14 พฤศจิกายน 2545 00:29 น.
เสี้ยว
ทักๆๆๆๆทายๆๆๆๆๆ
เป็นอย่างไรกันบ้าง
ใครสังเกตบ้างว่า
เสี้ยวหาย...........ไป
จริงๆแล้วไม่หายนะ แต่ไม่มีอะไรจะโพสต์
วันนี้มาหาเรื่องคุยด้วย
แค่นั้นเองแหละ
นึกถึงเสี้ยวบ้างละกันนะ ทุกๆคน
3 สิงหาคม 2545 22:26 น.
เสี้ยว
วันก่อน เสี้ยวได้หนังสือมาเล่มหนึ่ง ชื่อ ที่สุดของหัวใจ เป็นหนังสือที่คนไทยควรจะมีไว้อย่างยิ่งเลยล่ะ จริงๆนะ เป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวของในหลวงกับประชาชนที่น่ารักมากๆเลยล่ะ
ตัวอย่างนะ ชื่อเรื่อง พับเพียบ
(รองศาสตราจารย์ ดร.สุธี อักษรกิตติ์
ผู้สนองพระราชดำริในโครงการระบบสื่อสารสายอากาศและอิเล็กทรอนิกส์)
ในครั้งแรกผมทำงานตามพระราชดำริ โดยไม่ทราบว่าป็นงานของพระองค์
จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนบอกว่า ให้เข้าไปในวังด้วยกัน
และให้นำระบบสายอากาศชนิดใหม่ขึ้นไปติดตั้ง ก็ไม่ได้คิดว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯมา แต่ว่าแปลกใน ทำไมอยู่ดีๆ เจ้าหน้าที่ที่กำลังติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆอยู่บนดาดฟ้าของพระตำหนักถึงปีนลงมาทั้งๆที่งานยังไม่เสร็จ แท้ที่จริงพระองค์ท่านเสด็จฯมายืนอยู่ข้างหลัง
ผมเหลียวหลังไปมองนิดหนึ่ง เห็นพระองค์ท่านก็ตกใจ เป็นอาการวูบๆขึ้นมาทันที นึกอยู่ในใจว่าใช่แล้ว ใช่แน่ๆเพราะคิดว่าเหมือนในรูป ผมก็รึบทำความเคารพแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่ผมจำได้คือ เราต้องอยู่ต่ำกว่า จึงรีบคุกเข่าให้ต่ำลงมาเป็นเหมือนชันเข่า เพราะว่าตอนนั้นพระองค์ท่านประทับยืนอยู่ ถ้านั่งพับเพียบก็อาจจะต่ำเกินไป เพราะว่าผมต้องพูดอธิบายด้วย ปรากฎว่าพระองค์ท่านก็คุกเข่าลงไปด้วย ผมก็เลยนั่งพับเพียบให้ต่ำลงไปอีก พระองค์ท่านก็ประทับพับเพียบเหมือนกัน
เลยกลายเป็นว่าวันนั้นนั่งพับเพียบสนทนากัน 2-3 ช.ม. บนดาดฟ้าพระตำหนักในเวลาช่วงบ่ายที่แดดร้อนเปรี้ยง............ง
ลองอ่านดูอีกเรื่องนะ เรื่อง เกาะช้าง
(เฉลิมศักดิ์ รามโกมุท
อดีตตำรวจหลวง)
ครั้งนั้นทรงเสด็จประพาสทางทะเล แม่ทัพเรือในตอนนั้นมียศเป็นจอมพล เป็นญาติกันกับข้าพเจ้า ได้ถวายรายงานตลอดเวลาที่เรือพระที่นั่งแล่นผ่านไปในทะเล แม่ทัพเรือผู้นี้มีบรรดาศักดิ์เป็นคุณหลวงเสียด้วย
ตอนนั้นเรือพระที่นั่งผ่านเกาะใหญ่ในทะเล ทรงมีพระราชดำรัสถามคุณหลวงแม่ทัพเรือว่า เกาะอะไรชื่อเกาะนี้ ชาวบ้านเขาเรียกกันอย่างไร
ท่านอดีตแม่ทัพเรือได้กราบบังคมทูลถวายรายงานเรื่องชื่อเกาะนี้อย่างแคล่วงคล่อง แต่หาได้ระมัดระวังไม่ ท่านกราบทูลว่าอย่างนี้ครับ
ขอเดชะ เกาะนี้ชาวบ้านเรียกพระนามว่าเกาะช้างพระเจ้าข้า
ทรงรับฟังคำกราบทูลของท่านแม่ทัพเรือ แล้วก็ทรงแย้มพระสรวล ทรงหันกลับมามีพระราชดำรัสกับท่านแม่ทัพเรือว่า
งั้นเกาะนี้ก็เป็นญาติกับฉันน่ะซี...........
นี่เป็นสองเรื่องจาก 40 เรื่องราวที่บันทึกอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ลองหามาอ่านกันดูสิคะ
(รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา)
22 กรกฎาคม 2545 22:34 น.
เสี้ยว
ช่วยอ่านไอ้นี่หน่อยนะคะ เรื่องมันมีอยู่ว่า
**************************************************************************
ถ้าคุณถามเพื่อนบ้านของผมว่า
เขาทำมาหากินอะไร เขาจะต้องตอบว่า
เขาเป็นนักพนันมืออาชีพ มีเบื้องหลังพัวพันในองค์กรอาชญากรรมต่างๆ
แต่ความจริง
เขาเป็นตัวแทนขายประกันที่ไม่ค่อยศรัทธาในธุรกิจของตน
ตามแบบฉบับของคนฉลาด ความรู้สึกนี้ ครอบคลุมไปถึงปรัชญาชีวิตของเขา
ที่ว่า เราทุกคนเป็นนักพนันเขาประกาศ
ชีวิตก็เหมือนกับการทอดลูกเต๋า ไพ่โปกเกอร์ หรือม้าแข่ง
เขาสาธยายและทิ้งท้ายว่า
แต่ผมชอบชีวิตแบบนี้
เขาเชื่อเรื่องการไม่เสี่ยงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
ในสถานการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายคู่คี่กัน
เขาจะพนันไว้ทั้ง 2 ฝ่าย
บนผนังห้องทำงานของเขามีปรัชญาชีวิตเขียนไว้ดังนี้
- จงเชื่อถือวางใจในมิตนสหาย แต่เป็นผู้ตัดไพ่เองเสมอ
- จงวางใจในพระเจ้า และพึงสร้างบ้านบนที่สูง
- จงรักเพื่อนบ้าน และเลือกอยู่ในทำเลที่มีเพื่อนบ้านดีๆ
- คนวิ่งเร็วไม่ชนะเสมอไป ผ่านที่มีกำลังอาจจะไม่ชนะสงครามทุกครั้ง
แต่ในการพนันเราต้องถือฝ่ายข้างที่ได้เปรียบ
- เมื่อเขาตบแก้มซ้าย จงหันแก้มขวาให้เขาตบ
แต่ก็ต้องยึดหลักสายกลางไม่ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นตลอดไป
- จงระลึกไว้เสมอว่า ช้าๆได้พร้า 2 เล่มงาม
แต่ถ้าใครงุ่มง่ามก็ชวด
- แพ้ชนะไม่สำคัญ สำคัญที่เล่นอย่างไร และคติในการเล่น คือเล่นให้ชนะ
**************************************************************************
ปัญหาที่เสี้ยวแก้ไม่ตกคือ ไอ้เรื่องข้างบนเนี้ย
สำหรับเสี้ยวนะ เสี้ยวว่ามันเข้าใจยาก
มีคนเสนอให้เสี้ยวเอาเรื่องนี้ลงหนังสือเล่มหนึ่งที่เสี้ยวรับผิดชอบอยู่ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือครบรอบ 10 ปีของชมรมแห่งหนึ่งในโรงเรียน เพราะฉะนั้น คนที่อ่านก็คือ เด็กประมาณ ป.4 ไปจนถึง รุ่นพี่ๆอายุประมาณ 30 ซึ่งเสี้ยวคิดว่า ผู้อ่านส่วนใหญ่ตีความเรื่องนี้ไม่ออกแน่
ตัวเสี้ยวเองอ่านไม่รู้เรื่อง ต้องเอาไปให้อาจารย์ท่านหนึ่งอธิบายให้ฟังจนเข้าใจ และอาจารย์ก็บอกว่า เรื่องนี้ก็ดีนะ เอาลงหนังสือก็ได้ แต่ต้องเอาไปเกลาเล็กน้อย หรือสรุปอะไรตอนท้ายเล็กน้อย ให้ผู้อ่านเข้าใจ ความหมายที่แฝงอยู่ ตรงนี้แหละคือปัญหา ....เสี้ยวไม่รู้จะทำยังไงให้คนอ่านเข้าใจ ก็เลยอยากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ thaipoem ช่วยแนะนำหน่อยน่ะค่ะ
6 พฤษภาคม 2545 11:43 น.
เสี้ยว
ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต
(chinese tantra totem for good luck)
1.จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน
2.จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน
3.จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มี และนอนเท่าที่อยากจะนอน
4.เมื่อกล่าวคำว่า ฉันรักเธอ จงหมายความตามนั้นจริง ๆ
5.เมื่อกล่าวคำว่า ขอโทษ จงสบตาเขาด้วย
6.ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน จงหมั้นเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
7.จงเชื่อในรักแรกพบ
8.อย่าหัวเราะเยาะความฝันของผู้อื่น คนที่ไม่มีฝันก็เหมือนไม่มีอะไร
9.เมื่อรักจงรักให้ลึกซึ้ง และ ร้อนแรง อาจจะต้องเจ็บปวดแต่นั่นคือหนทางเดียวที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็ม
10.ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน
11.อย่าตัดสินคนเพียงเพราะญาติๆ ของเขา
12.จงพูดให้ช้า แต่ต้องคิดให้เร็ว
13.ถ้าถูกถามด้วยคำถามที่ไม่อยากตอบ จงยิ้มแล้วถามกลับว่า จะรู้ไปทำไม
14.จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จ ล้วนต้องมีการเสี่ยง
15.พูดว่า ขอพระคุ้มครอง เมื่อได้ยินใครจาม
16.เมื่อพ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย
17.จงจำ 3 R :- นับถือผู้อื่น นับถือตนเอง รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ
18.จงอย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่
19.ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ลงมือแก้ไขทันที
20.จงยิ้มเวลารับโทรศัพท์ ผู้ฟังจะเห็นได้จากน้ำเสียงของเรา
21.จงหาโอกาสอยู่กับตัวเองบ้าง
19 เมษายน 2545 00:57 น.
เสี้ยว
แหม สมาชิกที่นี่มีเยอะมากเลย แต่ที่เห็นๆกันก็มีอยู่ไม่เท่าไหร่ บางคนไม่เคยเขียนกลอนก็เลยไม่รู้จักกัน บางคนเคยมาบ่อยๆก็หายๆไป ชักคิดถึงแล้วสิ ชักอยากเจอสมาชิกที่นี่ทุกๆคนแล้วล่ะสิ ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ เข้ามาทักทายกันหน่อยได้ไหมคะ