ทุ่งดอกจานหน้าแล้งเริ่มแห้งเหี่ยวกอหญ้าเขียวอ่อนละมุนพริ้วไสวยามเมื่อฝนหลงฤดูจะหายไปต้นเหมันต์กาลใหม่จะเข้ามาครั้นชีวิตนกน้อยยังคอยคู่จักยังอยู่เคียงฝันให้โหยหาแอบจุ่มพิตผ่านสายลมสนธยาฝากเมฆฝนเอ่ยสั่งลากันและกันส่งรอยยิ้มทักถามหมู่แมกไม้ก่อนแห้งโรยพลัดใบในไพรสัณฑ์อุ้มแผ่นดินเป็นผืนเดียวชั่วนิรันด์หน้าหนาวนั้นแตกระแหงทุกแห่งไปเหล่ามัจฉาหลบหายในทุ่งข้าวส่งแรงใจกับดวงดาวคราวหวั่นไหวฝากไปถึงหมู่เมฆน้อยล่องลอยไปก่อเกิดฝนครั้งใหม่ให้ฉ่ำเย็นหากสายลมพัดธุลีให้หม่นฟ้าแต้มนภาวาดฝันให้จันทร์เห็นหากหนาวนี้พาหัวใจให้ลำเค็ญเพราะเดือนเพ็ญหลงค้างแรมเริงระบำหากคืนวันผันเปลี่ยนและเวียนกลับอยากจะนับสายฝนให้อิ่มหนำเก็บละอองใส่ขวดแก้วความทรงจำมาเติมเต็มความดื่มด่ำ..วันฝนลา
ขออภัยหากเอ่ย..ละลาบละล้วงเพราะอยากทวงความรัก..ระหกระเหินกลับมาเป็นคู่ใจ..สะท้านสะเทินให้บังเอิญความสดใส..ประดับประดาหากเมื่อครั้งรักเรา..มะรุมมะตุ้มเป็นบางมุมของชีวิต..ประสีประสาโลกทั้งใบสีชมพู..ประไพประภาเนิ่นนานมากลับร้องเรียก..ตะเกียกตะกายโอ้นวลน้องทิ้งให้..สะอึกสะอื้นเฝ้าตามติดดึกดื่น..กระหวนกระหายอยู่อ้างว้างห่างผู้คน..กระจัดกระจายไร้ตัวเจ้าข้างกาย..ประจบประแจงต้องทนทุกข์เพราะใจ..ทะเล่อทะล่าพลั้งวาจาให้ช้ำ..ระหองระแหงกลับมาเถิดอย่าทำ..ระหวาดระแวงหัวใจพี่มิเปลี่ยนแปลง..ทะเยอทะยานแม้นห่างไกลลาลับ..กระสับกระส่ายจักฟูมฟายหารัก..ประสมประสานมองหมู่ดาวฝากสายลม..ตะลีตะลานอยากพบพานเจ้าแย้ม..พะเน้าพะนอหรือหากแม้นทวงถาม..กระอึกกระอักโปรดเถิดน้องจงรับรัก..กระหนุงกระหนิงหากว่าเจ้ายินเสียง..สะดุ้งสะดิ้งจงอย่าทิ้งให้จมปรัก..ทะลักทะลวง...
สักครั้ง...หากยังมีแสงตะวันสาดส่องสักครั้ง...ยังเรืองรองต้องความฝันสักครั้ง...จักพาหัวใจถึงทางตัน...สักครั้ง...โหยหาแบ่งปันกลับจากจรสักครั้ง...อยากหนีหายหลบหน้าสักครั้ง...พักสายตาอุ่นใต้หมอนสักครั้ง...หยดน้ำตาหลั่งรินให้อาวรณ์ขอสักครั้ง...เอนนอนผ่อนกายา..กี่ครั้ง...ทนปวดร้าวหนาวทรวงจิตกี่ครั้ง...ที่ความมืดมิดปิดทั่วหล้ากี่ครั้ง...คนเคยใกล้ใยจากลากี่ครั้ง...คนหยามเหยียดหน้า..ชิงชังกี่ครั้ง...สุดเจ็บช้ำยากจะเอ่ยกี่ครั้ง...แอบนิ่งเฉยไร้ความหวังกี่ครั้ง...เสียงลมหายใจกระซิบฟัง..อีกกี่ครั้ง...ปลดโซ่ขัง..ตัวตนนับครั้ง...ความเลวแผดเผาร่างนับครั้ง...จักแตกต่างสักกี่หนนับครั้ง...ว่าร้ายแช่งผู้คนนับครั้ง...ชีวิตหมองหม่นมัวใจนับครั้ง...ที่เสแสร้งแกล้งบ้านับครั้ง...ก่อวาจาให้หวั่นไหวนับครั้ง...วางหน้ากากใกล้เปลวไฟเกือบนับครั้ง...ได้สวมใส่อวดหมู่มารสักครั้ง...น้อมดวงใจขออธิษฐานสักครั้ง...ให้ผลบันดาลสู่ความฝันสักครั้ง...พานพบเจ้า..สบตาในคืนจันทร์อีกกี่ครั้ง...สักกี่วัน....จักได้เจอ...เสียงหัวเราะ (ของความเงียบ)
ต่างคนคนแตกต่างทางระเบียบ ต่างคนต่างเปรียบเทียบเมินเฉย ต่างคนต่างชั่วดีเปรียบเปรย ต่างคนต่างเย้ยหยันตน ต่างคนต่างร้อยพ่อพันธุ์แม่ ต่างคนต่างไม่แคร์ความสับสน ต่างคนต่างขวนขวายดิ้นรน ต่างคนต่างหมองหม่นต่างกัน ต่างคนต่างช่องว่างต่างระดับ ต่างคนต่างคำนับสังสรรค์ ต่างคนต่างยศถาสารพัน ต่างคนต่างประชันหน้าตา ต่างคนต่างนิสัยแตกต่าง ต่างคนต่างบาดหมางเกลียดหน้า ต่างคนต่างหัวใจไร้ราคา ต่างคนต่างอำลาจากไป ............................. หลายปีต่อมา ต่างคนคนแตกต่างทางมนุษย์ ต่างสิ้นสุดความฝันปราถนา ต่างผิดแผกแตกแยกต่างเวลา ต่างค้างคาต่างใจต่างผูกพันธ์ ต่างดิ้นรนต่างจุดหมายและปลายฝัน ต่างคืนวันต่างสายใยในโลกกว้าง ต่างถิ่นฐานต่างสำเนียงต่างทิศทาง ต่างเลือนลางต่างหลงลืมต่างตัวตน ต่างความรักต่างชอบพอต่างรู้สึก ต่างส่วนลึกต่างห้วงใจต่างสับสน ต่างชังเกลียดต่างยินดีต่างทุกข์ทน ต่างวกวนต่างชีวิตต่างผิดใจ หรือหากแม้แตกต่างทางมนุษย์ ต่างสิ้นสุดต่างเผชิญก้าวเดินใหม่ ต่างวาจาต่างกายต่างจิตใจ ต่างเพียงไหน..แค่เข้าใจแตกต่างกัน
อาจทำตัวเซ่อซ่าไม่น่ารัก ดูอกหักเศร้าใจมาหลายหน ช่างทำตัวมีปัญหาไม่อดทน แต่เป็นคนจริงใจห่วงใยเธอ แม้ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้จาก แต่ขอฝากบทกลอนไว้ก่อนสาย หากเคยพลั้งพลาดไปไม่ทักทาย สุดเสียดายหากไปไม่อำลา อยากจะเห็นรอยยิ้มที่ข้างแก้ม โลกคงแจ่มสดใสเพราะใบหน้า โปรดเถิดมองมิตรภาพที่แววตา หากแต่ฟ้าจะนำพาเราเจอกัน อยากจะเดินเคียวข้างยามเธอเหงา อยากเป็นเงาตามติดความสุขสันต์ คอยกางร่มห่มผ้าคืนชมจันทร์ เมื่อไกลกันยามใดใจพวง อาจจะเคยรบกวนทบทวนคิด คงสะกิดความใดให้ใจหลง เคยส่งกลอนบ้าบอก็ลดลง อาจเพราะคงหมดหวังพลังใจ หากว่าไม่รังเกียจคนต้อยต่ำ วันอาทิตย์ขอย้ำวันสดใส ร่วมยินดีกับบัณฑิตคนเมืองไกล ที่อาคารหลังใหม่..สวนอัมพร กว่าจะเป็นปัญญาชนคนหมู่มาก สู้กับความลำบากครั้งเก่าก่อน มันไม่ง่ายชีวิตเป็นเช่นละคร หากขาดตอนเมื่อไหร่หยุดก้าวเดิน จะขอเป็นกำลังใจไม่เหินห่าง ขอสะสางเรื่องคาใจให้สรรเสริญ ขอให้มิตรสหายร่วมเผชิญ พร้อมก้าวเดินต่อไปชัยยังมี ฝากบทกลอนอ่อนหัดเพิ่งคัดเสร็จ จะจริงเท็จแค่ไหนในวิถี คงเพราะผ่านการขัดเกลามาหลายปี ขออภัยเธอคนดีที่รบกวน ข้าพเจ้า ขอเเสดงความยินดีกับเพื่อนบัณฑิตที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๓ วันอาทิตย์ ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๔ จาก หนึ่งในบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการโฆษณาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี