30 พฤศจิกายน 2548 10:13 น.
แก้วนีดา
เสียงกี่กระตุกใต้ถุนบ้าน
เมื่อฟังนานไปให้คิดหวน
เรื่องราวของลายผ้าฝ้ายล้วน
เกิดผลงานงามชวนมองต้องตา
จากดอกฝ้ายสีขาวปุยนุ่ม
กลายเป็นผ้าห่อหุ้มร่างกาย
หลายสีที่ทอสลับลวดลาย
เพื่อทำออกขายได้เงินมา
กี่วันกี่คืนได้ผืนหนึ่ง
จากสองมือซึ่งพุ่งกระสวยด้าย
อีกสองเท้าเหยียบไม้สลับไป
ให้เกิดลวดลายผ้าฝ้ายพลัน
เสียงกี่กระตุกสลับขึ้นลง
จิตใจมุ่งตรงผลงานข้างหน้า
หวังให้สำเร็จได้ผืนผ้ามา
รอดตายอีกคราจากผ้าทอมือ.
.
29 พฤศจิกายน 2548 12:39 น.
แก้วนีดา
วิถีชีวิต ของชน คนบ้านป่า
ถูกตีค่า ว่าต่ำต้อย ด้อยการเรียน
ทำงานหนัก พออยู่ได้ ให้พากเพียน
เรื่องอ่านเขียน จบปอสี่ ดีถมไป
วิถีชีวิต ของชาวนา ทำงานหนัก
ถ้าหยุดพัก รักสบาย คงจะแย่
หลายปากท้อง ที่รออยู่ ต้องดูแล
พ่อที่แก่ แม่ที่ชรา พาอดตาย
เสร็จจากงาน เก็บเกี่ยวข้าว เข้ายุ้งฉาง
ออกเดินทาง เข้าเมืองใหญ่ จิตใจมุ่ง
หางานทำ นำเงินกลับ เพื่อมาพยุง
คิดปรับปรุง นาข้าวใหม่ ในอีกปี.
25 พฤศจิกายน 2548 11:59 น.
แก้วนีดา
พิรุณลาไกลคลายเหินห่าง
เหมันต์ย่างกายเข้ามาหา
รวงข้าวเหลืองอรามดูงามตา
รอเวลาเกี่ยวเจ้ามาใส่ยุ้งฉาง
ชาวนาไทยมองไกลในท้องทุ่ง
ใครจะพยุงราคาข้าวในยุ้งฉาง
ตั้งความหวังอีกปีคงไม่ล้าง
รัฐคงอ้างประกันไว้สบายเลย
ที่ผ่านมาชาวนามีแต่น้ำตาล่วง
เดินทางมาประท้วงไร้ความหมาย
อีกปัญหาน้ำป่าเข้าท่วมมากมาย
ชีพแทบวายกว่าจะได้ข้าวหนึ่งรวง
พิรุณลาไกลจากไปแล้ว
ยังไม่แคล้วให้คิดจิตสั่นไหว
ราคาของสิ่งอื่นต่างขึ้นแซงหน้าไป
ราคาข้าวชาวนาไทยจะขายได้.กี่บาทกัน.
24 พฤศจิกายน 2548 11:02 น.
แก้วนีดา
ดินน้ำลมไฟกายธาตุทั้งห้า
หรือเจ้ามีคุณค่าแค่ที่อยู่อาศัย
ยามเจ้าสาวหนุ่มเขาต่างพอใจ
ยามแก่เฒ่าลงไปเขาไม่แลแม้แต่มอง
นี้คือสัจธรรมความจริงของโลก
มิใช่โชคหรือเคราะห์กรรมสร้าง
เมื่อมีเยาว์วัยย่อมมีชราร่าง
เพียงคิดปล่อยว่างลงบ้างพบสุขได้
กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนทุกสิ่ง
ขอจิตหยุดนิ่งต่อสิ่งหลอกลวงตา
เจริญธรรมน้อมนำพระสัมมา
สู่กายาเจริญค่ายกจิตตน
จิตมนุษย์เขาว่ายากแท้หยั่งถึง
ขอพึงระวังจิตคิดรักษา
ถ้าปล่อยตัวมัวเมาหลงมายา
ภัยคงมาถึงตนจนอบาย
ดินน้ำลมไฟกายธาตุทั้งห้า
มีคุณค่ารวมเป็นกายาให้อาศัย
ยามอยู่ขอจงดูแลรักษาไว้
ยามจากไปสิ่งที่เหลือไว้คือ.ความทรงจำ.
22 พฤศจิกายน 2548 12:54 น.
แก้วนีดา
หนึ่งชีวิตเกิดมาบนโลกกว้าง
ให้อ้างว้างเดียวดายไร้จุดหมาย
ต้องเร่ร่อนขอทานเพื่อกันตาย
ชีพไม่วายคงเติบใหญ่ไร้ทิศทาง
กี่ร้อนกี่ฝนกี่ลมหนาวแล้ว
ไร้วี่แววพ่อแม่ผู้ดูแลเอาใจใส่
ต่างคนต่างอยู่ดิ้นรนไม่สนใจ
ปล่อยเด็กน้อยไว้ลำพังช่างอาดูร
หนึ่งชีวิตเจ้าเกิดมาดูไร้ค่า
ไร้การศึกษาเชิญหน้าชูตา
หนึ่งชีวิต ฤ หมดสิ้นศรีสง่า
อนาถหนักหนาอนาคตเขาเจ้าเด็กน้อย.