21 พฤศจิกายน 2555 15:33 น.
แก้วประภัสสร
มองรักแบบที่เคยเป็น
มองเห็นใช่เล่ห์สเน่หา
มองด้วยหัวใจธรรมดา
มองแบบสายตาอาทร
มองรักแบบที่เคยเห็น
มองไม่หลบเร้นหลังสิงขร
มองแบบรู้จักโอนอ่อน
มองด้วยไม่หย่อนไม่ตึง
มองรักแบบที่มีมา
มองด้วยวาจาเข้า้ถึง
มองแบบให้เกียรติคำนึง
มองไม่ขุ่นบึ้งเอาใจ
มองรักตามแบบที่ชอบ
แล้วคุณละตอบได้ไหม ?
มองเห็นความรักเช่นไร ?
ไฉนค้นคว้าหา..รัก..?
แก้วประภัสสร / พักสมองกับน้ำมะเขือเทศโครงการหลวง เย็น ชื่นใจดีจังค่ะ
20 พฤศจิกายน 2555 15:41 น.
แก้วประภัสสร
เวลาคนอับโชค...
ลมพัดโบกร้อนรุ่มรุมซ้ายขวา
ฟังน้ำเสียงถอยถดหมดราคา
อีกหน้าตาเหี่ยวแห้งเหมือนแล้งลม
เปรียบใบไม้ขาดน้ำในยามทุกข์
หาคนปลุกปลอบใจไม่ชื่นสม
มีแต่เหมือนแปลกหน้าพาขื่นตรม
ไม่ภิรมย์ดั่งจิตคิดต้องการ
เวลาคนมีโชค...
ลมพัดโบกเย็นจิตคิดกล้าหาญ
ฟังน้ำเสียงเป็นฤกษ์ดูเบิกบาน
การสื่อสารชัดเจนเช่นแสดง
เปรียบใบไม้ได้น้ำในยามสุข
คนปลอบปลุกรอบกายไม่หน่ายแหนง
คอยเสริมส่งกันไปไร้เคลือบแคลง
เห็นแจ่มแจ้งดั่งจิตคิดมุ่งพลัน
มีโชคบ้างอับบ้างเป็นอย่างนี้
มีร้ายดีท่ามกลางระหว่างฝัน
มีท้อบ้างเหนือยบ้างในบางวัน
ภาระนั้นแตกต่างระหว่างเรา
แม้ไร้โชคครองศีลอย่าสิ้นศักดิ์
เป็นที่พักรองรับยามอับเฉา
ปลุกชีพชื่นเติมพลังความหวังเอา
ไม่นานเนาว์รับโชคหมดโศกกัน
4 พฤศจิกายน 2555 12:33 น.
แก้วประภัสสร
สาวอุบลฯฝันหวาน
ว่ามีอาหารจานเด็ด
ผัดกระเพารสเผ็ด
อีกทั้งลาบเป็ดวางตรงหน้า
สาวอุบลฯฝันหวาน
ว่าลงจากคานตอนตีห้า
ลิงโลดกระโดดไปมา
โอ้ตายละหว่าแค่ฝันไป
สาวอุบลฯฝันหวาน
นั่งยิ้มหน้าบานไปกันใหญ่
จมูกก็บี้จะมีใคร
เขามาสนใจน้อสาวอุบลฯ
อิอิ
3 พฤศจิกายน 2555 16:05 น.
แก้วประภัสสร
ถนนสายนี้
มีผู้คนมากมาย
ใบไม้ปลิวไสว
สายลมพัดผ่าน
เสียงผู้คนหัวเราะ
เต็มไปด้วยสนุกสนาน
ชีวิตดูชื่นบาน
ตามกาลและเวลา
ผ่านทุกวัน....
ชีวิตก็เป็นเช่นวานนี้
ผู้คนที่มี
ก็เหมือนวานวันเวลา
ผ่านไปหลายปี..
กลับไปที่เคยคุ้นตา
ผู้คนที่ผ่านมา
ต่างชราแล้วจากไป
สายลมที่พัดเย็น
เปลี่ยนเป็นร้อนแผดเผา
ต้นไม้ก็อับเฉา
บางเบาไม่มีใบ
ชีวิตคนก็แปรเปลี่ยน
หมุนเวียนตามกาลเวลา
เคยร่ำรวยและหรูหรา
อาจพลิกชะตากลับมาจน
ทุกคนล้วนเดินดิน
อย่ายึดติดอะไร
ที่ไม่เป็นนิจสิน
สุดท้ายต่างดับสิ้น
เช่นนี้แหละชีวิต...........
เช่นนี้แหละชีวิต....
21 ตุลาคม 2555 15:08 น.
แก้วประภัสสร
กระวีกระวาดจริงแล้วแม่แก้วเอ๋ย
พอได้เที่ยวหลั่นล้าตาลุกเลย
ดูทรามเชยแต่งตัวไม่กลัวเกรง
๑พอคนดีบอกว่ามาถึงบ้าน
หน้าหล่อนบานลิงโลดกระโดดเหยง
จะได้เที่ยวเกี่ยวแขนแฟนตัวเอง
จึ่งร้องเพลงสบายสบายใจ
๒
สวมกระโปรงสีชมพูดูหวานแว๋ว
มาในแนวหญิงมั่นวันสดใส
กับเสื้อขาวอำพรางเนื้อข้างใน
ไม่สนใครจะมองต้องตะลึง
๓
เพราะเขารู้ทั้งบางแม่นางแก้ว
แต่เด็กแล้วไม่ครบบาทขาดสองสลึง
เธอมั่นใจผิดมนุษย์สุดรำพึง
ปล่อยเธอถึงตามฝันอย่าดันลง
๔
เห็นป้ายแดงฟอร์จุนเนอร์เผลอร้องทัก
โอ้ที่รักเลขดีมิลืมหลง
งวดต่อไปตามต่อขอตรงตรง
จะเวียนวงวนว่ายที่ป้ายเธอ
๕
ถึงปากซอยคนแน่นแสนถนัด
แม่ค้าจัดร้านค้ามาเสนอ
ทั้งผักสดปลาทูดูสิเออ
ตาเบ้อเร่อน่าล้วงทะลวงกิน
๖
ออกปากซอยค่อยสบายหายใจคล่อง
เริ่มวิ่งล่องขยับเหมือนทรัพย์สิน
หากรถติดคาดว่าน้ำตาริน
เวลาหมิ่นนัดเพื่อนอาจเลื่อนลา
๗
หกโมงสามสิบห้าหน้าเซ็นทรัล
จุดพบกันตาจ้องและมองหา
แลเห็นสาวหนึ่งนั้นอัลมิตรา
โน่นสุกัญญาปัญญานุชรีบรุดเดิน
๘
นั่นคุณอิมนี่น้องยุ้ยคุยกันเถิด
มิ้นท์พริ้งเพริดตามสบายไม่ต้องเขิน
ไปด้วยกันฉันท์ญาติอย่าขาดเกิน
เทียวพาเพลินพักผ่อนเพื่อหย่อนใจ
๙
รถเคลื่อนตัวต่อไปที่หมายมุ่ง
รับป้ากุ้งแดงหนาม ( คำไม่ลงตัว555)งามสดใส
ดูหน้าตาง้ำหน่อยคอยนานไป
คงสงสัยจะถูกทิ้งเพื่อนชิ่งลา
๑ศูนย์
เมื่อครบคนขาดขาพาไปเที่ยว
ลืมคนเชี่ยวชาญทางอย่างปู่จ๋า
นามกิ่งโศกโยกล้อฮ่อแรงม้า
หนีบธิดาทั้งหลายส่ายเล่นลม
๑๑
แปดโมงครึ่งถึงอาร์ทอินพาราไดซ์
สองวิไลหญิงงามนามเหมาะสม
หนึ่งน้องกานต์เพียงพลิ้วเดินปลิวลม
หนึ่งตาคมร้อยฝันมาทันงาน
๑๒
กับหนึ่งหนุ่มอุ้มสมภิรมย์ศักดิ์
ต้องชะงักหล่อขาวดั่งข้าวสาร
กวีปกรณ์น้องน้อยคอยสำราญ
เป็นเจ้าบ้านพัทยามาด้วยกัน
๑๓
เก้าโมงเช้าซื้อบัตรเสร็จสรรพแล้ว
ต่างเรียงแถวเข้าไปตามใจฉัน
ยืนโพสต์ท่าถ่ายภาพทาบใจพลัน
ล้วนสีสันสวยงามตามมายา
๑๔
ฉันยืนมองภาพถ่ายละลายจิต
นึกถึงมิตรแท้เทียวไม่เที่ยวหา
ขอทุกคนอย่าเลือนเหมือนมายา
แม้สายฟ้ามาฟาดอย่าขาดกัน
๑๕
ขอพวกเรากลมเกลียวด้วยเหนียวแน่น
ดั่งกลางแก่นใจไม้ไม่อาสัญ
แม้ลมพัดสะบัดโยกอย่าโศกกัน
กระชับมั่นไมตรีมิรู้คลาย
๑๖
มาถึงภาพมิติทวิภพ
สองประกบมือกันเหมือนมั่นหมาย
ขอลูกจงสมมาดไม่คลาดคลาย
เทพทั้งหลายสถิตประสิทธิ์พร
๑๗
ขอสองเรารักมั่นไม่บั่นเบี้ยว
เหมือนรถเลี้ยวระหกระเหินเนินสิงขร
ให้ราบรื่นผ่านผ่าพนาดร
จนม้วยมรณ์ไม่ห่างหรือร้างลา
๑๘
พร้อมไปต่อเดินทางอย่างเร่งรีบ
สู่สัตหีบจุดหมายใช่ภูผา
แต่เป็นร้านพอพุงลุงดาวศรัทธา
ท่านเมตตาเตรียมอาหารสำราญมี
๑๙
นั่นต้มยำรวมมิตรสะกิดญาติ
แถมไม่ขาดจานเด็ดผัดเจ็ดสี
อีกปลาหมึกไข่เค็มเค็มพอดี
ปูนึ่งนี้ใช่แดงห้ามแกล้งวาง
๒ศูนย์
ปลาทอดกรอบรสล้ำน้ำลายหก
คุณป้ายกให้ลองทั้งสองข้าง
แม่แก้วนั่งพอดีที่ตรงกลาง
ครั้นจะวางก็เกรงใจผู้ให้มา
๒๓
ซุปผักโหมสีเขียวเดี๋ยวเดียวหมด
ดื่มด่ำรสไม่รั้งหรือกังขา
เหมือนอาหารสวรรค์ประทานมา
เป็นบุญญาของหลานทานเต็มพุง
๒๔
ขอจดจำสำคัญในวันนี้
ท่านใจดีเตรียมข้าวเอามาหุง
พร้อมอาหารล้นเหลือเพื่อมาปรุง
ให้หลานลุงหลานป้าพาอิ่มกัน
๒๕
ขอลุงป้าอายุและวรรณะ
พร้อมพละพลังพรั่งสุขสันต์
ทั้งการค้ารวมทรัพย์นับอนันต์
รับเงินพันเงินล้านสำราญใจ
๒๖
ถึงเวลาขยับเยื่อนออกเลื่อนรถ
ขับเลี้ยวลดจุดหมายไหว้พระใหญ่
แวะไปกราบเสด็จเตี่ยช่วยเคลียร์ใจ
ให้ผ่องใสทุกเมื่อและเชื่อวัน
๒๗
ถึงวัดญาณฯคลานกราบทาบองค์พระ
ตั้งสัจจะละโลภโกรธโมหันธ์
แม้มีกรรมเคยสร้างแต่ปางบรรพ์
ช่วยลูกนั้นพบทางสว่างที
๒๘
มาถึงทุ่งกว้างใหญ่ไร่องุ่น
พวกคุณคุณตื่นเต้นไม่เป็นศรี
บ้างพาเพื่อนนอนราบทาบธานี
ผงธุลีไม่สนคนจะงาม
๒๙
พระอาทิตย์กำลังตกวิหกเหิร
เราพาเพลินพอใจไม่เกรงขาม
กระชับมั่นฉันท์มิตรสนิทนาม
คือนิยามว่าเพื่อนมิเลือนลา
๓ศูนย์
ถึงตลาดสีภาคอยากจะออก
ใช่ลวงหลอกเจี๋ยวจ๊าวคุณเจ้าขา
ทั้งจีนไทยลาวซ่งม้งก็มา
ฟังภาษาหนีเห่าไม่เข้าที
๓๑
ก่อนร่ำลามอบไว้รวยไม่เลิก
เป็นใบเบิกอำนวยช่วยสุขี
ขอเพื่อนพ้องจิตชื่นรื่นฤดี
ทุกข์อย่ามีกลายกล้ำให้รำคาน
๓๒
ครั้นตะวันชิงพลบก็จบเที่ยว
ขับรถเลี้ยวย้อนรอยคล้อยสถาน
ได้ทำบุญอุ่นใจในวันวาน
กลับถึงบ้านพักผ่อนนอนฝันดี
๓๓
มิตราภาพตราบสิ้นชั่วดินฟ้า
ยังมากค่าท่ามกลางหว่างวิถี
โลกวุ่นวายคลายร้อนผ่อนฤดี
ด้วยไมตรีกระชับมั่นมิสั่นคลอน
แก้วประภัสสร
21 ตุลาคม 2555