3 กุมภาพันธ์ 2549 21:43 น.
เล็บมังกร
ซบอุ่นไอที่แนบหมอนนอนนึกหน้า
สุดแสนไกลใจเหว่ว้าพาไหววุ่น
ข้ายังรักยังห่วงใยใฝ่ละมุน
เคยนอนหนุนยังกรุ่นหอมพยอมเย็น
นอนเปลี่ยวไหวให้ใจหวนนวลเนื้อนาง
เคยเคียงคู่อยู่ข้างขั้นสวรรค์เห็น
นอนแนบเนื้อไม่เหน็บหนาวคราวจันทร์เพ็ญ
ใจยังเต้นอยู่ทุกคราข้ายังจำ
พรรณนาวาจาหวานซ่านในทรวง
คอยตักตวงช่วงดีดีที่พรูพร่ำ
ระเริงร่ายก่ายกอดออดอ้อนคำ
ละล่ำละลัก-ถักทอรักไม่พักเลย
มีพบพานใยต้องพรากจากลาล่วง
ชอกช้ำทรวงเมื่อจากไกลไม่เอื้อนเอ่ย
น้องเก็บงำจนเวลาใกล้ล่วงเลย
ถึงเปิดเผยมีกิจให้ต้องไกลกาย
แม้ว่าเจ้าจักจรจากสุดฟากฟ้า
ข้ากู่ก้องทั่วนภาถึงโฉมฉาย
ผ่านจันทร์หม่นคนทนเหงามิวางวาย
ผ่านดาวราย..ข้ารออยู่เธอผู้เดียว
3 กุมภาพันธ์ 2549 08:46 น.
เล็บมังกร
กวีคือสิ่งที่ฝันทีฉันใฝ่
จักก้าวไปไม่เคยหวั่นในเบื้องหน้า
จักยึดถือกลอนกวีแห่งครูบา
จักศึกษาคำกวีทุกคืนวัน
ชีวิตนี้มีกวีเป็นที่พึ่ง
ที่ลึกซึ้งตรึงใจเฝ้าใฝ่ฝัน
ที่ก้าวเดินมุ่งหน้าจักฝ่าฟัน
คงสักวันถึงจุดหมายที่ปลายทาง
เขียนกาพย์กลอนเหมือนเติมไฟให้ชีวิต
กลอนลิชิตชีวิตไปไม่ลาร้าง
บทกวีเป็นที่หมายไม่จืดจาง
จะสรรค์สร้างทางกวีที่ก้าวไกล
3 กุมภาพันธ์ 2549 08:37 น.
เล็บมังกร
กาลเวลาทำให้เราเข้าใจรัก
ได้รู้จักผ่อนตึงไม่หุนหัน
ได้รู้จักตัวตนกันและกัน
ก่อนถึงวันอันสุขีที่เย้ายวน
กาลเวลาทำให้รักมีสติ
ได้พินิจตริตรองอย่างถี่ถ้วน
รู้สิ่งใดเหมาะสมควรไม่ควร
ทุกสิ่งล้วนมีค่าถ้าเฝ้ารอ
กาลเวลาทำให้รักไม่คิดสั้น
หากรักกันคิดให้นานเพื่อสานต่อ
อย่ารุ่มร้อนใส่กันนั้นเป็นพอ
รู้ถักทอต่อรักปักดวงใจ
กาลเวลาทำให้เราถึงฝั่งฝัน
เมื่อถึงวันวิวาห์พาสดใส
เพื่อครองคู่ยืดยาวพราววิไล
เพื่อสองใจสนิทแนบเฝ้าแอบอิง