ตีระฆังดังเหมือนเตือนสติสมาธิตื่นนอนก่อนรุ่งสางชำระกายคลายวุ่นให้ขุ่นจางจิตกระจ่างซึมซับรับตะวันตีระฆังกังวานคืองานสงฆ์กิจต้องลงอุโบสถปลดปลงขันธ์บิณฑบาตเลี้ยงชีพประทีปธรรม์ทำวัตรนั้นเช้าเย็นเป็นพันปีเสียงระฆังดังผ่านกังวานแว่วดุจเสียงแก้วเจียรไนใจสุขขีผู้ได้ยินน้อมรับซับไมตรีย่อมเกิดดีศรีสวัสดิ์ชัดทุกคนแก้วประภัสสร / อยากได้ยินเสียงระฆังดังถึงบ้าน แต่บุญยังไม่ถึงค่ะ----
ใบไม้ยังเปลี่ยนสี ชีวีย่อมเปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งประจักษ์แจ้ง มิเคลือบเเคลงธรรมดา
ร่างกายเคยอวบอั๋น ก็นับวันจะร่ำลา บานสดดั่งบุปผา ผ่านเวลาก็ร่วงโรย
ทุกอย่างไม่จีรัง จะลุกนั่งก็โอดโอย สุดท้ายก็ปลายโปรย...ลาลับล่วงหลุดบ่วงกรรม
มีสองขายืนได้ในโลกมนุษย์ ก็ที่สุดของชีวีที่มีอยู่ มีสองแขนมีกำลังพลังสู้ เป็นผู้ตื่นผู้รู้ก็พอแล้ว แก้วประภัสสร **
พิศวงคงสวาทขาดสะบั้น รักผูกพันผันขื่นไม่ชื่นสม ถึงยื้อยุดฉุดกระชากหลากอารมณ์ ก็ยิ่งตรมอุราน้ำตานอง
ดูวิมานจอเงิน. พระเอก นางเอกรุ่นใหญ่เล่นได้อารมณ์ดีแท้เทียวค่ะ ภาพไม่เกี่ยวกับละคร..^^___^^เล่นวิมานจอเงินสะบิ้งสะบัด ไม่ซื่อสัตย์คู่ตนต้องหม่นหมอง กินยาพิษอนิจจาค่าตัวรอง มีชายสองครองคู่หนึ่งชู้กัน
เมื่อดาวเด่นพวยพุ่งยามรุ่งสาง ก็สุดทางมืดมิดปิดทางฝัน พิศวงคงสวาทก็ขาดพลัน ตกสวรรค์เพราะคาวเป็นดาวโรย
แก้วประภัสสร//
ทุกชีวิตลิขิตได้ตามใจฝัน ง่ายยากนั้นต่างกันนั่นแหละหนา มีฟูฟ่องล่องลอยพลอยหลอกตา มีแฟบฟ่าค่าพลอยก็น้อยใน
มีบางวันหนาวสั่นช่างรันทด บางวันกลับสวยสดผุดผ่องใส ทั้งหน้าตาแรงเรี่ยวเหี่ยวเหมือนใจ สะสมในอารมณ์ผูกปมยาว
ทุกชีวิตลิขิตได้ตามใจหวัง สร้างพลังให้ฟูรู้ร้อนหนาว จงเบิกบานต้านทุกข์ลุกอีกคราว ที่เจ็บร้าวลบลาด้วยพระธรรม
แก้วประภัสสร / /
24 /05/2561