ตื่นตอนเช้าเที่ยวเพลินเดินลีลาศ ชมตลาดสินค้ามามากของ เหลียวไปเห็นกระทกรกเขายกกอง แก้วฯเลยลองซื้อหาเอามากิน หยิบมีดผ่าตรงกลางระหว่างผล นึกถึงคนยามโกรธโหดอย่างหิน พอเห็นเนื้อเกลือทากลับน่ายิน อร่อยลิ้นลืมหมดรสโกรธา@ แก้วประภัสสร@เสาวรสกิโลละ 65 บาท พอกล้อมแกล้ม เพราะเนื้อข้างในไม่ค่อยเยอะ คนมีที่ มีไร่ แนะนำปลูกไว้กินเองเลยค่ะ
อันมีดหอกดาบนั้น........มีคม หาต่างจากคารม...........ผ่านลิ้นกล่าวดีเปรียบยาขม.......หายเจ็บ ใจนากล่าวเสียดอาจหมดสิ้น..ก่อเชื้อไฟผลาญฯบัณฑิตควรเปี่ยมด้วย......คุณธรรมรู้คิดรู้หลักจำ.................จิตรู้ครองสติอย่าถลำ..........ตามถ่อย กันเฮยเก็บทรัพย์ปัญญาสู้.......เปิดใช้ยามควรฯแย้งขัดย่อมขัดแย้ง.........คนพาล แลชัดทุกสิ่งกาล............มากร้ายนิ่งเสียอย่ารำคาญ.........ยั่วจิต ตามนาทางออกบทสุดท้าย......สงบแท้โดยธรรมฯหอกดาบของมีคม.....จะขื่นขมใช้ผิดทางเหมือนเรือที่คนจ้าง..จะอับปรางพายไม่เป็นคารมที่ผ่านลิ้น........อาจหมดสิ้นพาทุกข์เข็ญกล่าวดีวาจาเย็น......ย่อมดับร้อนพาผ่อนคลายกล่าวเสียดจะพาเสีย.....ไฟโลมลียย่อมเสียหายน้ำท่วมทุ่งกระจาย..... พาย่อยยับเกินดับทันบัณฑิตมีความรู้......ย่อมเป็นผู้คิดสร้างสรรเปิดทรัพย์ปัญญาธรรม์....นำมาใช้ในยามควรแย้งขัดย่อมขัดแย้ง......ไม่ปัดแกว่งให้ลมหวน นิ่งเสียอย่าเเปรปรวน.....เดินตามถ่อยจะถ่อยตามทางออกบทสุดท้าย....มิตรสหายตั้งหลักสามปัญญา เมตตางาม....เป็นผู้กล้าพาพ้นภัย๑ แก้วประภัสสร ๑๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖
มาจะกล่าวบทไปที่ไหนนั่น มะลิวัลย์พันธุ์สร้อยร้อยเดียงสา แต่ปฐมเยาว์วัยจนใกล้ชรา มีมารดาหนึ่งคนบนโลกนี้ นามของแม่ชื่อ"ชม" ภิรมย์ื่รื่น จะหลับตื่นยิ้มแย้มแก้มมารศรี หน้านวลผ่องสมนามงามสตรี จิตคิดดีแต่เกิดประเสริฐคุณ ด้วยกตัญญูรู้คุณคุณพ่อแม่ เห็นเที่ยงแท้ส่งพละพานำหนุน เมื่อครองคู่อยู่ชื่นก็คืนทุน สะสมบุญบารมีที่มีมา มีลูกรักด้วยกันนั่นถึงสิบ คนกระซิบเลี้ยงไหวไหมเจ้าขา นางหัวเราะนั่งนับเห็นกับตา สองหัตถานี่ไงใช้เลี้ยงดู มาถามว่าเลี้ยงยังไงใคร่ตอบยาก ก็ลำบากพอควรชวนปวดหู แต่อาศัยไม้เรียวเคี่ยวอย่างครู ผิดให้รู้หลาบจำอย่าทำไป -------------------------- เป็นส่วนหนึ่งคำถามตามแม่ตอบ สัพยอกหยอกเล่นเป็นนิสัย ถีงวันแม่อีกปีลูกดีใจ ร้อยมาลัยกราบแม่แน่แท้เอย ***แก้วประภัสสร** กลอนตามใจวันแม่เจ้าค่ะ อิิอิ ได้เท่านี้แหละ **ขอฝากทุกท่านจากใจนะคะ กราบเท้าพ่อ แม่ เป็นสิ่งที่ไม่น่าละอาย ก่อนออกจากบ้านจะไปเรียน หรือทำงาน ยกมือไหว้พ่อ แม่ จะเป็นมงคลติดตัวเราไปตลอด พ่อแม่ให้พร ถือว่าประเสิรฐที่สุดแล้วค่ะ
ประพจน์ประพันธ์บทเกริ่นกวีศรีหวังจะไว้เกียรติงามนามสตรี แก้วฤดีนฤมลอุบลการนางสดับรับฟังคำครูสอนพลันร่ายกลอนอ่อนช้อยสร้อยประสานเสมือนตนเป็นเอกประสบการณ์ท่องวิมานเมืองแมนทั่วแคว้นมาแลหมู่มิตรชิดชมภิรมย์รื่นอุระชื่นจิตแจ่มแอร่มนาสาจึงละเลงเล่นบทรจนาดุจดาราแวววับประดับชนต่างดื่มด่ำกำซาบทาบอรรถรสบริบทสะพรั่งดั่งสายฝนสดับโสตรสนองสั่งดั่งต้องมนตร์ประจักษ์ผลยลยินถวิลความประสาทล้ำคำคมบรมค่าอนึ่งว่าชำนาญชาญสนามวางกระบี่หลอกล่อเล่นล้อตามสุดจะห้ามเด็กดื้อผู้ถือดีเสมือนม้าขาดแส้แร่ผิวหนังทุ่มพลังผาดโผนกระโจนหนีเหมือนม้าคึกนึกคะนองจะลองดีสละเกือกเลือกจะหนีเข้าดงไพรหากทิวาราตรีมิพ้นผ่านกระแสธารไหลเชี่ยวอยู่เปลี่ยวไฉนจะมองเมียงลุกนั่งระวังภัยรจนาจะบรรลัยณ.บัดนาว...อย่ากระนั้นวิ่งเหยาะเลาะทางกลับโสตรสดับตาจ้องมองแสงขาวสะดุ้งตื่นฟื้นสติพี่ร้องปาว"แกนอนยาวเกินไป...ตื่นได้แล้ว"^___________________^
ดอกไม้คลี่บานบนลานฝัน ใครจับปั้นแต่งแต้มแย้มเติมสี ใครจะเห็นความงามท่ามราตรี ว่าดอกนี้มีค่าน่าคู่ควร
จึงฝึกจิตคิดอยู่ให้รู้หลัก ใช้ธรรมพักพิงใจไม่ผันผวน อันรักใคร่ชายหญิงทุกสิ่งรวน อาจแปรปรวนตามกระแสที่แผ่มา
แม้วันนี้มีผู้รู้รักมั่น หากสักวันผ่านไปไม่เห็นค่า ก็ไม่ต่างจากเรือที่ลอยมา ไกลสายตาไกลห่างอย่างเดียวดาย
จึงเพียรเสมอไม่เผลอผลิ ใช้หลักธรรมครองสติมิเสื่อมหาย อันคำพูดบูดเน่าก็เปล่าดาย สู้วางกายวางจิตคิดครอบธรรม