20 มกราคม 2548 12:40 น.
แก้วนีดา
หนาวลมเหนือ..เมื่อหนาว แผ่วคราวไหน
เหมือนมีใคร..มาทวงถาม ถึงความหลัง
ไม่หนาวเพราะลมพลิ้ว..ทิวไม้บัง
หนาวเพราะชั่ง..ความชั่วของตัวเธอ
ฉันคงเป็นเพียง..ส่วนเกิน
ที่เธอบังเอิญ..พบพาน
ฉันคงเป็นเพียง..ทางผ่าน
ที่เธอต้องการ..เพียงแก้เหงาหัวใจ
เป็นเพียง..เศษสิทธิ์ แห่งความคิดถึง
เป็นเพียง..คนหนึ่ง ซึ่งเคยชิดใกล้
กันคนเหงาเหงา..ซึ่งยากแก่การเข้าใจ
เธอจึงแหนงหน่าย..จากไปอย่างไม่ใยดี
ฉันคงเป็นเพียง..เศษฝัน
ที่เธอแบ่งปัน..เสแสร้ง
ที่เธอเผลอไผล..ให้แบ่ง
เพียงเพื่อเสียดแทง..ให้เจ็บปวดรวดร้าว
ฉันมันก็แค่..ส่วนเกินของเธอ
ที่บังเอิญมาพบเจอเธอได้
ต่อแต่นี้จะไม่มีเธอ..หรือใครใคร
มาทำร้ายจิตใจ..เพราะด้วยเห็นเป็น ส่วนเกิน.
ก็ความคิด...และอามรย์ส่วนหนึ่ง เท่านั้นเอง
19 มกราคม 2548 13:10 น.
แก้วนีดา
บาดแผลในใจ..ทำให้ฉันชาเฉย
ซ่อนเร้นวันวัย..ล่วงเลยที่ร้าวฉาน
เมื่อถึงวัน..จุดจบจากประสบการณ์
ที่พบพาน..ผ่านพ้นใจให้ชิงชัง
ความเจ็บปวด..สอนตนเป็นคนใหม่
ความอ่อนไหว..ย้ำสิทธิ์ความผิดหวัง
ความอ่อนหวาน..ทั้งหลายไม่จริงจัง
ภาพความหลัง..บาดเจ็บให้เหน็บชา
เรียนรู้มา..มากพอจนท้อแท้
เพราะแม้แต่..ความจริงใจก็ไร้ค่า
ความรัก..มันแตกดับกับเวลา
ด้วยความอ่อนล้า..สามานย์การทำลาย
เพียงพอ..กับความใยดีที่มีให้
ความดีจากหัวใจ..ไร้ซึ่งความหมาย
ศรัทธา..เลอลบฟ้าพร่าละลาย
ความรู้สึก..เฉาตายในสายตา
ขออยู่อย่าง..ทระนงไม่หลงเขลา
ความมัวเมา..สอนตนเป็นคนกล้า
รอยอดีต..รักล้นขอเลิกลา
จุดศรัทธา..เข้มแข็งแห่งหัวใจ
เดินคนเดียว..ในโลกเปลี่ยวและว่างเปล่า
ไม่เหงา..ไม่ร้าวรอนไม่อ่อนไหว
ความสุขในวันนี้..ไม่มีใคร
มีแต่ใจ..ยิ้มรับกับตัวเอง
เวลาของความรัก..ที่มีให้
กับใครต่อใคร..หมดลงที่ตรงนี้
ด้วยเจ็บมาก..ในฤดี
ต่อแต่นี้จะขออยู่..แต่ผู้เดียว
18 มกราคม 2548 11:16 น.
แก้วนีดา
แสร้งว่า.....ไม่รักเธอมากนัก
แสร้งว่า.....ไม่คิดถึงกันมากมาย
แสร้งว่า.....ทำเป็นไม่สนใจ
แสร้งว่า.....ไม่รักใคร่ใยดี
แสร้งว่า.....ตั้งใจจะไม่ไปหา
แสร้งว่า.....จะขอจากลาเธอไป
แสร้งว่า.....ไม่รักกันเลยรู้ไหม
แสร้งว่า.....เบื่อหน่ายเธอจัง
แสร้งว่า.....เกลียดเพลงที่เธอฟัง
แสร้งว่า.....จะไม่รักจริงจังเธอได้ไหม
แสร้งว่า.....เวลาที่เธอจากลาจะไม่ร้องไห้
แสร้งว่า.....น้ำตาไม่ไหล ไม่เสียในเลยเธอ
แสร้งว่า.....ไม่หึงไม่หวง
แสร้งว่า.....ไม่เป็นห่วงกันได้ไหม
แสร้งว่า.....ไม่สนใจชายคนไหน
แสร้งว่า.....จะไม่ขอรักใคร่ใครจริง
แสร้งว่า.....ทำตัวไม่น่ารัก
แสร้งว่า.....บอกรักเธอน้อยกว่าใครใคร
แสร้งว่า.....ทำเป็นไม่สนใจ
แสร้งว่า.....ไม่ห่วงใยกันได้ไหมเธอ
แสร้งว่า.....คือ.....แสร้งว่า
แสร้งว่า.....คือ.....ไม่แสร้งว่า ได้ไหม
แสร้งว่า.....คือ.....จะแสร้งว่า ทำไม
แสร้งว่า.....คือ.....แสร้งว่า ไม่จริง สักเรื่องเลย.
ก็มันเป็นได้เพียงแค่.....แสร้งว่า....เท่านั้นเองนี้หน่า.........
17 มกราคม 2548 12:28 น.
แก้วนีดา
ฉันรู้ว่าเธอก็รู้คำพูดคำนี้ของฉัน
หวานใจของฉัน นั้นหมายถึงใครถ้าไม่ใช่เธอ
คนดีที่รักของฉัน
เธอจะรับรู้ไหมว่าเธอคือคนสำคัญ
เธอคนเดียวอีกเช่นกัน
ที่อยู่ในใจของฉัน ตลอดมา
ที่รักจ๋า ถ้าในวันหนึ่ง
ฉันได้พบว่าเธอต้องจากฉันไปไกล
จะด้วยเหตุผลของอะไร
ฉันเพียงขอให้เธอ รับรู้เอาไว้
ว่าเธอจะยังคงอยู่ และอยู่ในใจของฉันเสมอ
อย่าได้ถามฉันอีกเลยนะ
ว่าถ้าเธอต้องจากฉันไปไกล
ฉันจะยังคิดถึงเธอไหม
และฉันจะทำอย่างไรเมื่อรู้ว่า เธอต้องจากไปไกลกันเช่นนี้
ถึงแม้ตัวของเธอเอง จะต้องร้องไห้
ในการต้องห่างไกลกันของสองเรา ในครั้งนี้
ฉันเอง ก็ไม่ต่างอะไรจากเธอเลยนะคนดี
ขอให้เธอ รับรู้ไว้นะ
. หวานใจของฉัน
เธอจะยังคงอยู่ คงอยู่ใกล้ฉันเสมอ
เราสองคนจะยังคงอยู่ใกล้กันด้วยใจ
ใจฉันที่มีแต่เธอเสมอ และจะมีแต่เธอตลอดไปอีกเช่นกัน
หวานใจของฉัน.
17 มกราคม 2548 11:08 น.
แก้วนีดา
หนึ่งปีที่ผ่านเธอจะรู้ไหม
เธอนั้นมีค่าและมีความหมายกับฉันเสมอ
ฟ้าสีคราม.เพื่อนรัก
เธอรู้ไหมว่าเธอคือ
คนที่ทำให้ฉันได้รู้ว่ายังมีคนที่ห่วงใย
คนที่คอยมอบน้ำใจคนที่ยังห่วงหา
คนนั้นไม่ใช่ใครคือเธอเพื่อนรัก
และทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอเศร้า
ใจของเราก็จะพลอยเศร้าไปกับเธอ
แต่ในยามที่เธอหัวเราะเริงร่าได้
เธอรู้ไหมว่าแก้วนีดาจะดีใจไปกับเธอเสมอมา
ฟ้าสีครามจ๋าตลอดระยะเวลา
หนึ่งปีที่ผ่านมามันมีค่ากับเรามากมาย
สายใยสายสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนนั้น
จะยิ่งผูกพันหัวใจของเราทั้งสองคนไว้
ด้วยคำหนึ่งคำที่แสนจะยิ่งใหญ่
คำหนึ่งคำนั้นมันมีความหมายมากเกินบรรยาย
แต่เราทั้งสองคนก็รับรู้กันได้ด้วยหัวใจ
คำนั้นมันกลั่นออกมาจากใจของเราทั้งสอง
แล้วมารวมกันไว้เธอรู้ใช่ไหมคำหนึ่งคำนั้น คือ
เพื่อนรัก