ แม่แก้วขอเดินเข้าสวนทุกวันเรยย อิ ชอบจัง..ไม้ไผ่สวยดี เขาแขวนไว้หลายจุด แต่แก้วฯว่า อันนี้สวยๆ เป็ดตัวนี้ กรต บอกว่า เห็นแล้วคิดถึง ยาแก้ปวด ..คำตอบ..ไปถามกันเอาเองจ้า ดูหน้าเธอสิคะ อัลมิตรา หญิงเก่งของเรา ยิ้มแก้มใส วัยซน อิอิ อิ่มบุญ อิ่มท้อง อิ่มใจ ชิมิๆ ตากีร์ ก. โถ.....ดูรึก็กระไร...อ้ายเสมาออกกรำศึก เหนื่อยสายตัวแทบขาด ได้กลับมาพัก วางดาบ แทนที่แม่เรไรจักมาป้อนเส้นจันทร์ผัดกุ้งใหญ่ให้...รึก็ไม่มี...เฮ้ออออ....55555+ กิ่งโศก คนยาก 5555 กิ่งโศก คนยาก เรียกว่ากำลังหิวโซ ยิ่งนะขอรับ ทั่นหมื่น อิอิ ยิ้มหวานนนเชียวนะคุณปุ๋ย อิ ตากีร์ ก. เค้านึกยังไง มาติืดไว้กะทุ่นลอยเนี่ยะ 555+ แก้วประภัสสร เพื่อถาม"ไปไหนมาเมื่อวาน" " ไปตลาดนน้ำบางนกแวก" เพื่อนถาม"อยู่ไหนไม่เคยได้ยิน" " โห..เชยอีกแระแกระ ..อยู่ใกล้ๆอัมพวาไง" " นกแวกบ้านแกรดิ..เขาเรียก" บางนกแขวก" " เอ้าจริงดิ..ว่าแล้วววว ตอนบอกว่า ทำไมมันทะแม่งๆๆ เหมือนจะพูดผิด" 55555 ตรงนี้คืออันซีนไทยแลนด์นะคะ คุณฤกษ์ เห็นท่ากำหมัดแม่แก้ว กลัวมั้ย อิอิ 555555555 หัวเราะท้องแข็งเลยท่านี้ของปู่ ม้า น่าสงสาร ยืนตากแดด วัว เขาสวยดี เดินตรงดิ่งไปหากล้วยไม้ ว่าจะสอยมาสักกระถาง แต่..เอาไว้ก่อนเนาะ 120 บาท อิ ----------- ตากีร์ ก. มนต์สะกดแพะ....5555 หลับเสียเถิด เจ้าสเต็กน้อยๆ อิอิ ปรกติ ปกติสุข ปู่ สอนวิชาแพะป่าว อิอิ แก้วประภัสสร ปู่ใช้วิชาใจเย็น ใจเย็น ขันติๆๆ ไม่ร้อนๆ อาแก้วใจเย็นๆ อยู่หมัดเรยยย อิอิ กิ่งโศก คนยาก กำลังพิศว่า ไอ้ที่เขาตุ๋นขาแพะ ข้าวหมกแพะ มันทำมาจากไอ้ตัวนี้เหรอ อมิตพุทธ ตากีร์ ก. ดู๊ดู...เค้าคิดจิ ท่านปู็จม 55555555+ หมวกสวยจัง ก่อนจะเดินไปตลาดบางนกแขวก ต้องผ่านตรอกนี้ก่อนค่ะ ดูสิว่า... มีใครจะจนตรอกบ้าง ..อิ นั่่นไง....ท่านผู้จม....เขา....กำลังเดินตัวเอียง..ทางเริ่มแคบลงๆ เขาเริ่มจนตรอกแล้ว...เย้...5555 --------- มีฮาๆๆ ตากีร์ ก. ถ้าเป็นจระเข้ จายืนท่านี้ มะปู่ 5555555+ กิ่งโศก คนยาก 555 ปรกติ ปกติสุข ดูสองช๊อตต่อกันนะ แอบขำคนเดียวอ่ะ ท่านี้ อัลกะปู่ ป่ะๆไปดูอีกภาพ... แก้วประภัสสร ขาอีกข้างของปู่ จิกไม้กระดานแน่นเลย.. อย่าตกนะ ๆ ปลางับขาคากิปู่แน่เรยยยยยย แก้วประภัสสร ลชร ..ดูท่าแต่ละคน กล้าๆ กลัวๆ 555+ ปรกติ ปกติสุข จ้องตาปลากันอยู่ใช่มั๊ย ฮ่า แก้วประภัสสร ปลาหางแดงด้วยอะฝน จำชื่อไ้ม่ได้แล้ว Imp Almitra เขาเรียกว่า ท่าโชว์ขี้เต่าให้ปลาดู