25 พฤษภาคม 2552 17:39 น.
เอื้องคำ
เห็นรอยยิ้มฉันไหมเต็มใบหน้า
ฉันยิ้มร่ารอเธอแม้เจอฝน
ฟ้าสว่างเลือนลางหรือมืดมน
กี่แดดฝนฉันรอทนเพื่อพบเธอ
เธอเหนื่อยไหมนักเดินทางระหว่างฝัน
ขอให้ฉันได้ปลอบขวัญยามพลั้งเผลอ
ฉันยิ้มหวานบานรับให้กับเธอ
เพียงพบเจอเป็นขวัญกำลังใจ
เมล็ดฉันหวานนะเออถ้าเธอหิว
ฉันมิยอมโปรยปลิวไปแห่งไหน
ก็ฉันอยากมอบให้กับเธอไง
คว้าฝันใฝ่ให้ได้รับอยู่กับมือ
ฉันคงยิ้มสวยใสไม่นานนัก
แล้วเธอจักทิ้งห่างอย่างนั้นหรือ
เก็บเมล็ดฉันไปให้เต็มมือ
ฉันจะถือว่าฉันมีค่านัก
ฉันมิเคยเดินทางอย่างเธอหรอก
ลำต้นดอกถูกยึดไว้หยั่งรากปัก
ร่มก็ไม่สูงพอให้พิงพัก
เพื่อได้ยิ้มทายทักให้กับเธอ
เธอคงต้องเดินทางห่างไกลแล้ว
ฉันใจแป้วมิมีคำนำเสนอ
ฉันยังรอยิ้มรับให้กับเธอ
อยู่เสมอไม่ไกลเกิน...นักเดินทาง
21 พฤษภาคม 2552 14:20 น.
เอื้องคำ
แว่วเพลงหวานกังวานใสในสำเหนียก
ร่ำร้องเรียกเพรียกเพ้อละเมอหา
ส่งสำเนียงเสียงแผ่วพลิ้วลอยลิ่วมา
ดั่งมนต์ตราฟ้ารำพันกำนัลใจ
นัยเนื้อเพลงบรรเลงหวานปานน้ำผึ้ง
ฟังครั้งหนึ่งตรึงจิตแท้แม้หลับใหล
ทำนองเศร้าเคล้าประสานซ่านทรวงใน
จับจิตใจให้อิ่มเอมเปรมปรีดา
แม้นเหนื่อยมาคราฟังคล้ายได้หายเหนื่อย
บรรเทาเมื่อยเรื่อยเรื่อยฟังยังหรรษา
ถึงทุกเศร้าร้าวระทมตรมอุรา
เพลงแว่วมาพาจิตชื้นชื่นฉ่ำใจ
ดนตรีรับขับขานประสานเสียง
สอดสำเนียงเลี่ยงแล้วรับกระชับไหว
สูงต่ำล้อลูกคอเลื่อนเอื้อนความนัย
ยิ่งหวั่นไหวใจวาบหวามเมื่อยามยิน
ดังบทเพลงแห่งสวรรค์มาปั้นแต่ง
เกิดเป็นแหล่งทิพย์แท้กระแสสินธุ์
ประโลมใจไหลมาสายวารินทร์
จากแดนดินถิ่มฉิมพลีเมืองวิมาน
คีตะการสะท้านใจให้ไหวหวั่น
ด้วยเชิงชั้นรำพันพริ้งยิ่งหอมหวาน
เป็นโอสถรสประเสริฐเลิศมานาน
ตั้งแต่กาลผ่านแต่ไหนแต่ไรมา...
13 พฤษภาคม 2552 14:26 น.
เอื้องคำ
หางนกยูงสวยดีสีใสสด
แดงหมดจดเหลืองอร่ามงามสดใส
ใบเจ้าร่วงหล่นลงลานเพ่นพ่านไป
คงเหลือไว้เพียงดอกพุ่มดูนุ่มนวล
ยามมีฝนด้วยต้นใหญ่มิไหวหวั่น
ฟ้าป่วนปั่นพลันระทมด้วยลมหวน
ถึงกิ่งก้านโซเซมิเรรวน
เจ้าเย้ายวนทวนลมฟ้าเริงร่าใจ
ยามร้อนแล้งแห้งเหือดมิเดือดร้อน
มีร่มเงาพักผ่อนนอนหลับใหล
จึงเจิดแจ่มแช่มชื่นร่มรื่นใจ
เพราะใบเจ้าบังไว้ร่มใบบัง
คือดอกไม้ประจำใจในวัยเยาว์
คอยเด็ดเจ้ามาผลัดตีตั้งกี่ครั้ง
ตีดอกตูมตั้งหลายหนเจ้าทนจัง
หนำซ้ำยังมีชัยได้ตั้งหลายครา
เคยเก็บเจ้าสื่อแทนใจให้ยอดจิต
เธอยิ่งพิศยิ่งพร่ำเพ้อละเมอหา
ทั้งแดงเหลืองเรืองรองผ่องโสภา
เป็นดอกไม้มากคุณค่า...ยอดมาลี
5 พฤษภาคม 2552 09:16 น.
เอื้องคำ
นวลเอยอกพี่ช้ำ..............ลำเค็ญ
ฝืนข่มจิตยากเย็น....................ยิ่งกลั้น
สุมทุมพุ่มเรียมเห็น..................เป็นแม่ นางเดียว
คือหนึ่งในอกนั้น......................ห่อนให้ นางใด
นกเขาคูกู่ร้อง.................เสียงใส
เสียงหนึ่งเพรียกภายใน...........ซ่อนเร้น
เพรียกเสียงร่ำหาใคร...............หมองหม่น สกุณา
สายบ่ายมิวายเว้น.....................กรีดร้าว ใจเรียม
ฑิฆัมพรอ่อนล้า...............โรยแรง
ทอผ่านเมฆเหลืองแดง.............ป่นเศร้า
อาทิตย์ห่างจางแสง...................ยามรุ่ง คืนจร
นวลห่างเรียมเรียมร้าว.............บ่ย้อน คืนรัง
สงัดดึกยามหนึ่งนั้น..........เงียบงัน จริงเฮย
เรียมจึ่งวอนดวงจันทร์...............กล่อมให้
จันทร์ยังบ่กำนัล........................ลอยเด่น แลไกล
เพียงฝ่ามือลูบไล้.......................แผ่นน้ำ เงาจันทร์