13 พฤษภาคม 2552 21:58 น.
แก้วประภัสสร
หากฉันเป็นอัลไซเม่อร์
หลงลืมเธอชั่วชีวิตจะผิดไหม
ลืมทุกสิ่งที่วาดหวังและทำไป
ลืมพู่กันตวัดใจมีให้กัน
หากว่าเดินสวนทางกระทบไหล่
แต่ฉันกลับเดินไกลจากเธอนั้น
จะฉุดเหนี่ยวรั้งแขนกันและกัน
ทวนความจำให้ฉันได้ไหมเธอ
หากว่าฉันโชคร้าย
อาจหกล้มลงไปจนปากเจ่อ
เธอจะช่วยหายาได้ไหมเออ
เพราะว่าอัลไซเม่อร์ไร้ความจำ
เธอจะอยู่เคียงข้างร่วมทางไหม
จนแก่เฒ่าจนตายไม่ให้ช้ำ
จะขอบคุณทั้งหมดที่เธอทำ
ขอจดจำคำนี้ก่อนวันลืม
10 พฤษภาคม 2552 18:01 น.
แก้วประภัสสร
สุขใดเท่าคิดดีไม่มีแล้ว
สุขผ่องแผ้วเจิดจรัสประภัสสร
สุขเลิศล้ำให้ห้วงคิดไม่ผิดตอน
สุขอาทรเผื่อแผ่แคร์ต่อกัน
คือแสวงหาหนทางที่วางไว้
คือประสบการณ์การให้ไม่แปรผัน
คือได้พบเพื่อนร่วมทางไม่ต่างกัน
คือความฝันเดินสัญจรไม่ย้อนรอย
การได้ใจใครสักคนบนโลกนี้
การคิดดีเพียงสานต่อไม่ท้อถอย
การวางหลักมอบรักผู้รอคอย
การให้ใจแม้เล็กน้อยด้วยรอยธรรม
ให้เถอะนะตราบวิญญาณยังมีอยู่
ให้ใจรู้การให้ไม่ตกต่ำ
ให้มุ่งสู่ไฟศรัทธาเป็นกล้านำ
ให้กระทำความดีนี้เป็นทาง
7 พฤษภาคม 2552 16:46 น.
แก้วประภัสสร
เห็นเขาจูง มือเดิน ทำขวยเขิน
ไอ้ตัวเรา บังเอิญ ไม่เคยหวาน
ออกจะห้าว ผสมห้วน ป่วนไม่ปาน
ดอกรักบาน คงหุบ ยุบทันควัน
จึงอยากถาม บางใคร เหงาไหมหนอ
อย่าเพิ่งท้อ ขอเวลา อย่าได้หวั่น
จะทำตัว น่ารัก เหมือนเด็กนั้น
มาอ้อนเธอ ทุกวัน ให้สุขใจ
แต่ก่อนอื่น ยื่นมือมา หากันหน่อย
ลองมาจับ มือข้อย หน่อยได้ไหม
ว่ามันนิ่ม หรือหยาบ กระด้างไป
หนูจะได้ ทาครีม ให้นิ่มมือ
ยื่นหน้ามา ใกล้ตา หนูหน่อยเถิด
ดูว่าสวย พริ้งเพริด บรรเจิดหรือ
ก็แค่อยาก แน่ใจ ว่าจริงคือ
หนูไม่ถือ เข้ามาหน่อย ข้อยอยากมอง
5 พฤษภาคม 2552 16:53 น.
แก้วประภัสสร
ฉันตั้งใจไปถึงซึ่งเขตวัด
ก่อนเดินลัดลิ่วลมชมสยาม
ดูสินค้าหลายหลากมากสวยงาม
จวบเวลาบ่ายสามค่อยเดินลา
เสียงพระผู้รู้ธรรมกำลังเทศน์
ก้าวเข้าเขตปทุมวนารามอารามฟ้า
เงียบสงบกลบทุกสิ่งที่ผ่านมา
ราวกับว่านี่คือป่าในกลางกรุง
ฉันขึ้นไปบนศาลาทิวาคล้อย
คนทยอยมานั่งดั่งใจมุ่ง
สมาธิฟังธรรมเพื่อบำรุง
ละเลิกยุ่งโลกภายนอกบอกกับตน
ตั้งนะโมสามจบครบแล้วกราบ
แสงธรรมทาบอาบใจกายหายสับสน
จิตนิ่งดับสู่สมาธิรู้ตัวตน
จึงเกิดผลพลันสว่างกระจ่างตา
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปให้เสร็จสรรพ
ก่อนจะกลับก้มกราบไม่รอช้า
หลุดเบาบางวางไปในพริบตา
จะกลับมาอีกครั้งเหมือนตั้งใจ
ภาพโดย แก้วประภัสสร
2 พฤษภาคม 2552 07:26 น.
แก้วประภัสสร
พอความสุขหมดลงก็ทรงทรุด
ความทุกข์ผุดโถมร่างอย่างแข็งขัน
ไร้รั้วรอบขอบชิดปิดกั้นมัน
จริงกับฝันครั้นกล่าวไปคล้ายวกวน
อันเกิดแก่เจ็บตายเวียนหลายภพ
อาจเจนจบพบแล้วพรากจากอีกหน
บางเวลาก็เงียบเหงาเข้าแทรกตน
จิตสับสนปนความหวังก็พังครืน
เมื่อเก่าไปใหม่มาวาระต่าง
อาจเลือนลางหรือเด่นชัดไม่ขัดขืน
ปล่อยทุกสิ่งตามเวลาหาจุดยืน
ชีวิตขึ้นตามแต่สิทธิ์คิดชอบทำ
ขอเรียนรู้ที่จะอยู่และรักก่อน
ขอโอนอ่อนผ่อนเพียงไม่เพลี่ยงพล้ำ
มากหรือน้อยจงค่อยฝึกจิตนำ
เรียนซ้ำซ้ำทุกทุกวันก็พลันดี
ต่างมีสิทธิ์เลือกรักเพียงบางคน
ความอ่อนโยนขอมอบทุกคนนี้
หรืออาจเลือกอยู่ลำพังเพราะคิดดี
แต่ขอมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
ธรรมดาเมื่อพบสุขอาจทุกข์หนัก
อันความรักเกลียดโกรธอาจพลิกผัน
แม้อึดอัดอาจอบอุ่นเกื้อหนุนกัน
ไม่ปิดกั้นเพียงเก่าไปและใหม่มา
แก้วประภัสสร
02 /05/09