9 สิงหาคม 2547 11:07 น.
เอกมาศ
ข้าพเจ้าติดอยู่ในรูปหลงแห่งการรอคอย ที่หวานชื่น หลายเดือนมาแล้ว เมื่อ ณ ปัจจุบัน ความรักที่เกิดขึ้นนั้นซึ่งไม่รู้ว่ามันมาแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกที่ก็เป็นเช่นนี้แล้ว มันไม่ได้จางไปเลยทั้งๆที่ใครคนนั้นได้จากข้าพเจ้าไปกว่าหลายเดือน ความรู้สึกอิ่มเอมนั้นยังคงอยู่ กลับคิดถึงความรู้สึกนั้นอย่างไม่เคยลืม ข้าพเจ้าไม่รู้ตัวว่า ข้าพเจ้าได้คิดถึงเขา อยู่ทุกๆเวลา ..มันเป็นเช่นนั้นจริง....เป็นได้อย่างไร
การที่ข้าพเจ้าติดอยู่ในจินตนาการแห่งการรัก แห่งการรอ ข้าพเจ้าได้แต่คิดถึงสิ่งเก่าๆทั้งที่มันไม่สามารถคืนมาได้ ฉะนั้นข้าพเจ้าคิดได้เพียงว่า การที่จะละทิ้งซึ่งการรอคอย การละทิ้งตัดใจจากเขาไปเสีย ยิ่งดีกว่าการที่เราเก็บภาพความทรงจำไว้เพื่อรอคอยเขาแล้ว เมื่อยามพบกัน สิ่งเหล่านั้นกลับไม่มีจริง เจ็บใจเสียกว่ามากมายนัก ขอคงไว้ซึ่งความจีรังของความนึกคิดแล้วไม่หวังจะรอเสียดีกว่า หากรักนั้นไม่อาจจะอยู่ร่วมได้ แม้นถ้าเราได้รักไปแล้วนั้น ก็จงรักต่อไป รักที่จะ เข้าใจกาลเวลา รักที่จะ มอบ รักที่จะอยู่บนโลกได้อย่างมีแรงใจจากความอุ่นของใครคนนั้นตลอดไป และจะเก็บเธอไว้ในใจข้าพเจ้าตลอดเวลา แม้ว่าเวลาข้างหน้าจะมีสิ่งเข้ามาว้าวุ่นใจก็ตามที
คงเป็นความรักกระมังที่เข้ามาดงลมวูบไป ความรักเกิดขึ้นทันใดที่ได้สบสายตาเสมอ ความสะดุดแก่กันได้ ดึงสู่การสนทนาสู่ความต้องการการเรียนรู้กันและกัน การที่ได้เรียนรู้ที่ขาดหายไปในชีวิตทำให้ บังเกิดความพอใจและ มิติแห่งความสัมพันธ์ที่น่าจดจำ เมื่อความเข้าใจเริ่มเข้ามา ความผูกพันธ์ ก็เริ่มขึ้น และดำเนินไปตามธรรมชาติของกันและกันจนถึง วาระหนึ่ง ช่วงเวลาหนึ่ง ความหวานแห่งรักได้จางลงไปพร้อมกับวัยที่ล่วงลา ความกระชุ่มกระชวยหายไป สิ่งที่เข้ามาทดแทน มาคอยสมานให้สองใจอยู่ร่วมชายคาบ้านได้คงมีแต่ความผูกพันธ์และความเข้าใจต่อกันและกัน อาจเป็นได้ที่รักเป็นเครื่องดึงสู่ความผูกพันธ์ทางใจ แห่งมนุษย์โดยสมบูรณ์
ขอให้เราอย่าพยายามแสดงออกถึงความรักที่มีอยู่โดยภาษากาย แต่จงรักษามันไว้ให้ดีที่สุด ให้มันวิ่งระอุวนอยู่ในหัวใจอยู่ในความรู้สึก ดีกว่าให้มันวิ่งวุ่นวายกับชีวิตของเราจนต้องทำให้รักนั้นมลายไป และความรักนั้นจะอยู่นานเป็นนิรันดร์ซึ่งอิ่มเอิบใจที่สุด เราสร้างรักอันเป็นตำนานได้ด้วยความธรรมดาของคนธรรมดาคนหนึ่งที่จริงใจและ อดทนต่อการแสดงออกต่างๆนาๆ เราสร้างได้ด้วยเราเองจริงๆ
15 กรกฎาคม 2547 21:51 น.
เอกมาศ
.....จินตนาการของความรัก..และความเป็นมนุษย์.......
การเก็บรักษาความรักไว้ในใจตลอดเวลานั้น....เป็นเรื่องที่ยากยิ่ง การมีชีวิตอยู่โดยมีใครบางคนอยู่ในใจตลอดเวลานั้น เป็นเรื่องที่น่าอุ่นใจนัก เป็นความรู้สึกที่นึกถึงอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ความรู้สึกแห่งการคิดถึงที่ฟูมฟาย ชีวิตเช่นนี้จิตใจของเราจะอุ่นและเต็มอยู่ตลอดเวลาสมาธิ นั้นก็ดีขึ้นมีจินตนาการในความรักนั้นตลอดเวลา แม้นว่าใครบางคนนั้น ไม่ได้อยู่ร่วมหรือว่ามีอยู่จริง.....
ยามรักสุขใจก็อิ่มอก และเมื่อ ถึงคราวรักนั้นไม่สมหวังนั้น ก็ มีความรันทด แต่ไม่ท้อแท้และฟูมฟาย ความรักนั้นเป็นสิ่งที่ดูจะไม่มีจริงที่มนุษย์พยายามไขว่คว้า ......อำนาจแห่งรักนั้นเป็นความสามารถพิเศษเท่าที่มนุษย์ พึงมีและเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจ
มนุษย์จะโอบอุ้ม จิตใจตัวเองได้นั้น ต้องมีความเผื่อแผ่แก่ ผู้อื่นอยู่เสมอโดยธรรมชาติ...และไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ความรู้สึกแห่งการให้มักจะอิ่มใจ อยู่เสมอ ต่างกับการได้รับซึ่งเป็นความรู้สึกยินดีต่อวัตถุและผสานไว้ซึ่งกิเลศแห่งความอยาก ความหลงในรูปลักษณ์