26 กุมภาพันธ์ 2554 21:15 น.
แก้วประภัสสร
คมเคียวเกี่ยวลงลึก
ในสำนึกสู่มวลชน
รวงข้าวที่แตกตน
รอผู้หว่านมาเก็บไป
ทุ่งนาในหน้าหนาว
รุ้งรวงข้าวปลิวไสว
ระริกระรี้ใบ
เปรียบประดุจยวงเงินตรา
มนุษย์ผู้หว่านพืช
ชีวียืดยาวหนักหนา
แต่รวงโน้มร่วงลา
ผลิแล้วจากตามรูปรอย
จงดึงจิตสำนึก
ส่งรู้สึกอย่าร่วงผลอย
เมล็ดข้าวมากค่าคอย
ให้เรียนรู้อยู่ทุกวัน
แก้วประภัสสร
26 / 02 /2554
18 กุมภาพันธ์ 2554 20:03 น.
แก้วประภัสสร
แม้มากเกียรติมีศักดิ์รักถ้วนทั่ว
แต่หากมัวหลงมันอาจบั่นศรี
แม้มีกินอิ่มหนำสำราญมี
แต่หากเกินพอดีย่อมเสียดาย
เมื่อมากกามเมามัวสลัวสลด
ดูรันทดมองเห็นเช่นเสียหาย
ก่อกิเลสครอบจิตคิดวุ่นวาย
หลงเวียนว่ายราคะอเวจี
บ้างอ้างตัวขื่นขมมีปมด้อย
ด้วยบุญน้อยมากทุกข์ไร้สุขขี
จึงดึงปมด้อยซ้ำย้ำชีวี
ประดามีปิดปมถมปัญญา
หน้าตาเด่นงานดีมียศศักดิ์
หากมากรักไม่พ้นคนครหา
ควรมีรักหนึ่งเดียวเกี่ยวกายา
ย่อมมีค่ากว่าสองต้องทุกข์ตรม
ปรับความคิดชวนเชิญจำเริญสติ
ท่องพุทโธสมาธิผลิเข้าข่ม
เอาปัญญาปิดกลบลบด้อยปม
ฝึกอารมณ์ให้เย็นย่อมเห็นงาม
แก้วประภัสสร
18 / 02/ 2554
15 กุมภาพันธ์ 2554 22:31 น.
แก้วประภัสสร
วิจิตรด้วยคุณงาม ค่าสยามแม่คงคา
สายน้ำแห่งศรัทธา ชโลมโลกให้ร่มเย็น
มั่นสุขเพราะรสธรรม เหมือนหยดน้ำดับทุกข์เข็ญ
หลอมจิตไม่วายเว้น รู้ดีชั่วที่ตัวตน
สำนึกพระคุณครู กตัญญูบรรพชน
เปล่งเสียงแต่มงคล ท่วงเสนาะไพเราะไกล
ลมโชยให้โปรยกลิ่น เกสรศิลป์สว่างไสว
กำจรขจายไป บรรจงลักษณ์ปักงดงาม
สร้อยแสงแห่งกวี เหมือนมาลีแห่งสยาม
ชูดอกออกผลตาม หอมแผ่นฟ้าทั่วธานี
ขับเคลื่อนพุทธคุณ แผ่ค้ำจุนนำวิถี
ยึดมั่นหมั่นทำดี โยงเหนี่ยวไว้ใจเบิกบาน
**เติมแต่งแต้มสีสันวันละนิด เพื่อจิตแจ่มใส * *
**เหมือนปลูกดอกออกใบ งดงามที่ใจ แบ่งบานที่ตา **
แก้วประภัสสร
15 / 02 / 2554
ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ลค่ะ
12 กุมภาพันธ์ 2554 12:27 น.
แก้วประภัสสร
อยากจะเห็นงามตาหน้าจิ้มลิ้ม
มาส่งยิ้มต้อนรับกับวันเสาร์
มาทักทายคุยกันฉันท์มิตรเรา
นั่งจับเข่าหยอกเล่นเช่นทุกที
ก๊อกก๊อกก๊อกมีใครอยู่มั้ยคะ
งั้นไปนะบ้านกลอนนอนเงียบฉี่
ใกล้จะถึงวาเลนไทน์ไหงน้องพี่
ไม่เห็นมีดอกไม้ไว้ให้กัน
ก๊อกก๊อกก๊อกยิ้มไว้ให้หน้าบ้าน
ขอชื่นบานมีรักประจักษ์มั่น
จงสุขขีมีสุขกันทุกวัน
จากใจฉันมิตรรักปักลงกลอน
ขอรอยยิ้มพิมพ์ใจให้ผู้พบ
อย่าเลือนลบต่อเติมเจิมอักษร
ให้แจกยิ้มแทนดอกไม้ใจอาทร
เมตตาก่อนจากใจย่อมได้คืน
ยิ้มยิ้มยิ้มกันเถิดจะเกิดผล
มอบทุกคนมีค่าอย่าได้ฝืน
ยิ้มสยายคลายทุกข์มอบสุขคืน
ยิ้มระรื่นชื่นใจนักความรักเอย
7 กุมภาพันธ์ 2554 10:27 น.
แก้วประภัสสร
ร้องเหมียวเหมียวหง่าวนั้น ขอปราม
ฉันอาจเสือคำราม บอกไว้
เห็นซื่ออย่าตีความ ว่าเซ่อ กันนา
อาจซ่อนกรงเล็บไซร้ ควักใส้มากินฯ
ยินอู๊ดอู๊ดอย่าได้ ว่าหมู
ฉันอาจเปลี่ยนเป็นงู สะบัดห้อย
จำศีลอยู่ในรู อย่าแหย่ คนเฮย
พ่นพิษซ่านอย่าสร้อย โศกเศร้าเสียขวัญฯ
เห็นพันขาว่าแท้ กิ้งกือ
โปรดอย่าแหย่สะดือ เล่นด้วย
เธออาจจะลุกฮือ โกยแนบ
กลายตะขาบมอดม้วย โอดร้องครวนครางฯ
จากหนึ่งเพียงเศษเสี้ยว ความคิด
ถูกมิแปรเป็นผิด อวดอ้าง
ตรองเอาเถิดผองมิตร ปราดเปรื่อง
กาลผ่านมาหาสร้าง เจ็บช้ำนำเสนอฯ
ดีกลบลบชั่วสิ้น ทุกหน
ซื่อดั่งสันดานกมล แต่อ้อน
แม้โลกอาจปลอมปน แตกต่าง
หาเล่นลิ้นปลิ้นปล้อน ยกฟ้ามาขยายฯ
ชนใดยึดมั่นแท้ แต่ตัว
หลงทิฐิเมามัว ชัดชี้
เงาดำครอบใจสลัว ยากบอก
เป็นเศษเสี้ยวกระพี้ เลิศแล้วฤาไฉนฯ