26 พฤศจิกายน 2552 11:08 น.

ข้าฝันว่าได้เป็นสุนทรภู่...

เสียงหัวเราะ

กาพย์กวี...ศรีสุนทรเมืองสยาม
เลื่องลือนาม...นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่
น้อมหยิบเรื่อง...อันเนืองนิจกวีไทย
มายกย่อง...เชิดชูไว้ในบทกลอน

อยู่วังวน...นิทราภาษาศิลป์
ได้ยลยิน...เขาเรียกสุนทรโวหาร
ข้าตกใจ...ไฉนกล่าวให้ร้าวราน
ข้ามิใช่...สุนทรโวหารที่ขานกัน

ท่านสุนทรภู่...กวีเอกที่รู้จัก
คือผู้รัก...ศาสตร์ศิลป์ด้านภาษา
พระอภัยมณี...ที่แต่งมา
ล้ำเลิศค่า...หาใดเปรียบกวีไทย

จิตฟุ้งซ่าน...ด้วยละอองของความฝัน
สุนทรภู่...เขาเรียกกันทำหวั่นไหว
ทักอีกแล้ว...ข้ามิใช่กวีไทย
มาบัดนี้...กล่าวด้วยใจโปรดรับฟัง

ศรีสุนทร...กาพย์กลอนแสนเสนาะ
ฟังไพเราะ...กวีศิลป์ซึ้งความหลัง
สุนทรภู่...คือต้นแบบแห่งพลัง
เป็นไอดอล...ความหวังของนักกลอน				
20 พฤศจิกายน 2552 21:02 น.

ปัญหาเท้าซ้าย@เท้าขวา....

เสียงหัวเราะ

บนถนน...ทางเดินต้องก้าวย่าง
สองเท้าต่างมุ่งเดินให้ถึงที่
เจ้าข้างขวาบอกว่าข้าเข้าที
จะวิ่งปรี่ก่อนใครให้ใคร่มอง

เจ้าข้างซ้าย...หมายแกล้งให้แข่งขัน
"เฮ๊ย!..มาแข่งกัน"มันจองหอง
เจ้าข้างขวายินดีจะทดลอง
แล้วทั้งสองจ้ำอ้าวก้าวต่อไป

เดินลัดเลาะ...ไหล่ถนนบนฟุตบาต
เจ้าข้างซ้ายเห็นโอกาสที่อยู่ใกล้
จึงสะดุดหยุดเดินให้เพลินใจ
เจ้าข้างขวาล้มไถลไปตามทาง

"โอ๊ย!..นี่..ข้าเจ็บ.."นะเจ้าขวา
เจ้าข้างซ้ายบ่นมาสุดโผงผาง
เจ้าข้างขวาหัวเราะเยาะเย้ยพลาง
ก็..เราต่างล้มขมำน่าขำจริง

เราคือเท้า...สองคู่อยู่เคียงข้าง
เกิดบาดหมางทางใดให้เขี่ยทิ้ง
เช่นสังคมเมืองไทยต้องแอบอิง
สามัคคีมีอยู่จริง..สาธุเทอญ....				
18 พฤศจิกายน 2552 19:37 น.

เพราะช้ำจำต้องลืม

เสียงหัวเราะ

ค่ำคืนนี้...เรียงร้อยเพียงคำหวาน
กับตำนาน..."รักแท้ไม่แปรผัน"
มาบัดนี้...เหลือเพียงคืนและวัน
ที่เงียบงัน...ไร้แสงแห่งเงาเธอ

ทราบหรือไม่...ว่าขาดกันไม่ได้
รู้หรือเปล่า...ว่าใจใฝ่เสมอ
ยินเสียงครวญ...ป่วนใจให้ละเมอ
อยากจะเพ้อ...ให้ได้ยินว่ารักกัน

แม้อดีต...กล้ำกลืนก็ฝืนยิ้ม
จะลองลิ้ม...ความเจ็บปวดที่ตัวฉัน
หยดน้ำตา...ไม่อาจล้างความจาบัลย์
เธอลืมฝัน...ครั้งก่อนตอนบอกลา

มาครั้งนี้...ซองจดหมายสอดหน้าบ้าน
ฉันเปิดอ่าน...ข้อความให้ห่วงหา
หวังจะเป็น...คนดีที่เมตตา
หวนกลับมา...สักครั้งยังที่เดิม

หนึ่งข้อความ...ถามไถ่ไล่อักษร
เป็นห่วงน้อง...ขวัญอ่อนจะฮึกเหิม
"อย่าทำร้ายตัวเอง"...นี่เพิ่มเติม
พี่จะเสริม...กำลังใจอยู่ห่างกาย

หากไม่รัก...ชักใยให้ใจวุ่น
มาแอบอุ่น...ให้รักไม่หนีหาย
มีแต่เสียง...กระซิบแผ่วแล้วเดียวดาย
อย่าทำร้าย...ใจกันให้หวั่นตรม

สักกี่ร้อย...คำเล่าที่กล่าวอ้าง
เขียนถึงเธอ...ว่าอ้างว้างไม่สุขสม
ตั้งแต่จาก...กันไกลใจระทม
ฉันจึงจม...กับอดีตที่ปิดทาง

สิ่งสุดท้าย...จึงอยากให้รับรู้
เธอจะอยู่...ที่ไหนไม่ขัดขวาง
จะรักเธอ...อย่างนี้ไม่จืดจาง
รอฟ้าสาง...ให้ใจตื่นจึงลืมเธอ



แด่....หัวใจที่เหลืออยู่				
17 พฤศจิกายน 2552 21:20 น.

สาวฉันทนา

เสียงหัวเราะ

ฉันทนาว่าอย่างไรใครรู้บ้าง
จะกล่าวอ้างเอ่ยใจให้ใคร่ถาม
ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายอาบแก้มงาม
สวยอร่ามตามติดพินิจกัน


ฉันทนาคนขยันหมั่นเรียนรู้
พร้อมจะสู้เพื่อชัยที่หมายมั่น
พ่อก็เชียร์แม่ก็ลุ้นทุกคืนวัน
ถึงวันจันทร์"เข้ากะพนักงาน"

ฉันทนาเฮฮาไม่เงียบเหงา
ตกวันเสาร์วันอาทิตย์ต้องมีถอน
จะอย่างไรก็งามล้ำทุกขั้นตอน
โอ้งามงอนเพื่อนมากจึงอยากชม

ฉันทนาพาทีมีความสุข
เหมือนไร้ทุกข์ในใจให้สุขสม
ไม่มีใครมองผ่านความทุกข์ตรม
ว่าขื่นขมลำบากกันเพียงไร

ฉันทนาตื่นเช้าเข้านอนดึก
พึงระลึกความสำคัญที่มอบให้
หากไม่มีฉันทนาน่าเห็นใจ
อุตสาหกรรมของไทยไม่เจริญ

แด่..สาวๆฉันทนาทุกคน				
Lovers  0 คน เลิฟเสียงหัวเราะ
Lovings  เสียงหัวเราะ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสียงหัวเราะ
Lovings  เสียงหัวเราะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเสียงหัวเราะ
Lovings  เสียงหัวเราะ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเสียงหัวเราะ