23 กุมภาพันธ์ 2547 16:28 น.
แก้วนีดา
คืนนี้มีแต่แสงดาว
ขาดจันทร์เจ้าทอแสง
เหมือนเราคนสิ้นแรง
ขาดแสงแห่งความศรัทธา
ยามเช้าไร้ไออุ่น
ขาดกลิ่นกรุ่นมวลผกา
ฟ้าขาดแสงสุริยา
โดนเฆคาเจ้าบดบัง
ลมฝนมืดมนฟ้า
พายุพัดกระหน่ำมา
หนาวเน็บเจ็บอุรา
ลมฝนฟ้าคึกคนอง
เช้ายันค่ำฟ้ามืดม่น
ดังชีพคนขาดหลักไช
ล่อยลอยนาวาไป
ไร้จุดหมาย แห่งปลายทาง
23 กุมภาพันธ์ 2547 16:12 น.
แก้วนีดา
ชีวิตคนเราก็เหมือนละคร
บางตอนก็มีความสุข
บางตอนก็มีแต่ความทุกข์
คละเคลากันไป
ดังเช่นละครชีวิตฉัน
บางวันมีสุขมากมาย
ในบางวันเศร้าตรมใจ
ขาดคนห่วงใยดูแล
โอ้..อนิจาน้ำตาไหลริน
หัวใจฉันมันโบยบิน
เสาะหาถิ่นที่พักพำนักใจ
จะมีใครบ้างไหมให้พักพิง
ละครในชีวิตฉัน
ในบางวันสุขทุกข์ปะปน
ฉันมองหาใครสักคน
ก่อนสิ้นลมจากไปไกล
ละครของบทสุดท้าย
จะจบลงกันอย่างไร
ทุกคนล้วนคงจะเข้าใจ
คือ..หนีไม่ได้..ตายทุกคน
23 กุมภาพันธ์ 2547 15:55 น.
แก้วนีดา
เพียงแค่เปลี่ยนความคิด
ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงได้
แล้วด้วยเหตุอันใด
เราถึงไม่ตัดใจเสียที
ความรักนั้น คือทุกข์
หรือมีความสุขสมฤดี
ชีวิตใครถ้าโชคดี
มีคู่ดีก็สุขสมปอง
รักแล้วเป็นทุกข์
ไม่มีสุขร้องไห้
เราจะโทษใคร
อยู่ที่ใจเลือกเอง
18 กุมภาพันธ์ 2547 14:29 น.
แก้วนีดา
วันใดใจเปลี่ยน
ขอเพียงบอกฉัน
จะไม่รำพัน
ด้วยฉันเข้าใจ
เธอสุขฉันสุข
เธอทุกข์อ่อนไหว
ฉันเองโธ่ใคร
ทุกข์ใหญ่กว่าเธอ
ขอเพียงบอกนิด
ว่าคิดจากไป
ไม่รั้งเธอไว้
ไม่ใช่ไม่แคร์
แต่นี้คือ รัก
รักของคนแพ้
จะคอยเฝ้าแล
ความสุขของเธอ
18 กุมภาพันธ์ 2547 14:22 น.
แก้วนีดา
หยิบรอยยิ้มมาฝาก
หอบความรักมาให้
ซึ่งฉันกลั่นจากดวงใจ
ฝากให้ด้วยใจที่ผูกพัน
แนบมากับความรู้สึก
ลึกลึกที่มีให้
แซมไว้ด้วยความห่วงใย
กับสองใจที่มั่นคง
ส่งผ่านความรู้สึก
ส่วนลึกที่มอบให้
แถมท้ายด้วยความจริงใจ
ฝากไว้ให้ทุกคน