30 พฤษภาคม 2547 01:30 น.
เอกมาศ
รอยยิ้มจากคนไกล
ยิ้มหวานจากคนไกล
จะหวานหอมเท่าใดกับใครนั้น
หากคิดจะจดจะจำ
เท่าที่ฉันนั้นจินตนา
เพรียกสำเนียงแว่วแผ่ว
แว่วสำเนียงเรียกหา
กี่วันแล้วที่จากลา
ลมหวนมายังอาลัย
อีกคืนที่มืดดับ
เก็บความลับนั้นไฉน
เร่าร้อนเท่าร้อนใจ
เป็นความนัยจากใจจริง
รอยยิ้มที่สดชื่น
กับค่ำคืนที่พร่ำพริ้ม
เอนอกเข้าแอบอิง
เกินกว่าฉันจินตนาการ
ไกลขอบรอบฟ้านภากั้น เพียงหวาดหวั่นไหวสะท้าน
ไกลห่างไกลแสนสุดกันดาร จะพบพานอีกกี่เพลา
อีกหนึ่งคนห่างคนคิดถึง หวั่นหวาดพรั่นพรึงในอุษา
จะมั่นคงแน่จิตและวิญญา เท่าที่ฟ้ากำหนดมานั้นกระไร
30 พฤษภาคม 2547 00:09 น.
เอกมาศ
มหามกุฎไกลบ้านแห่งสยาม
มหามกุฎแห่งสยามไกลบ้าน
จรจากสยามมานานเนิ่น
ล่วงศตวรรษนิมิตหมายเอิกเกริก
บนผืนจันทร์เพลิดพิศนิภา
มหามงกุฎกษัตริย์
โทมมนัสเป็นนักหนา
เหนือเกล้าอยู่ไกลตา
ใต้พื้นพสุธาลำน้ำเซน
เจ้า....เอมไปร์ เดอ ฟร็องซ์
แลผองพวกที่ข่มเหง
ทั้งราชสีห์ เกรท บริเตน
โลกหล้าทาเสนดั่งหลั่งเลือดปฐพี
ชาโต เดอ ฟองเตนโบล
อัครราชทูตสมราศี
ราชทูตจากแดนไกลถิ่นที่
ถวายถ้อยสุนทรีแด่องค์
เอมปิโร นโปเลยอน
ที่ยอกย้อนจนสับสน
เคยรุกราน ไชนีสชน
แลสยามอีกองค์เป็นถัดไป
เบื้องผืนสุวรรณภูมิ
เชิดชูพุทธศาสตร์กว่าแดนไหน
อีกองค์สยามเทวาลัย
ป้องไท้ผองไผท สยามชน
โอ้...พระมหามกุฎ
เป็นที่หยุดคราเคราะห์หน
สยามประเทศรอดในบันดล
ด้วยบาทผลแห่งพระบารมี
พิพิธภัณฑ์ เดอ ฟองเตนโบล
มหามกุฎ โก้ สง่าราศี
มงกุฎสยามนอกผืนปฐพี
บนถิ่นนี้ที่ ฟองเตนโบล
.......ราชสำนักสยามแห่ง ลุ่มเจ้าพระยา...กับ กษัตริย์ นักปราชญ์ แห่ง ราชจักรีวงศ์.....สมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฏ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว....พระเจ้า กรุงสยาม........นบน้อมสักการะ ดวงพระวิญญา แด่ เบื้องพระบาท....
27 พฤษภาคม 2547 19:17 น.
เอกมาศ
กระบี่คือกระบี่พู่กันไซร้
ข้าเช่นใครไหนที่ไหลหลง
อักษรกระบี่คู่นี้เจตจำนงค์
ที่เร้นร่างกลางดงพ้นราคี
ที่รักข้าปักดอกเบญจมาศ
ปากแต้มชาดงามอาจรัศมี
ข่มจันทราคืนเดียวเหลียวบ่มี
เท่าคนรักข้านี้งามนิจนิรันดร์
กระบี่พร่องเงียบสงัด
กับดาบฝักที่คับขัน
หลุดมาบิ่นนิลกรรณ
มาฟาดฟันจนวอดวาย
หิมะเอยเคยฟังไหม
เสียงหัวใจเมื่อยามสาย
หัวใจสลายข้าใกล้ตาย
โอ้..ชีวายข้ารักเจ้าหิมะเอย