26 เมษายน 2551 23:26 น.
เฮาชาวดอย
อุเปนเปษนาทฉันท์ ๑๖
นพมาศ
กระทงลงลอย ละค่อยค่อยก้าว
กระทงทรงพราว เพราะจันทร์ส่องแสง
วะแว่วหวิวหวิว ละลิ่วลมแรง
ก็ใจไม่แคลง มิเคลือบคำลวง
ประทีปเทียนทอง ละล่องเลยล่วง
จะกี่กี่ดวง ก็อย่าหลงทาง
กระดุมทองเอย มิเคยไกลห่าง
จะสิ้นฟ้าสาง ก็อย่าลืมคำ
ผะแผ่วคำเอ่ย บ่เลยถลำ
เพราะใจไม่จำ มิจดใจจริง
อย่าหลงคำพ้อ พะนอใจหยิง
พะเพราเพริศพริ้ง ก็เพชรคุณธรรม
ละเจ้าคือเพชร เมล็ดงามล้ำ
นราคลาคล่ำ ฤเทียบเปรียบตาม
แน่ะคุณความดี มณีภพสาม
คะคุณความงาม สงวนเนื้อนา
26 เมษายน 2551 17:33 น.
เฮาชาวดอย
โอมนมัสไท้ เทวัญ
แสงสูรย์สุริยจันทร์ เจิดจ้า
ธรณินเทพคนธรรพ์ ทุกเหล่า กอแฮ
นาคสุปันเทวราชข้า ขอน้อมคำถวาย
การเมืองหลายเห่าล้วน เสวยกินโกง กินเมือง
ชาติจักเจริญลงโลง ราษฏร์ม้วย
ผืนดินแผ่นจักตายโหง หากท-รราชครอง
เสริมส่งอบายมุขด้วย ดับดิ้นแดนไทย
คู่ตาใครเอ่อล้น ไหลริน
ชาวนาคือสันหลังแผ่นดิน แผ่นด้าว
ปุ๋ยแพงแทบกัดกิน เกลือขม ขื่นใจ
นายห้างสรวลสุขห้าว เสพกร้าวเลือดหอม
เขียนขอมคำสาปให้ เป็นจริง
มะจ่งเป็นไฟ กัลป์ยิ่ง จ่งไหม้
อะทำลายสูญสิ่ง ซึ่งเบญ จขันธ์แฮ
อุสืบกว่าสูญโลกไซร้ สุดสิ้นโคตรวงศ์
25 เมษายน 2551 07:57 น.
เฮาชาวดอย
ลารักรติกาล
สายลมพัดผ่านม่านฟ้า
ปานหยอกดาริกามาไหวๆ
เดือนดาวพราวแสงแห่งหทัย
หนาวเหน็บเจ็บในเนิ่นนาน
ลมพัดเป็นระลอกบอกให้รู้
ว่าเขามีคู่ใหม่รักสมัครสมาน
ใหลทวนหวนกลับแห่งสายธาร
พัดกลิ่นถิ่นวานสราญรมณ์
เอื้อมฟ้าสูงไกลใครถึง
ใจจึงต่ำศักดิ์ด้วยรักขม
แลดาวพราวพรายได้แต่ชม
ได้ฝากสายลมว่าชมดาว
คิดถึงนวลปรางค์นางนั่น
มองจันทร์แล้วให้ถอนใจผ่าว
ร้อยลำนำจำนรรจามาก็ยาว
อวยพรกล่าวว่าลารติกาล
24 เมษายน 2551 23:07 น.
เฮาชาวดอย
กาพย์โกสุม ๒๔
แววตาใส ใจผุดผ่อง
แววยวงทอง ปองฉาบสี
แววรวงรุ้ง รุ่งรพี
แววชีวี ที่อ่อนแรง
ด้วยจิตใจ ให้เป็นห่วง
ด้วยช่อพวง ดวงสีแสง
ด้วยหัวใจ ไม่คราแคลง
ด้วยแห่ง แกร่งปการ
24 เมษายน 2551 16:34 น.
เฮาชาวดอย
มือเรียวจงเรียวเป็นกระบี่
ละไมเนื้อนวล ก็หวลหอมยิ่ง
แหนะนุชเพริศพริ้ง เพราะยิ่งคุณธรรม
คนานงกานต์ ผสานสืบนำ
สตรีกรากกรำ สินำใครเห็น
จะอ้างเสรี สตรีใดเล่า
กระดาษแผ่นเปล่า พเนินเลือดเข่น
กระแสน้ำซ่า กระทบฝั่งเย็น
กระแสชนเด่น จะดันแผ่นดิน