2 มีนาคม 2548 11:16 น.
แก้วนีดา
พระพุทธองค์บอกว่า
การเจริญอานาปานสติ มีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่
แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง ไม่เคยลองปฏิบัติ
ตั้งแต่เกิดมาเราก็มองข้ามไป
ถึงแม้ว่า การฝึกเจริญอานาปานสติจะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
พวกเราก็ไม่ค่อยสนใจ
บางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องยาก บางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องคร่ำครึ
ปล่อยให้คนอื่นเขาทำกันเถิด เราเป็นคนดีอยู่แล้ว
อันนี้เพราะเราไม่เข้าใจ
เพราะเรายังไม่ยอมลงมือปฏิบัติ
จริง ๆ แล้วการปฏิบัติก็ไม่ยากมากมาย
หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆก็เท่านั้น
และการปฏิบัติก็เป็นเรื่องของทุกคน.
ถ้าเราไม่ลงมือปฏิบัติ เราก็ไม่เห็นคุณค่า
ไม่เห็นประโยชน์ของการปฏิบัติ
เราปฏิเสธสิ่งดี ๆ ในชีวิตอย่างน่าเสียดาย
มาปฏิบัติ เจริญศีล ภาวนากันเถิด
แล้วเราจะมีความสุขทุกคนมีความสุขได้ในทุกสถานการณ์
เพราะผู้ปฏิบัติย่อมได้รับผลเอง ย่อมมีความสุข ย่อมอิ่มอกอิ่มใจ
ปฏิบัติเดี๋ยวนี้ ก็ได้ผลเดี๋วยนี้
และเมื่อเราได้ปฏิบัติ เราจะเคารพรัก
และบูชาพระพุทธองค์ได้อย่างจริงใจ
และเราจะเรียกตัวเองว่าชาวพุทธได้อย่างเต็มภาคภูมิ
หายใจเข้า ๆ หายใจออกยาว ๆ สบาย ๆ
เราไม่ต้องศึกษาอะไรมากมายก็ได้
พยายามทำความรู้จักกับลมหายใจ
กำหนดลมบ่อย ๆ จนเกิดความเคยชิน
มีฉันทะ ที่จะอยู่กับลมหายใจตลอดเวลา
อย่างน้อยสุขภาพจิตของเราก็จะดีขึ้น
การระลึกรู้ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
เป็นการทำให้ศีลบริสุทธิ์ที่จิต ที่เจตนาถูกต้อง
เป็นการเจริญสติ สัมปชัญญะ และปัญญาด้วย
เป็นการพัฒนาจิตใจโดยตรง
จึงมีอานิสงส์มาก มีประโยชน์มาก
เราจึงควรพยายามศึกษา
และพยายามทำบ่อย ๆ จนเป็นนิสัย
เมื่อมีปัญหา ก็เอาลมหายใจเป็นสรณัง คัจฉามิได้
เมื่อเกิดปัญหาเป็นทุกข์ไม่สบายใจ
ก็รีบหายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเป็นที่พึ่งที่ระลึกของเรา
เมื่อเราสามารถระลึกรู้ ลมหายใจออก
ลมหายใจเข้าได้ โดยธรรมชาติ สบาย ๆ
ในอิริยาบถยืน เดิน นั่ง นอนตลอดวันตลอดคืน
ก็เป็นอินทรีสังวรศีล
หรือแม้ว่าไม่ตลอดวันก็ตาม แค่ 10 นาที 20 นาที
ถ้าเรานั่งสบาย ๆ กำหนดลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
ติดต่อกัน ต่อเนื่องกันโดยธรรมชาติ ด้วยความพอใจ
ช่วงนั้นจิตใจของเราก็สงบ
เป็นปกติ เป็นศีล เป็นอินทรีสังวร
รักมากรู้ไหม...นำธรรมมาให้ด้วยใจ
รักมากรู้เอาไว้....จะอย่างไรอย่างไร
แก้วนีดาคนนี้จะไม่ขอละทิ้ง...หรือจากไกล
จะขอยืนยันมั่นคง...จะทำต่อไป
ขอทำด้วยหัวใจ...ที่มีรักมั่นคงให้กับเธอ
ต่อให้ดินฟ้าหรือว่า...ฝนตก
ถึงแม้มีลมพายุที่พัด...ด้วยโหดร้าย
เราคนนี้จะสู้...เพื่อเธอจะได้โปลอดภัย
ขอต่อสู้ด้วยใจ...สู้ต่อไปด้วยธรรม
พร้อมกับขอน้อมนำ...หลักธรรมให้เธอ
รักนะขอบอก...ใช้หลอกกันหนา
รักมากจ๊ะเจ้าเพื่อนของ...แก้วนีดา
รักจริงจะไม่ทอดทิ้ง...ให้เหว่าหว้า
รักมากเลยหละ...เลยนำธรรมมาสู่ใจ
ก็รักเพื่อนๆๆจริงๆๆๆนีค่ะ
1 มีนาคม 2548 10:31 น.
แก้วนีดา
ผ่านเห็นมา....นานา....สาระพันธุ์
ทุกสังคม.....ทุกชนชั้น......ระดับถิ่น
ผ่านร้อยแปด.....พันเก้า.....ให้ยลยิน
ล้วนดี-ชั่ว.....เคล้าชีวิน.....เป็นสัจจธรรม
สิ่งใดได้.....คล้ายเหมาะสม.....ควรบ่มเพาะ
จงพิเคราะห์.....ให้เจาะใจ.......ให้ชุ่มฉ่ำ
เย็นข้างนอก.....เย็นข้างใน.....ไม่ระกำ
ไม่ระส่ำ.....สั่นไหว.....ทั้งใจกาย.....
อันดี-ชั่ว.....จะรู้คล้าย.....เมื่อภายหลัง
ตัวตายยัง.....คนอยู่.....สิใจหาย
คนหมดทุกข์.....ตายไป.....ก็หมดร้าย
แต่คนอยู่........แทบวอดวาย.....ด้วยผลกรรม
เมื่อรู้ชิด.....สนิทสนม.....พอสมพักตร์
เก็บใจรัก.....ไว้สักนิด.....อย่าชิดถลำ
ค่อยเรียนรู้.....มองทุกด้าน.....ผ่านรสธรรม
ดีมานำ.....ชั่วทิ้งไป.....ไม่ใยดี
**ดีเก็บใช้**.....**ชั่วเก็บ-ละ**.....พระฯ ท่านสอน
ใจเมตตา.....อย่าคิดค่อน.....ไม่ควรที่
เขาไม่ดี.....ก็วางไว้.....รู้ไม่ดี
อธิษฐาน.....ชาติไหนนี้.....ไม่ดี-ไกล
รู้เขาดี.....คิดสรรเสริญ.....เจริญคุณ
ธรรมดีนี้.....ควรอุดหนุน.....นำมาใส่
สร้างในตัว.....ตนเรา.....ให้เข้าใจ
ฉลาดใช้.....แยกคัด.....สัจจะควร
จึงนิยม.....สมมาเกิด.....ประเสริฐคน
มีปัญญา.....พากมล.....ไม่เหหวน
รู้ยึดมั่น.....สรรค์แสดง.....แจ้งทบทวน
รู้ระบอบ.....ชอบกระบวน.....ล้วนคั้นคม
ใครจะดี.....ดีนั้น.....สรรค์มาเก็บ
ใครจะชั่ว.....ไม่ต้องเหน็บ.....ไม่ต้องผสม
เรียนโลกชั่ว.....ยกพันพัว.....มาปรารมภ์
ว่าไม่นิยม.....ขอไม่เป็น.....เช่นชั่วนั้น.....
จึงสะอาด.....ในดวงจิต.....คิดก็ผ่อง
จะหันมอง.....จ้องทางไหน.....ให้สุขสันต์
มีปัญญา.....รู้--แล้ว-วาง.....ทุกข้างพลัน
ปัญญานั้น.....คืออาวุธ.....ผุดในใจ
ถือสันโดษ.....ในความดี.....ที่ตนมี
ทุกวิถี.....เอาชั่ว-ละ.......เอาดีมา-ใส่
ไม่สะทก.....ไม่สะเทือน.....เลื่อนกับใคร
**เอาดีมาใช้.....เอาชั่วไปละ.**......พระฯ ให้จำ
แม้นมิรู้.....แยกมิได้.....คล้ายโกรธ-บ้า
มองที่หน้า.....ร้อนอย่างนี้.....ที่ถลำ
มองที่ใจ.....ใสอย่างนี้.....เย็นประจำ
นั่นแหละธรรม.....อยู่ในใจ.....คบได้ดี
**ดีมาใช้.....ชั่วมาละ**.....นั้นประเสริฐ
สมเป็นคน.....ปัญญาเลิศ.....ใช้ทุกที่
สมเกิดมา.....เป็นมนุษย์.....สุดทางดี
สวรรค์จะก้ม.....ทำพลี.....เพื่อบูชา
เกิดเป็นคน.....ใช้ใจตน.....บนสายกลาง
อยู่ระหว่าง.....นรก-สวรรค์.....สรรค์เห็นค่า
ภพที่เลิศ.....สุดแล้ว.....แว่วพรรณนา
คือโลกา.....ที่เรามา.....ใช้ยึดครอง..
ได้มาเกิดด้วยอย่างน้อยร้อยศีลห้า
จึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์สุดผุดผ่อง
อยู่ที่ธรรมนำมาเกิดกันก่ายกอง
สุดจะปองหนทางจะสร้างไป
เกิดเป็นคนอยู่บนทางสายกลาง
มีสิทธิ์เดินไปข้างไหนก็ได้
มีสิทธิ์เข้าไปที่ไหนเห็นทุกสิ่งได้ตามใจ
มีสิทธิ์เรียนเทียบสิ่งที่เห็นได้ด้วยปัญญา
ด้วยรักจากใจที่จะนำมามอบให้เสมอ
ขอเพียงแต่เพื่อนพ้อนอย่าพึ่งเบื่อ
แก้วนีดาคนนี้ยังมีข้อธรรมอีกมากขอให้เชื่อ
อย่าพึ่งเบื่อการอ่านข้อธรรม.......กันนะค่ะ.
ก็เพราะ รัก นะมีไรเปล่าจ๊ะ.
28 กุมภาพันธ์ 2548 15:27 น.
แก้วนีดา
เมื่อเราเริ่มลงมือปฏิบัติบ้าง
เราจะเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น
คือ เห็นตัวเอง รู้จักตัวเอง
แล้วเราจะปิติ ดีใจมาก.ทุกคน
เพราะมันเป็นอีกมิติหนึ่งของจิตใจของเรา
ที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่
การศึกษาธรรมะ ยิ่งศึกษา ยิ่งสงบ
เป็นโอปนยิโก ยิ่งปฏิบัติก็ยิ่งเป็นโอปนยิโก
น้อมเข้ามา ๆ เพื่อการปล่อยวาง ปล่อยวางสิ่งภายนอก
แล้วก็น้อมเข้ามาในธรรมะ น้อมเข้ามาดูกายกับใจของตัวเอง
ดูตัวเอง แก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง
มากกว่าที่จะไปดู ไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
คนอื่นเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ
สำคัญที่ใจของเราเป็นอย่างไร
เราหมั่นน้อมเข้ามาดูจิตใจของเรา
รักษาจิตใจของเราให้เป็นปกติเสมอ คือ เป็นศีล
ศีล คือ ปกติ คือไม่ยินดียินร้าย
เป็นอินทรียสังวรศีล
อินทรียสังวรศีล
อานาปานสติขั้นที่ 1 คือ
หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกยาว ๆ
มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมลมหายใจออก ลมหายใจเข้า
เป็นอินทรียสังวรศีล
เป็นการสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ไม่ให้ยินดียินร้าย.
หันมาพิจารณากันสักนิด
เพื่อชีวิตจะได้สุข สดใส
ทำเถิด ผลที่บังเกิดใช่ของใคร
ตัวเราทำเราก็ได้ ใช้ใครที่ไหนเลย
มาเถอะเพื่อนพ้องพี่น้อง
ปฏิบัติธรรมนำสุขมาให้
ขอเพื่อนจงพิศพินิจด้วยใจ
สุขอื่นใดไหนนำเท่าปฏิบัติธรรม มิมี
เริ่มต้นที่คิด ดี ก็ได้แล้ว
คือความสุขในใจที่ได้คิด
คิดดี ใจดี จิตดี ไม่มีผิด
เป็นเช่นนี้แล้ว ใยไม่น้อมนำ
อีก ปฏิบัติดี ผลที่ได้ใจเป็นสุข
มองเห็นเรื่องหมดทุกข์ มิสงสัย
ธรรมคือธรรมชิติของเรื่องจิตไง
มาน้อมนำจิตใจให้สุขหมดทุกข์เลย
มาเถอะนะพี่พ้องน้องเพื่อน
หันมองธรรมกันบางจะได้ไหม
เราเอาสุขแท้จริงมามอบให้
ด้วยใจที่ใฝ่ให้น้องพี่หมดทุกข์มีสุขกัน
ด้วยรัก จากใจจริง
ที่นำมามอบให้ทั้งชายหญิง
รักเธอมากจริงจริง
ทั้งชายหญิงขอมาปฏิบัติธรรม
ก็รักนะ....มีไรปะ....อิ อิ อิ
28 กุมภาพันธ์ 2548 11:44 น.
แก้วนีดา
การทำความดีก็คือ การให้ทาน
การรักษาศีล และปฏิบัติภาวนา
อันนี้ก็เป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย
อันเป็นที่ปรารถนาของทุกคน
คือฐานะดี รูปดี ปัญญาดี อายุยืน มีความสุข
การเจริญทาน ศีล ภาวนา
เมื่อทำแล้ว เราได้รับอานิสงส์ทันทีในปัจจุบันชาตินี้
ไม่ต้องรอภพหน้า
ปฏิบัติวันนี้ ก็เริ่มได้ผลวันนี้ อนาคตในชาตินี้ก็ดี
เมื่อตายแล้ว ชาติหน้าก็ได้รับอานิสงส์อีก.
วันนี้คุณได้ทำความดีกันหรือยัง
ทำด้วยใจที่ไม่หวังในสิ่งผล
ทำด้วยใจด้วยจิตที่มากล้น
ด้วยกุศลผลบุญส่งในสิ่งดี
ถ้าแม้ว่ายังไม่เคยคิดทำ
ฉันขอน้อมนำด้วยจิตพิศมัย
ขอพ้องเพื่อนมวลมิตรมาร่วมใจ
ทำบุญกุศลให้ส่งจิตใจได้เบิกบาน
ทำดีวันละนิด...จิตสดชื่น
ทุกวันคืน...คิดดี..จิตสดใส
ฝึกหัดทำบุญ...กันเอาไว้
สิ่งที่ได้...จิตสดใส...ไงละเธอ.
มาชวนเพื่อนๆๆหันมาทำบุญ...กันนะค่ะ.......
ปล. สำหรับแม่จิตร..และเหมียว...ขอบคุณมากสำหรับวันนี้....กับทบกลอนดีๆที่เพื่อนได้ทำให้นะจ๊ะ.......ขอให้เพื่อนทั้งสองคนมีความสุขมากๆๆเช่นกันนะจ๊ะ.
22 กุมภาพันธ์ 2548 12:19 น.
แก้วนีดา
หันมาสำรวจตัวเองกันบ้าง
ปัญหาในสังคมทุกวันนี้
เพราะเราไม่ค่อยเอาใจใส่ ในการรักษาจิตใจของตัวเอง
เราไม่เคยสำรวจตัวเอง
เราคิดว่าเราดีแต่คนอื่นไม่ดีตลอด
เพราะเราดูแต่คนอื่น ไม่เคยดูตัวเอง
เรามัวแต่จ้องจับผิดคนอื่น
จึงทำให้จิตใจของเราฟุ้งซ่าน สับสน เครียด ทุกข์
เรามัวแต่อยากพัฒนาคนอื่น ลืมตัวเอง
การปฏิบัติภาวนารักษาศีล คือ การหยุด
หยุดผู้อื่น หยุดตำหนิผู้อื่น
หันมาสำรวจตัวเองบ้างเป็นครั้งคราว.
อย่าเอาดีแต่ตัวของตน
ปัดพ้นตนความชั่วผู้อื่น
หันมองดูตนของตนจงตื่น
ขอให้คิดพิจารณาในตน
ทำดีเอาไว้จะต้องได้ดี
ละชั่วที่มีจะไม่หมองศรี
สุขเกิดได้พบแต่สิ่งดี
ถ้ายังชั่วนี้หละทุกข์หมดสุขเลย
ตื่นเถิดพี่พ้องน้องพี่
หันมารับสิ่งดีใส่ใจเอาไว้
จิตที่คิดดีแล้วนั้นไซร
พบได้ไม่ยากไง...นิพาน.
ก็ยังคงมาบอกกับเพื่อนๆค่ะ......ว่า.....ธรรมคือสิ่งที่จะนำความสุขมาให้เสมอค่ะ.