25 มิถุนายน 2550 19:15 น.
เรไร
สหายเอ๋ย
ท่านว่าเคยรักกลอนอักษรศรี
และซาบซึ้งอรรถรสบทกวี
ในฤดีปลาบปลื้มลืมไม่ลง
จึงเดินสู่ทางฝันวรรณศิลป์
มาตามจินตกวีที่ลุ่มหลง
มาเรียงร้อยถ้อยฝันอย่างบรรจง
ด้วยประสงค์สิ่งใดหรือไม่เลย
หรือมาเพื่อทวงถามความรู้สึก
ในส่วนลึกหยั่งยากหากเปิดเผย
รำพันถึงความอบอุ่นที่คุ้นเคย
หรือเพียงเอ่ยนิยามบอกความนัย
ตรองดูเถิดพี่น้องและผองเพื่อน
ลองย้ำเตือนเจตจำนงด้วยสงสัย
จะเขียนเพื่อสืบสานตำนานไทย
หรือเพียงเพื่อสิ่งใดใครตอบที
13 มิถุนายน 2550 16:46 น.
เรไร
จนกว่าจะถึงวันนั้น
มีบ้างบางวันที่หวั่นไหว
เหนื่อยล้าสิ้นหวังกำลังใจ
ทำได้อย่าสลดจงอดทน
จนกว่าจะถึงวันนั้น
ความฝันเคว้งคว้างกี่ครั้งหน
อยู่กับวิตกเหมือนวกวน
อับจนไม่เห็นแม้เส้นทาง
จนกว่าจะถึงวันนั้น
ไม่หวั่นอุปสรรคคอยขัดขวาง
แม้หวังลอยเลื่อนดูเลือนลาง
อ้างว้างบอกอุราอย่าอาทร
จนกว่าจะถึงวันนั้น
โศกศัลย์ก็คืออุทาหรณ์
ขอใจคงมั่นอย่าสั่นคลอน
รุ่มร้อนอ่อนแอท้อแท้เลย
จนกว่าจะถึงวันนั้น
สักวันสิ่งประเสริฐจะเปิดเผย
บอกทางสุขสมให้ชมเชย
ก่ายเกยกกกอดตลอดเวลา
จนกว่าจะถึงวันนั้น
เพียงมั่นหวังวาดปรารถนา
ก้าวข้ามร้าวรานที่ผ่านมา
ฝันว่าพรุ่งนี้ดีกว่าเดิม
2 มิถุนายน 2550 00:55 น.
เรไร
แม้นนางใดร่วมเตียงเคียงเขนย
ก็มิเคยสมคะเนเสน่หา
ยากมีใครเทียบเท่าเจ้าขวัญตา
ปรารถนาคู่เคียงแต่เพียงนาง
แต่ก่อนนี้ใกล้ชิดสนิทสนม
เคยภิรมย์คลอคู่อยู่มิห่าง
ถึงวันนี้ย่อยยับรักอัปปาง
เจ้ามาหมางเมินหนีจากพี่ไป
ทำได้เพียงกอดรูปจูปกระดาษ
มองภาพวาดพร่ำเพ้ออย่างเผลอไผล
แม้นสดับสรรพเสียงสำเนียงใด
ก็หวั่นไหวคร่ำครวญหวนคำนึง
แม้พระพายพัดไหวฤทัยหวิว
เหมือนจะปลิวดวงจิตด้วยคิดถึง
ไปทวงถามความหลังครั้งตราตรึง
เคยหวานซึ้งหวามไหวในอารมณ์
พอพิรุณโปรยปรายสยายม่าน
ยิ่งร้าวรานพี่สะอื้นแสนขื่นขม
เหมือนมาชะชลนาคราพี่ตรม
วิโยคตรมเหว่ว้าด้วยจาบัลย์
สะพานรุ้งทอดลงจากโค้งฟ้า
เมื่อฝนซารอเจ้ากลับจะรับขวัญ
มอบความรักหวานชื่นเพื่อยืนยัน
ตราบนิรันดร์ฤทัยนี้มีเพียงนาง