31 ตุลาคม 2549 16:06 น.
เรไร
ขอเพียงอย่าทรมานกันอย่างนี้
แสร้งทำดีแสร้งรักเป็นนักหนา
หากทำเพราะสมเพทเวทนา
เพียงเมตตาสงสารเท่านั้นเอง
โปรดปล่อยฉันอย่าพร่ำคำว่ารัก
ให้ประจักษ์ชื่นชมแล้วข่มเหง
ขยี้ให้ชอกช้ำซ้ำละเลง
คงครื้นเครงเธอสินะคงสะใจ
เอาไม้ฟาดขวานฟันฉันไม่ว่า
เอามีดพร้ามาเชือดจนเลือดไหล
ปืนเล็งมาที่ฉันแล้วลั่นไก
จนตัดขั้วหัวใจไปเสียที
ให้อยู่อย่างขื่นขมคงสมเพท
น่าทุเรศยิ่งนักไร้ศักดิ์ศรี
ขอเถิดนะโปรดอย่าได้ปรานี
ให้ไปดีสิ้นชื่อด้วยมือเธอ
28 ตุลาคม 2549 02:18 น.
เรไร
เพียงอยู่ริมทางข้างถนน
รอคนตามฝันสัญจรผ่าน
ยามทุข์ร้อนรนทนทรมาน
หลบแดดเผาผลาญพอบรรเทา
เหมือนฉันยังคงอยู่ตรงนี้
ตรงที่รอคอยอย่างหงอยเหงา
ยามแดดโรยแรงแสงทอดเงา
ว่างเปล่าไร้คนจะสนใจ
ยามฝยโปรยปรายสยายม่าน
เพียงผ่านเพื่อมาพักอาศัย
มิอาจฝ่าฝนดั้นด้นไป
พักใจเปียกปอนก่อนฝนซา
เหมือนฉันยังคงอยู่ตรงนั้น
รอวันพร่ำเพ้อละเมอหา
เพียงพบเพื่อพรากเธอจากลา
มีค่าเพียงไหนไม่รู้เลย
กี่ร้อนกี่ฝนต้องทนทุกข์
ความสุขอยู่ไหนใครจงเผย
พบความทารุณจนคุ้นเคย
ใจเอ๋ยหมองหม่นทุรนทุราย
ได้พบความจริงยิ่งอดสู่
เพิ่งรู้ฉันนี้มีความหมาย
คุณค่าให้เฉลียวยามเดียวดาย
เพียงคลายความเหงาเท่านั้นเอง
http://musicstation.pantip.com/song.php?song_key=19f01591b6ca3ba03f1aedc8db12cdb9
24 ตุลาคม 2549 10:02 น.
เรไร
- หนึ่ง -
ก่อนสายลมบางบางจะจางหาย
ก่อนตะวันเฉิดฉายประกายฉาน
ก่อนดอกไม้แรกแย้มแต้มตระการ
ก่อนล่วงผ่านเลยวันวสันต์ฤดู
ก่อนพรุ่งนี้กายเจ็บเพราะเหน็บหนาว
ก่อนใจร้าวรันทดเพราะอดสู
ก่อนฝนหยาดสุดท้ายได้พร่างพรู
ก่อนจะเปิดประตูสู่เหมันต์
- สอง -
เมื่อราตรีลับลาอุษาโยค
ทั่วทั้งโลกเลื่อมพราวราวสวรรค์
ม่านหมอกบางโปรยอ่อนก่อนตะวัน
จะผายผันส่องประกายในทิวา
อาบละอองน้ำค้างในยามเช้า
บนยอดเขาชุ่มชื้นกลางผืนป่า
ชมดอกไม้ผลิบานตระการตา
สกุณาร้องบรรเลงเพลงกล่อมเรา
มองผีเสื้อหมู่ภมรที่ร่อนเหิน
คงเพลิดเพลินหัวใจพอคลายเหงา
ได้สัมผัสหฤหรรษ์อาจบรรเทา
เผื่อความเศร้าเบาบางจางจากใจ
ยามค่ำคืนผิงไฟให้คลายหนาว
ระยับดาวพราวพร่างสว่างไสว
ฟังเสียงร้องรื่นรมย์ระงมไพร
ของหรีดหริ่งเรไรในราตรี
- สาม -
ก่อนอรุณระเรื่อเจือห้วงหาว
ก่อนลมหนาวพัดจากพรากเธอหนี
ก่อนสิ้นมนต์แห่งเหมันตกวี
ก่อนดนตรีหมดพลังกังสดาล
มาสู่ห้วงแห่งจินต์ถวิลหา
เพื่อไขว่คว้าความหมายให้กล่าวขาน
รับสัมผัสเพื่อจดจำเป็นตำนาน
เพื่อจะผ่านเหมันต์วันของเรา
23 ตุลาคม 2549 00:59 น.
เรไร
จงลืมเรื่องปวดร้าวเถิดสาวน้อย
อย่าถดถอยท้อแท้จงแก้ไข
ความผิดพลาดเพียงนิดอย่าติดใจ
อย่าปล่อยให้เป็นบาปทาบอุรา
มีเรื่องราวมากมายไร้เหตุผล
อาจได้ยลดั่งจิตวาดปรารถนา
อาจเสียใจผิดหวังบางเวลา
แค่อยากคว้าตอบสนองสิ่งต้องการ
กระทั่งสิ่งเลวร้ายในชีวิต
ถึงพลาดผิดจงข้ามฝ่าอย่างกล้าหาญ
แม้อดีตเคยระทมทรมาน
อย่าร้าวรานหมองหม่นกระวนกระวาย
ต้องมีเรื่องที่เผชิญเกินหยั่งรู้
ครวญคิดดูไม่ยากมีหลากหลาย
แม้ความรักคงยากคิดอธิบาย
ดีหรือร้ายรู้ได้ด้วยใจตัว
เพียงเตรียมใจให้พร้อมจะยอมรับ
เพื่อพบกับแสงสว่างกลางสลัว
รักจะจุดเทียนชัยในมืดมัว
จงเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี
จงลืมเรื่องปวดร้าวเถิดสาวน้อย
รักจะคอยปลอบปลุกให้สุขี
คงบรรเทาเงียบเหงาเศร้าโศกี
ใช้ชีวีที่เหลือเพื่อรักใคร
20 ตุลาคม 2549 00:18 น.
เรไร
เมื่อชีวิตกับความฝันยืนยันว่า
ถึงเวลาจะพบกันในวันหนึ่ง
เพียงวันนี้อยู่ไปให้คำนึง
จะไปถึงอนาคตที่งดงาม
ใช้ชีวิตเลือดเนื้อที่เหลืออยู่
เพื่อยืนสู้อุปสรรคและขวากหนาม
แม้กล้ำกลืนฝืนทนคนประณาม
พยายามลืมเลือนเหมือนไม่ยิน
เสียงของป่าพร่ำเพรียกเรียกฉันแล้ว
ดังผะแผ่วก้องศิลาภูผาหิน
ผสมเสียงลมบรรเลงดุจเพลงพิณ
ดอกไม้ป่ารวยระรินกลิ่นกำจาย
เบื่อบุบผาฟุ้งเฟื่องในเมืองหลวง
เป็นช่อพวงหลากสีมีมากหลาย
ให้เพียงเสพชิดชมจนตรมตาย
คอยทำลายกัดกินถึงวิญญาณ์
คิดถึงสายน้ำเย็นกระเซ็นซ่าน
เป็นลำธารชุ่มชื้นทั่วผืนป่า
หรือเพียงฝันได้ชิดเพียงนิทรา
หรือเกินที่ไขว่คว้ามาครอบครอง
เสียงของป่าพร่ำเพรียกเรียกฉันแล้ว
นกเจื้อยแจ้วเพลงพฤกษ์ดังกึกก้อง
ลมผะแผ่วเริงระบำตามทำนอง
คือเสียงของความฝัน ณ วันนี้