20 พฤษภาคม 2548 14:51 น.
แก้วนีดา
รอคอย คืนชมจันทร์
แสงแดดอ่อนท้อสายรุ้งโค้งฟ้า
ยามเมื่อฝนโปรยมาฟ้าชื่นฉ่ำ
ทินกรหลบเมฆฝนที่มืดดำ
ให้พิรุณนำน้ำฟ้ามารดไพร
พราวน้ำฟ้าบนใบหญ้าเขียวสด
ดุลมรกตล้ำค้าฟ้าประทานให้
เย็นฉ่ำทั่วล้าแนวป่าพนาไร
ป่าสดใสอีกคราเมื่อสุริยาเยือน
ดอกพุดไพรขาวไสวที่ชายทุ่ง
มะลิจรุงกลิ่นหอมกรุ่นกำจาย
เหลืองรัญจวนน่าชมเจ้าดอกจาน
ซ้อนกลีบผสานเป็นหมู่ดูงามจริง
หมูสกุณาพากันออกหากิน
ในแดนดินถิ่นป่าพนาสน
เหล่าผีเสื้อแสนสวยให้บินวน
ค้นหาน้ำหวานจากบุผาพนาวรรณ์
ครั้นเย็นย่ำสุริยาเจ้าลาลับ
หริ่งเรไรขับขานประสานเสียง
ดังเทพเทวาต่างมาบรรเลง
เพลงสวรรค์จากชั้นฟ้ามาสู้ดิน
โอ้ว่าดึกโอ้ว่าดื่นค่ำคืนนี้
มองท้องฟ้าราตรีมีดาวใส
ทอแสงสว่างพราวฟ้าไกล
ดังสายตามองหาใครในบางคน
ฝากฟ้าถามถึงเขาว่าหนาวไหมหนอ
มีคนคอยรอชมดาวที่เก่าเขารู้ไหม
หรือว่าเขาลืมสิ้นหมดรักหักอาลัย
ปล่อยให้เราหนาวใจได้ต่อ รอ.
. รอคอยคืนชมจันทร์ฉันและเธอ .
ยังรอคอยเสมอนะคนดี
ทุกราตรีที่มีจันทร์ฉาย
แก้วคนนี้จะคอยคนดีจากใจ
มารวมชี้ชวนกันไปชมจันทรา
19 พฤษภาคม 2548 10:52 น.
แก้วนีดา
อธิฐานจิตบูชาวิสาขบูชา
วิสาขบูชาเวียนพบบรรจบ
ต่างน้อมพณประนมบูชา
ดอกบัวธูปเทียนเวียนขวา
ตั้งจิตอธิฐานเป็นพุทธบูชา
ขอน้อมจิตตั้งไวในทางสงบ
ขอให้ได้พบนิพานดังหวังไว้
แม้เกิดชาติหน้าหรือชาติต่อไป
ขอให้ได้เพศชายดังใจที่หมายปอง
จะขอเข้าร่มกาสาวพัสตร์
จะศึกษาธรรมคำสั่งสอน
จะสวดมนต์ไว้พระวิงวอน
ขอให้ได้สมดังใจที่หมายปอง
ชาตินี้แม้มีบุญน้อยเพียงนิด
ด้วยมิเคยคิดว่าตนนั้นคือหญิง
แต่มิรู้จักทำประการได้แต่ประวิง
ถึงเกิดเป็นหญิงแต่ก็หยิ่งในศักดิ์ตน
จะไม่ขอควงคู่กับใครให้มั่วหมอง
จะไม่ขอทดลองใช้ชีวิตที่ผิดศิล
จะขออยู่แบบนี้ต่อไปในแผ่นดิน
รักษาพรหมจรรย์จนสิ้นชีพวางวาย
ขอประพณมือบูชาพระธรรม
ขอน้อมนำในสิ่งที่ตั้งใจหมาย
ขอให้สมดังประสงค์ทุกชาติชาย
บวชเรียนอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์เทอญ.
นี่คือตัวของแก้วนีดา
ที่ได้ตั้งจิตอธิฐาน
ขอต่อพระทุกคืนวัน
ตั้งจิตอธฐานเป็นพุทธบูชา
17 พฤษภาคม 2548 14:21 น.
แก้วนีดา
เพราะ
เพราะ .. ฉันไม่รู้จักรักดีพอ
เพราะ .. ฉันเป็นคนไม่ชอบง้อใคร
เพราะ .. ฉันเป็นคนชอบน้อยใจ
เพราะ .. ฉันเป็นคนหวั่นไหวนั่นเอง
เพราะ .. ฉันเป็นคนเพ้อเจ้อ
เพราะ .. ฉันเป็นคนชอบพลั้งเผลอ
เพราะ .. ฉันเป็นคนกลัวความเก้อ
เพราะ .. ฉันนึกรักเธออยู่ในใจ
เพราะ .. ฉันเป็นคนชอบคิดมาก
เพราะ .. ฉันนั้นยิ่งหวาดกลัว
เพราะ .. ฉันอาจเอาแต่ใจตัว
เพราะ .. ฉันกลัวเธอไม่รักกันจริง
เพราะ .. ฉันลืมนึกถึงความจริง
เพราะ .. ฉันลืมนึกถึงความเป็นไปได้
เพราะ .. ฉันลืมคิดว่าเธออาจมีใคร
เพราะ .. ฉันมัวแต่ฝันถึงเธอ และรักเธอ
เพราะ .. ฉันเวลารักใครแล้วก็รัก
เพราะ .. ฉันเปิดโลกตัวเองแคบไป
เพราะ .. ฉันยังไม่เคยเจอใคร
เพราะ .. ฉันงมงายบ้ารักแต่เธอ
เพราะ .. ฉันเป็นอะไรอีกมากมาย
เพราะ .. ฉันเป็นฉันแบบนี้
เพราะ .. ฉันคิดว่าฉันยังไม่ดี (มากพอ)
เพราะ .. ฉันจึงผลักไสหัวใจตัวเอง
สุดท้าย.. เธอก็ได้เห็น
ฉันเป็นเหมือนที่กำลังเป็น
เจ็บเหงาที่ใจจมปลัก
สอนใจว่าอย่าบ้าให้มากนัก
พอได้แล้วเรื่องของความรัก
หยุดพักแล้วสอนใจตัวเองว่า
พอแล้วนะกับสิ่งที่ผ่านมา
อย่าบ้ามากเกินไป..ฉันสอนใจตัวเอง.
เพราะว่า...ใจของฉัน...มันดันไปสนใจเธอ
16 พฤษภาคม 2548 11:11 น.
แก้วนีดา
โฉมงาม
แม่เอ่ย งามนัก วงพักตร์ ลักขณา
แจ่มโฉม สวยเด่น ดังดวง จันทรา
งามขนง โค้ง ขันศร วงเทวา
เนต นัยนา ดังดารา ในราตรี
งามสอง พวงแก้ม ยามเจ้า แย้มยิ้ม
ช่าง จิ้มลิ้ม อมชมพู ดูงามสม
รอมยิ้ม พิมพ์ใจ ของ นวลอนงค์
ดัง ศรรัก ปักลง ตรงกลาง ใจ
รูปร่าง เจ้าช่าง อรชร ดังหงส์
อก เอวองค์ ดังนาง ในแดนสวรรค์
ผิว ขาวผ่อง น่าสัมผัส เนื้อนวลพรรค์
ชั่ง งามสรรค์ ทั่วร่าง สารพางค์ กาย
ชายใด ได้เห็น ดังเช่น พี่เห็น
เป็น เผลอใจ หลงรัก เจ้าหนักหนา
อยากรู้จัก อยู่ใกล้ เจ้าแก้ว กานดา
ขอ แนบชิด สิเหน่หา มิรู้ลืมณ นาง.
น่ารักจริงหนอโฉมแม่
ตลึงแลโฉมแม่งามขำ
หญิงใดไหนเลยจะงามล้ำ
เท่าโฉมแม่คนงามของแก้วนีดา
... โฉมงาม ...
13 พฤษภาคม 2548 11:12 น.
แก้วนีดา
สายธารธารา ดังสายชล
สายน้ำไม่เคยไหลย้อมกลับ
ดังความรักที่จากจรไกล
รักในครั้งเก่าที่เธอเจ็บช้ำใจ
จะคงขอให้เธอเก็บมันไว้ในความทรงจำ
รักใหม่ที่สดใสจริงใจดังว่า
เมื่อเธอตื่นลืมตามิใช่ความฝัน
มีตัวมีตนของใครคนนั้น
มานั่งรวมฝันด้วยกันใต้ฟ้าพราว
คืนนี้มิใช่คืนเดือนแรม
มองฟ้าแจ่มด้วยแสงจันทรา
ท้องแสงแวววับนั้นคือดวงดารา
เราสองจะนั่งมองฟ้าบอกคำ รัก ฝากไป
ขอเจ้าสายลมพริ้วแผ่วอ่อนหวาน
ขอวานเจ้าพาคำกลอนจากข้า
ไปบอกเขาด้วยเถอะนะว่า
แก้วนีดาคิดถึงมากหนักหนา คนไกล
จะขอนั่งชมจันทร์ตรงนี้ที่เดิม
ขอเพลินตามองดวงดาราที่ฟ้าไกล
ขอรำพึงฝากคำรักไปให้
ขอเธอจงอยู่สุขสบายทั้งกายใจนะเธอ.
คิดถึงมิเสื่อมคลาย...........ฝากสายลมไปถึงเธอ.