23 กุมภาพันธ์ 2550 10:34 น.
เรไร
เพื่อนเอ๋ย
หากเจ้าเคยน้อยใจในศักดิ์ศรี
เพราะว่าใครประณามคอยย่ำยี
ฟังทางนี้สักหน่อยอย่าน้อยใจ
มวลมนุษย์มากมายอยู่ในโลก
ต่างมีโชคชะตาที่ฟ้าให้
แตกต่างแต่วาสนาจะพาไป
สู่หนไหนห้วงทุกข์ ฤ สุขสำราญ
แต่ศักดิ์ศรีของใครใครกำหนด
จะมากลดหาใช่ใครหักหาญ
คงเท่าเทียมเสมอกันตามสันดาน
เป็นพื้นฐานยามเกิดกำเนิดมา
เป็นเพราะเราต่างหากอยากนอบน้อม
เรายินยอมหมอบกรานคลานเข้าหา
เราคุกเข่าเชิดชูพร้อมบูชา
เราลดค่าศักดิ์ศรีเราให้เขาเอง
15 กุมภาพันธ์ 2550 00:21 น.
เรไร
ไม่มีถ้อยคำหวานให้ซ่านซึ้ง
บทรำพึงรำพันจนฝันหา
มีเพียงแค่ความหมายจากสายตา
สื่อภาษาบอกนิยามความสัมพันธ์
ไม่มีแม้ดอกไม้สวยระรวยกลิ่น
ให้ถวิลหอมหวนชวนใฝ่ฝัน
เพียงนิ้วก้อยเราสองคล้องเกี่ยวกัน
แทนถ้อยคำคงมั่นสัญญาใจ
ไม่เคยมีเลยฉันวันพิเศษ
ก็เพราะเศษวินาทีนาทีไหน
ทุกวลาคืนวันที่ผ่านไป
มิเคยมอบผู้ใดให้เพียงเธอ
6 กุมภาพันธ์ 2550 17:13 น.
เรไร
อยากเรียงร้อยถ้อยพจน์บทอักษร
เป็นคำกลอนอ่านไพเราะเสนาะหู
พยายามหัดเขียนเลียนแบบครู
สุนทรภู่กวีศรีแผ่นดิน
แม้ค่ำคืนดื่นดึกเฝ้าศึกษา
อ่านตำราผังกลอนอักษรศิลป์
วรรคสดับ-รับ-ส่งจงคุ้นชิน
คอยคิดครวญถวิลจินตนาการ
เรียนรู้ทั้งแบบผังและจังหวะ
สัมผัสสระ- อักษรให้อ่อนหวาน
ทั้งเสียงยาวเสียงสั้นเช่นทัน ทาน
สำเนียงอ่านคอยคิดไม่ผิดเพี้ยน
ฉันทลักษณ์ไม่ติดขัดสัมผัสแม่น
ตามแบบแผนไม่ผิดจึงขีดเขียน
ใช้ถ้อยคำสวยหรูดูแนบเนียน
เหมือนดั่งเซียนเลบงนักเลงกลอน
จากสมองเรียงร้อยเป็นถ้อยพจน์
สอดแทรกบทเนื้อหาอุทาหรณ์
พรั่งพร้อมคำหวังช่วยอำนวยพร
ตามแบบกลอนให้ประจักษ์นักประพันธ์
กี่ร้อยพันบทกวีที่ฉันเขียน
ความพากเพียรผ่านมาน่าเย้ยหยัน
มีเรื่องไหนบทใดวรรคไหนกัน
ที่ชวนฝันเพียงอรรถสัมผัสใจ