27 กุมภาพันธ์ 2552 01:05 น.
เรไร
- ๑ -
๏..ฟ้าดำดึกดื่นค่ำคืนหนึ่ง
คืนซึ่งไร้ดาวพราวเวหา
คืนที่เดือนดับเลือนลับลา
คืนที่เจิดจ้าด้วยแสงไฟ
คือโคมสาดส่องทั่วท้องถนน
ผสมเสียงผู้คนขบวนใหญ่
ประกาศพร้อมสู้เพื่อกู้ไทย
พ้นภัยทุรยศคนคดโกง
เสียดสีหยามหยาบและสาปแช่ง
ทิ่มแทงมั่นหมายให้ตายโหง
สร้างเรื่องระอาเอือมคอยเชื่อมโยง
จรรโลงความนิยมอุดมการณ์
สีเหลืองเชิดชูให้รู้จัก
พรั่งพร้อมพวกพรรคสมัครสมาน
เหยียบย่ำกรีดแยกให้แหลกลาน
เผาบ้านยึดเมืองสร้างเรื่องราว
- ๒ -
ฟ้าค่ำข้ามยังอีกฝั่งหนึ่ง
คืนซึ่งแดนสรวงกลางห้วงหาว
ไร้แสงวิบวับระยับวาว
ไร้ดาวฟ้าฉาบภาพจำแลง
มีแค่สีชาดคอยสาดส่อง
ทั่วท้องถนนทุกหนแห่ง
อุดมการณ์ยึดมั่นไม่เปลี่ยนแปลง
คอยแก่งแย่งทึ้งดึงมวลชน
ประกาศต่อต้านการปฏิวัติ
นำชาติวิบัติต้องขัดสน
ชาวประชาลำบากและยากจน
ผู้คนสิ้นหวังทั้งแผ่นดิน
สรรเสริญเชิดชูท่านผู้นำ
ถูกทำต่ำทรามถูกหยามหมิ่น
ถูกข้อกล่าวหาว่าโกงกิน
พลัดถิ่นต้องพรากต้องจากจร
- ๓ -
ฟ้าดำดึกดื่นกี่คืนค่ำ
แสงใดส่องนำคำสั่งสอน
ดาวใดช่วยเหลือเอื้ออาทร
ดับจิตราญรอนก่อนทำลาย
หากฟ้ามืดดำค่ำคืนนี้
ไม่มีแบ่งพรรคแบ่งฝักฝ่าย
ไร้สีแดงเหลืองเรื่องวุ่นวาย
เลวร้ายเรื่องใดคงไม่มี
มองฟ้าหม่นดำใกล้ย่ำรุ่ง
วันพรุ่งใกล้มาฟ้าเปลี่ยนสี
ไกลโพ้นฝั่งฟ้าสุขาวดี
ราตรีสีส้มดูกลมกลืน๚ะ๛
23 กุมภาพันธ์ 2552 00:38 น.
เรไร
จงฟังสิสหายผู้พ่ายแพ้
จะเจ็บช้ำย่ำแย่สักแค่ไหน
หากต้องทนอดสูอยู่ร่ำไป
ยอมกอดเก็บเจ็บใจไว้กับตัว
หากว่ามีวิธีที่หลุดพ้น
จากมืดมนหม่นคว้างทางสลัว
ละทิ้งความเขลาขลาดและหวาดกลัว
ที่ทาบทาทับทั่วในตัวเรา
หากสหายปลูกดอกโสกบนโลกนี้
ดวงฤดีคงเปลี่ยวและเหี่ยวเฉา
หากรุ่มร้อนร่มโสก ฤ บรรเทา
ความหมองเศร้าคงสถิต ณ จิตตน
แม้นสหายยอมลำบากอยากฟูมฟัก
ต้นกล้าแห่งความรักอีกสักหน
พออาศัยชมชื่นรื่นกมล
ยามร้อนรนได้มีที่พักพิง
ลองตรองสิสหายผู้พ่ายแพ้
อาจไม่แย่ย่อยยับทุกสรรพสิ่ง
ในความทุกข์ปวดแปลบที่แอบอิง
อาจหยุดนิ่งเงียบสงบได้ทบทวน
ถึงวันที่ย่ำแย่เคยแพ้พ่าย
ทนฟูมฟายถึงคืนวันที่ผันผวน
หรือจักสร้างความฝันแสนรัญจวน
ให้อบอวลในชีวิตลองคิดดู