27 มีนาคม 2548 14:25 น.
เลาไผ่
หลังจากที่เธอได้ยินว่านายพงหญ้าได้เป็นนายแบบ mc ซึ่งมาจากโครงการที่เธอเป็นคนเสนอว่าน่าจะมีตัวพรีเซนเตอร์เพื่อช่วยใน
การโฆษณาให้สินค้าของเรา(เสื้อผ้า กับ เครื่องประดับ)เป็นที่รู้จักในตลาดอย่างกว้างขวาง
เฮ้อ...คุณพ่อคิดได้ยังไงก็ไม่รู้ที่ให้นายนี่เป็นพรีเซนเตอร์ด้วยเหตุผลว่า นายนี่เป็นของร้อน(hot)ในบริษัท ไหนดูซิว่ามันจะขนาดไหนกัน
เธอเลยเดินลงมาพร้อมกับนายพงษ์ แค่ก้าวออกจากลิฟท์ได้ไม่กี่วิ เธฮก็ถูกดันออกมานอกวง
อะไรมันจะฮ้อตขนาดนี้น่ะนายนี้ ก็แค่รูปร่างสูงนิดหน่อย(นิดหน่อยของคุณเธอน่ะ 189 เชียวนะ/blue_bell) แถมมีไขมันก้อนเล็กๆทั่วร่างเป็น
มัดๆ(นี่เป้เค้าเรียกว่ากล้ามเนื้อคับ ไม่ใช่ไขมัน / พงษ์)โอ๊ย...น่าหมั่นไส้
คนเงียบได้แล้วค่ะ ไม่มีงานทำกันหรอไงค่ะถึงได้มายืนคุยกันอยู่เนี้ย ถ้ามีก็กรุณากลับไปที่โต๊ะของท่านแล้วทำงานต่อไปด้วยค่ะ แล้วผลที่
ได้ก็คือสายตาที่ท่าเข้ามากัดชั้นได้ก็คงจะกัดไปแล้ว
เฮ้ย !เธอพูดไรออกไปเนี้ย เธอจะไปยุ่งกะนายเนี้ยทำไมละ
เออ.....คือว่า...ขอบใจนะ เพราะนายนี้แท้ๆเลยชั้นเลยโดนเขม่นเอาเนี้ยยังมาขอบใจอีก
เอาค้อนแถมไปด้วยละกัน แล้วเธอก็เดินหนีขึ้นไปห้องทำงาน ต้องมาเจอพี่โดนัท(เลขา)ที่นั่งอยู่หน้าห้องอีก
คุณเปวรินทร์โกรธใครมาค่ะ คงไม่ใช่คุณพงษ์นะค่ะ โอ๊ย ชื่อนายนี่อีกแล้ว >_
26 มีนาคม 2548 19:56 น.
เลาไผ่
พอผมกะเป้เดินผ่านรปภ.หน้าบริษัท เลขาของเป้ก็เดินตรงเข้ามาบอกว่า คุณพ่อของคุณเปวรินทร์ (ยัยเป้น่ะแหละ) เรียกค่ะ
ผมก็เลยจะเดินไปที่โต๊ะทำงานแต่แล้วก็ถูกดึงไว้ด้วยเสียงหวานๆพร้อมสายตาเอียงอายของคนๆเดิมว่า คุณพงษ์ด้วยค่ะ...
พวกเราก็เลยเดินขึ้นลิฟท์ไปชั้น 11 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดและเป็นที่ทำงานของท่านประธานบริษัทและลูกสาวของท่าน(ก้อยัยเป้อีก
แหละ) พวกเราเดินไปที่หน้าห้องทำงานของท่าน และบอกให้เลขารายงานท่านประธานว่าพวกเขามาถึงแล้วก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องท่าน
สวัสดีค่ะ(ครับ) ท่านประธาน
อืมๆๆ ทำไมมาช้ากันนักล่ะ ลูกหนู
ก็เกิด accident นิสสสส.......หน่อยค่ะ เธอตอบด้วยเสียงประชดเต็มที่ครับ ก่อนที่จะหันมาค้อนใส่ผมที่ยังไม่ทันได้ทำอะไร
เลย ซวยซะงั้นอ่ะ
ไม่เป็นไรๆ งั้นเรามาเริ่มคุยธุระกันเลยดีกว่านะ
ก็อย่างรู้ๆกันว่าบริษัทของเราเริ่มทำการขยับขยายตลาด จึงมีการโฆษณาเพื่อ... ท่านพูดอะไรต่อผมก็ไม่ทราบเพราะยังสลึม
สลืออยู่ ( -_-)( _ _)( -_-)( _ _)
...คณะกรรมการบริษัทจึงตัดสินว่าให้ พงษ์เป็นนายแบบ mc ทันทีที่ได้ยินชื่อผมเท่านั้นละคับท่านสมองตื่นทันที หา!ท่าน
ประธานพูดว่าไงนะ ขนาดที่ผมยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ก็มีเสียงหวานๆค้านขึ้น
คะ..คะ...คุณพ่อพูดจริงหรอค่ะ ที่จะให้นายพงหญ้าเนี้ยเป็นนายแบบ เสียงนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากยัยเป้(แต่ผมบอกแล้วไง
ว่าผมชื่อ พงษ์ ไม่ใช่พงหญ้า >_
25 มีนาคม 2548 15:16 น.
เลาไผ่
ยืนมองท้องฟ้าไม่เป็นเช่นเคย
ฤดูร้อนไม่มีเธอ เหมือนก่อนเหมือนเก่า ขาดเธอ...
ภาพของทะเลที่กำลังส่องประกาย เพราะแสงอาทิตย์ส่องกระทบน้ำ แล้วน้ำทะเลเคลื่อนไหวเป็นระลอกคลื่น และกลางหาดทรายขาวสะอาด
นั้นมีเธอกับผม เราแค่ 2 คนอยู่เคียงข้างกัน แต่ !!!! จู่ๆร่างเธอก็หายวับไปพร้อมกับ
กริ๊งงงงงงงง......... เสียงนาฬิกาดังขึ้นปลุกให้ผมหลุดจากความฝัน ตามมาด้วยเสียงที่งัวเงียมาจากร่างที่นอนคาอยู่บนเตียง
งืม.....กี่โมงแล้วเนี้ย
เฮ้ย !!!!! ซวยแล้วตู 9 โมงกว่าแล้ว ผมรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ขนาดที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องพัก เสียงมือถือก็ดังขึ้น ผมรับโดยไม่ทันดูว่าใครโทรมา
นายพงหญ้า นายจะไปทำงานตอนค่ำหรือไงมิทราบ เสียงหวานๆ แต่เยือกเย็นผ่านมาจากหูโทรศัพท์ทำให้ผมสยองขึ้นมาทันที
ค้าบบบบบบบบบบบ.........ทราบแล้วค้าบ..........กำลังจะออกจากห้องเดี๋ยวนี้แล้วค้าบ....
ไม่ต้องมากำลังจะเลย ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ชั้นคอยอยู่หน้าห้องนายตั้งนานแล้ว
โธ่เอ๊ย ! ยัยป้าเป้ขี้บ่น ผมคิดในใจ
เดี๋ยวเหอะ คิดไรอย่ามาหาว่าชั้นไม่รู้นะยะ
น้าน....รู้อีกว่าเราบ่นอยู่ รู้ได้ไงเนี้ยมานั่งอยู่ในสมองเรารึป่าวเนี้ย
คิดอีกอ่าดิ ว่าไมรู้ ก็ชั้นโตมากะนาย ทำไมจะไม่รู้
นั้นแหละคับ ยัยเป้ คู่กัดของผมมาตั้งแต่สมัยเรียนจนตอนนี้ก็ต้องมาทำงานด้วยกันอีก อ้อ...ลืมแนะนำตัวไปเลย
ผมอ่ะชื่อพงษกร เอกรักษา นะคับ ไม่ใช่นายพงหญ้าที่ยัยเป้นั้นเรียก เรียกผมสั้นๆว่า พงษ์ นะคับ
ตอนนี้ผมทำงานที่บริษัทของพ่อยัยคุณหนูเป้ เป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์
พอผมโผล่พ้ออกจากประตูมาเท่านั้นแหละคับ ยัยเป้ก็ลากผมไปที่บริษัททันที เฮ้อ...ยัยโหด -O-
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องนี้ก้อพึ่งแต่งอ่าค้าบ แค่ตอนแรกนี้ก้อลองเอามาลงชิมลางก่อนว่าจาถูกใจผู้อ่านทุกท่านแค่ไหนนะค้าบ แต่ถ้าถูกใจก้อช่วยกานโหวต หรือใครมีข้อแนะนำก้อแวะมาโพสกานก้อได้นะค้าบ ^^
23 พฤศจิกายน 2546 15:29 น.
เลาไผ่
กริ๊ง........................กริ๊ง....................... เสียงนาฬิกาดังขึ้นเพื่อเตือนว่าขนาดนั้นเป็นเวลา 8. เสียงนาฬิกาก็ยังคงดังต่อไป โดยที่ร่างๆหนึ่งบนเตียงยังนิ่งไม่ลุกขึ้นมากด สักครู่นาฬิกาก็เงียบ ร่างนั้นก็ยังคงนิ่งไม่ขยับเขยื้อน
ลา..ลา..ล่า..ล้า..ล่า...ลา. เสียงเพลง ความซื่อสัตย์ / ก็ดังขึ้นอีก คราวนี้ร่างเดิมใช้มือเอื้อมไปหยิบมาดูเบอร์ บนหน้าจอปรากฏชื่อ ...NoN หญิงสาวไม่สนใจปล่อยให้เสียงมือถือตัวเองดังต่อไป พอเงียบหญิงสาวหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง คราวนี้มี voice mail box เข้ามา เธอก็กดฟัง
เม...นี่เรานนท์นะเมื่อวานเธอหายไปไหนล่ะ ไหนว่าจะไปกินข้าวกันไง โทรกลับมาด้วยล่ะแค่นี้นะ แล้วเธอก็โยนมือถือไว้ข้างตัวไม่สนใจที่จะโทรกลับไป พลางคิดถึงเที่ยงเมื่อวานที่เธอกำลังจะเรียกนนท์ให้ไปทานข้าวด้วยกัน แต่ก่อนที่เธอจะเอ่ยปาก ลิน รุ่นพี่สาวหน้าลูกครึ่งก็เดินเข้ามาหาแดนและยืนคุยกันอย่างสนิทสนม เมเลยหยุดความคิดที่จะเรียกนนท์แล้วหันหลังเดินไปทานข้าวคนเดียว...
เช้านี้เมไม่อยากไปทำงานเลยออกไปเที่ยวข้างนอกจนดึกแล้วจึงกลับมา ก็พบนนท์ยืนรออยู่หน้าห้องพักกับลิน เมเลยแกล้งเดินเข้าไปไขกุญแจทำเป็นไม่เห็นทั้งคู่ แต่ก่อนที่เมจะเดินเข้าไปในห้อง นนท์ก็ดึงแขนเมไว้
เมทำไมวันนี้ไม่ไปทำงาน ไม่โทรมาหาเรา ทำไม หา?
ก็เราไม่อยากไปนิ ไม่อยากโทรด้วย เออ...แล้วช่วยปล่อยแขนเราด้วย เราจะเข้าห้อง เมพูดตัดบท พร้อมสะบัดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุม แล้วเดินเข้าห้องไป ปล่อยให้นนท์ยืนงงอยู่กับลินต่อไป
พอเมเข้ามาในห้องน้ำตาที่พยายามกลั้นก็เอ่อล้นไหลจากตาแล้วเมก็ทรุดลงไปกองหน้าประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง เธอร้องไห้สักครู่ก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่บนเตียงของตัวเอง เธอเดินออกมาอย่างงงว่าเข้าไปนอนตั้งแต่เมื่อไร เมื่อเดินมาถึงห้องครัวก็พบคำตอบ ชายรูปร่าง อ้วนท้วน ไม่สูงนัก หันมายิ้มแย้มให้เธอ
ไง น้องเมหลับสบายดีมั้ยจ๊ะ เค้าถามอย่างกวนๆ
บายดี พี่เบิร์ดเข้ามาได้ไงเนี้ย
แหม ก็ใครน้า....เป็นคนให้กุญแจไว้
จ๋าจ๊ะ
แล้วไหงเธอไปนอนกองหน้าประตู เค้าถามอย่างสงสัย
ก็นิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก เมพยายามไม่พูดถึงสาเหตุ
งั้นเค้าไปหาเพื่อนชายก่อนนะตัว นัดไว้ใกล้ถึงเวลาและ
จ๊ะ รีบไปเหอะ เมฝืนยิ้ม
ไม่เป็นไรแน่นะ งั้นฝากด้วยนะศิ เบิร์ดพูดพลางหันไปบอกคนข้างๆที่เมไม่ทันสังเกตในตอนแรก
ครับ พี่เบิร์ด ชายคนนั้นรับคำแล้วเบิร์ดก็เดินออกไป ปล่อยให้เมยืนเอ๋อ
คุณ....คุณ..... เมอึ้งเพราะนึกได้ว่าชายคนนี้เป็นคนเดียวกับที่เธอพบตอนออกไปเที่ยวเมื่อตอนกลางวัน
ตอนกลางวันก่อนที่เธอจะกลับมาเธอไปเล่นไอซ์ที่เวิล์ดเทรดแล้วเธอวิ่งไปชนเค้าที่ขอบ เค้าก็ช่วยประคองเธอขึ้นมา เมกำลังจะขอโทษและขอบคุณ เค้าก็พูดออกมาก่อน
ไง เด็กน้อยเล่นไม่เป็นแล้วยังเล่นอีก เค้ายิ้ม
คุณ ชั้นไม่ใช่เด็กๆนะ มาเรียกว่าเด็กน้อยเนี้ยมันเกินไปแล้ว เมฉุนขึ้นมาก็เผลอเหวี่ยงหมัดออกไป แต่เค้าใช้มือจับไว้ แล้วยิ้มพูดต่อ
เฮ้อ...เด็กก็ยังงี้แหละ อารมณ์ร้อน
เราไม่ใช่เด็กนะ ไปดีกว่า ขี้เกียจทะเลาะด้วย เมดึงมือกลับ แล้วเดินออกจากลานน้ำแข็ง
ไง เด็กน้อยอึ้งเงียบไปเลย เค้ายิ้มกวนๆใส่
นายออกไปจากห้องชั้นนะ
ไม่ได้ยินหรอว่าพี่เบิร์ดเค้าฝากเราดูแลเด็ก ศิพูดเน้นเสียงคำว่าเด็ก
เราไม่ได้เป็นอะไรนิ กลับไปได้แล้ว
จะดูแลตัวเองได้เหรอ ยังเด็กอยู่เลย ศิยังไม่เลิกกวน
งั้นเชิญเลย ไม่ยุ่งด้วยแล้วเก็บกวาด จัดห้องให้ด้วยนะ ไปนอนต่อดีกว่า แล้วเมก็เดินลงส้นเดินเข้าห้องนอนไป
เมตื่นมาอีกทีก็รู้สึกหิวเลยเดินออกจากห้องนอนไปห้องครัวเพื่อหาอะไรทาน เดินเข้าไปในห้องครัวก็พบว่ามีกับข้าวร้อนๆวางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับกระดาษโน้ต เมเดินไปหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่าน
เมน้อย พี่ทำอาหารไว้ให้แล้วนะ (กลัวว่าจะทำเองไม่ได้ อิอิ) กินซะนะ
ศิ
เมวางกระดาษนั้นลงแล้วเดินไปตักข้าวมานั่งกิน แล้วตักน้ำซุปคำแรกที่กินเข้าปาก
...เอ๋ ?...อร่อยแหะ ไม่น่าเชื่อ หน้าอย่างนั้นทำอาหารอร่อย... เมคิด
5 พฤศจิกายน 2546 23:57 น.
เลาไผ่
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ภาพที่อยู่ตรงหน้าดาว คือ งูตัวหนึ่งเกร็ดสีเหลืองอมน้ำตาล ลายคล้ายเสือดาวตัวใหญ่ ค่อยๆคลืบคลานเข้ามาใกล้ขาดาว แล้วก็หันมาฉกก่อนที่มันจะถูกเท้าดาวจะเตะออกไปเข้าที่หน้างูพอดี มันจึงรีบเลื้อยหนีไป ดาวช็อคที่ถูกงูกัดจึงสลบไปอีกครั้ง
.......ดาว.........ดาว..........ดาว.........ดาว! เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างตัว ดาวเริ่มรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมา ภาพที่เลือนลางก็เริ่มชัดขึ้น
พี่ตะวัน!
จ๊ะ พี่เอง ตะวันพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางใช้มือเกลี่ยปอยผมของดาวไปข้างหลังหูอย่างเอ็นดู
เอ๊ะ! ดาวอยู่ที่ไหนค่ะ
แล้วงู.........? ดาวรีบถาม
งูไหนจ๊ะ พี่ไม่เห็นเลย
สงสัยไปแล้วมั้งค่ะ เออ.....ดาวโดนงูกัดค่ะ
หา! แล้วรัดบนแผลยัง ตะวันตกใจหน้าซีด
ยังค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ งูไม่มีพิษค่ะ
ดีแล้วล่ะ ตะวันรู้สึกโล่งใจขึ้น
ไปกลับกันเถอะ
ตะวันให้ดาวขี่หลังเดินไปได้สักครู่สายฝนก็เริ่มตั้งเค้าแล้วเทลงมา ตะวันรีบถอดเสื้อนอกออกคลุมดาวและเดินท่ามกลางสายฝน ระหว่างเดินตะในรู้สึกว่าทางเหมือนกับทางตะกี้ที่เดินผ่านมา
ดาวอดทนหน่อยนะ...ดาว! ตะวันพูดกับดาว แต่ดาวเงียบ ตะวันเริ่มใจหาย จึงค่อยๆวางตัวดาวแล้วเริ่มสำรวจ สรุปแล้วดาวไข้ขึ้น ตัวร้อนมาก เลยรีบอุ้มดาววิ่งหาที่หลบฝนและแล้วก็เจอบ้านร้าง ตะวันก็เลยพาดาวเข้าไปข้างใน
--------------------------------------------------------------------------------------------
ในบ้านนั้นมีโซฟาเก่าอยู่ ตะวันอุ้มดาวไปที่โซฟาตัวนั้นแล้วค่อยวางดาวลงนอนบนโซฟา แล้วหาผ้ามาห่มให้ดาว ตอนที่ห่มผ้าตะวันรู้สึกว่าดาวตัวเย็นขึ้น (แน่ละสิ ไปโดนฝนจนเปียกปอนอย่างงั้นน่ะ) พอดีตะวันเจอพบไวน์สีแดงที่นอนอยู่ก้นขวด จึงใช้มือประคองดาวขึ้นมานั่งบนตักแล้วค่อยๆป้อนไวน์ให้ดาว เพื่อให้ตัวดาวอุ่นขึ้น พอป้อนเสร็จก็กอดดาวไว้แน่น
....ดาว! อย่าเป็นอะไรไปนะ....
แล้วตะวันก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาก็เห็นดาวมองตาแป๋วอยู่
ดาว ตื่นขึ้นมาเมื่อไรน่ะเรา ตะวันถามอย่างเขินๆ พลางโยกหัวดาวเล่น
นานแล้วค่ะ แต่เห็นว่าพี่ตะวันดูเหนื่อยเลยไม่ปลุกค่ะ
อืม อ๊ะ! ดาวหายแล้วนิ
ค่ะ เพราะพี่ตะวันแหละค่ะ แล้วดาวรีบพูดต่อ
ดาวมีเรื่องจะบอกพี่ค่ะ ดาวก้มหน้าเงียบไปสักครู่ ก่อนเงยขึ้นมา
คือว่า..........ดาว.........รั... แล้วเสียงก็ขาดหายไปเพราะตะวันยกมือขึ้นปิดปากดาว
ดาวให้พี่พูดก่อนนะ พี่รักดาว รักมานานแล้วล่ะ ตะวันพูดพลางจ้องเข้าไปในตาสีดำปนน้ำตาลของดาวที่กำลังนิ่งอึ้ง
อ้าว...ดาวจะไม่บอกอะไรพี่หน่อยหรอ ตะวันอ้อน
ไม่เอาแล้ว ตะกี้ดาวจะพูดก็ไม่ให้พูด ดาวแกล้งงอนกลบความเขิน
งั้นกลับเลยดีกว่า ไม่อยู่แล้ว ตะวันลุกออกไปอย่างน้อยใจ
ดาวก็เดินตามมา เข้าไปกอดตะวันทางข้างหลัง
โอ๋ๆๆๆๆๆ อย่าโกรธดาวนะ ดาวง้อ
ไม่เอา ดาวต้องบอกรักพี่ก่อน
ดาวเดินนำหน้าไปแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วหันกลับมายิ้ม
ไปกันเถอะค่ะ พี่ชาย
.ที่รัก ดาวพูดเสริมต่อ
ตะวันรีบวิ่งเข้ามากอดดาวใต้สายรุ้งที่กำลังสดใสหลังฝนตกและน้ำค้างบนใบหญ้าที่กำลังโรยตัวลงจากใบเพื่อต้อนรับการเริ่มต้นของคู่รักคู่ใหม่