3 พฤศจิกายน 2551 22:25 น.
แก้วประภัสสร
โลกนี้ไม่มีใครไม่เคยพลาด
แม้นักปราชญ์ยังพลั้งในบางสิ่ง
อาจหลบเลี่ยงหลีกหนีในเรื่องจริง
แต่จะวิ่งไปเรื่อยก็เหนื่อยกาย
สู้ลมหนาวลมแดดที่แผดร้อน
มาเนิ่นนานขอวอนหยุดก่อนไหม
สร้างกำแพงล้อมกรอบไว้ทำไม
ไม่เปิดใจให้กว้างอย่างทะเล
ในความเค็มมีปลาทั้งน้อยใหญ่
ยังอาศัยแหวกว่ายไม่หันเห
หลบความร้อนพายุใต้พื้นเพ
ให้ชาวเลอาศัยไว้เจือจุน
เปิดใจไว้ให้อภัยอย่าผูกโกรธ
หมั่นยกโทษมีใจไว้เกื้อหนุน
สร้างศรัทธาเอาไว้ให้เป็นทุน
คอยค้ำจุนใจตนให้พ้นภัย
ผูกโกรธไว้ทำไมให้เป็นปม
ยิ่งสะสมนานวันพลันร้อนไหม้
ร้อนเรือนร่างเรือนกายและเรือนใจ
เกิดพิษภัยแก่ตนไร้หนทาง
คนอื่นอาจพลั้งบ้างก็ช่างเขา
ไม่มีใครถูกใจเราทุกอย่าง
หมั่นใจเย็นเตือนใจให้ปล่อยวาง
คือหนทางนำตนให้พ้นภัย
1 พฤศจิกายน 2551 21:56 น.
แก้วประภัสสร
เหนื่อยนักก็พักก่อน...
ร้าวรอนเหมือนถูกข่มเหง..
ชีวิตเหมือนดั่งบทเพลง...
บรรเลงไปตามอารมณ์..
มีสุขมีเศร้าคละกัน..
บางวันอาจเหงาขื่นขม..
เพียงอยู่สู้ต่อล้อลม
อย่าตรมโดดเดี่ยวเดียวดาย..
มีน้องคอยมองทุกวัน
อย่าหวั่นอย่าจากอย่าหาย
จะคอยเวียนมาทักทาย
เหมือนพี่เคยให้น้องมา
ใช่อยู่โดดเดี่ยวคนเดียว
เหนื่อยนักควรพักยามล้า
หลับตาสักพักพี่จ๋า
ความล้าจะจางหายไป
หลับฝันนะพี่ชาย....
ฝันร้ายอย่ากรายกล้ำพี่
คืนนี้อาจหนาวฤดี
ยังมีน้องนี้คอยมอง
1 พฤศจิกายน 2551 15:42 น.
แก้วประภัสสร
สุขใดล้ำ
ธรรมใดเลิศ
พรใดประเสริฐ
รักใดอมตะ
ขอให้เป็นของคุณ "ยาแก้ปวด"นะคะ
ไว้ตอนเย็นจะไปร่วมทานเค็กด้วยค่ะ