30 มกราคม 2548 10:38 น.
เรไร
จริตปรุง ภาพฝัน อันบรรเจิด
ก่อกำเนิด นิมิต เหมือนจิตหลอน
ยามราตรี มืดดับ มิหลับนอน
คือนิวรณ์ หลอกลวง ดวงฤทัย
ภาพครั้งเก่า เลือนพร่า เริ่มปรากฏ
กำซาบซด รสรื่น ละลื่นไหล
สู่วิมาน สรวงสวรรค์ เลยหวั่นใจ
ฤ ลงไป ยังนรก อเวจี
สถานที่ คุ้นเคย เผยให้เห็น
สิ่งที่เป็น เรื่องราว ร้าวฉวี
คิดจะเข้า ไปแก้ไข ได้อีกที
อาจจะดี กว่าก่อน หากย้อนคืน
คงมิทำ เรื่องใด ให้พลาดผิด
คงครุ่นคิด ปรารถนา ข้าจะฝืน
รู้แล้วว่า ถ้าทำ จะกล้ำกลืน
ความขมขื่น ตามเร้า เศร้าชีวา
ไม่ขอรัก ปักทรวง คอยห่วงหวง
จนเลยล่วง เป็นผูกพัน จึงฝันหา
น้อมถวาย ไม่เหลือ เผื่ออุรา
ให้วันหน้า จะแพ้พ่าย ก็สายเกิน
น้ำตาร่วง รินหลั่ง ในครั้งนั้น
หลอกตัวพลัน ว่าข้าแน่ แก้ขวยเขิน
หากล้ามอง อนาคต หมาดทางเดิน
ซ่อนหัวใจ ยับเยิน เกินเยียวยา
คงจะวาง จุดหมาย ในชีวิต
มิหลงผิด สู่เหตุ กิเลสหนา
ไปขยัน หมั่นเพียร เรียนวิชา
ได้ไขว่คว้า หวังวาด โอกาสดี
ภาพเริ่มพร่า เลือนราง พลางหันกลับ
เผยความลับ ความจริง เคยวิ่งหนี
ปัจจุบัน หยัดยืนอยู่ สู้ชีวี
ข้ายินดี เรื่องร้าวราน ที่ผ่านมา
ภาคภูมิใจ ที่เป็น อยู่เช่นนี้
เรื่องร้ายดี จดจำ ทำให้กล้า
มิแก้ไข ย้อนหวน ทวนเวลา
คิดเพียงว่า พานพบ ประสบการณ์
มองข้างหน้า ดีกว่าไหม ใจมันบอก
ความช้ำชอก เรื่องเก่า สิ่งร้าวฉาน
ให้เป็นแค่ ฉากหลัง ครั้งวันวาน
เริงสำราญ สดใส ใช้ชีวี
29 มกราคม 2548 21:39 น.
เรไร
ยามจนทนเก็บก้น...............ยาซอง
กรองทิพย์หรือกรุงทอง........สูบได้
ยามตกอับจับตอง...............มวนจีบ
มีความสุขเพียงพอไซร้........ไม่ง้อ ขอใคร
รอชะตาจากฟ้า..................น่าอาย
อวัยวะร่างกาย....................ครบถ้วน
จงฝันใฝ่จุดหมาย................คงพบ
ความพยามล้วน..................จะให้ รางวัล
ใจมัวแต่ย่อท้อ.................คิดดู
มัวสลดหดหู่....................อย่างนั้น
มีชีวิตอดสู.......................น่าเบื่อ
อุปสรรคขวางกั้น..............อย่าล้า ฝ่าไป
28 มกราคม 2548 00:33 น.
เรไร
เพียรบำเพ็ญ บารมี ที่โถงถ้ำ
บริกรรม เวทย์มนต์ บ่นคาถา
หวังมาช่วย เสริมแรง แห่งศรัทธา
จากถ้ำมา หมายมุ่ง สู่กรุงไกร
ทั้งผมเผ้า ยาวเฟื้อย เลื้อยถึงหลัง
หนวดรุงรัง หงอกขาว ราวเส้นไหม
โจงกระเบน จับจีบ กลีบสไบ
ประคำใหญ่ คล้องเห็น เด่นจริงเชียว
มาโปรดปราณ มวลมนุษย์ สุดยากเข็ญ
ต้องลำเค็ญ อับจนใจ ไร้คนเหลียว
ตั้งความหวัง รัฐบาล ท่านผู้เดียว
แต่ก็เหนียว ให้ยาก ท่านอยากรวย
มีสลาก บนดิน เรียกกินแบ่ง
ออกมาแข่ง กับเขา เจ้ามือหวย
ให้ต้องหลบ กันหมด ระทดระทวย
ท่านจึงช่วย เป่าเสก เลขขึ้นมา
สองห้าแปด จำไว้ เป็นตัววิ่ง
แล้วต้องอิง ตัวข้างเคียง เรียงนั่นหนา
เลขศูนย์ด้วย อย่าละเลย ทำเฉยชา
แล้วจะว่า อาจารย์ ท่านไม่เตือน
ที่มีบ้าน ขายบ้าน แทงให้หมด
ที่มีรถ ขายตลาด เห็นกลาดเกลื่อน
เอาไปทุ่ม แน่แน่ อย่าแชเชือน
อย่าลืมเลือน เลขที่บอก ไม่หลอกลวง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
..อาจารย์ออกมาจากปลีกวิเวกทั้งที .
มีเลขมาฝาก 2 5 8 ระวังตัวข้างเคียง 0 อย่าได้ทิ้ง...
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
26 มกราคม 2548 23:24 น.
เรไร
น้องนางนั้นเนื้อนวล ช่างเย้ายวน
คงคร่ำครวญครุ่นคิด จิตโหยหา
หลงเล้าโลมลูบไล้ ด้วยสายตา
หวิววาบว่าวอนเว้า เจ้าอยู่เคียง
อกอวบอิ่มเอวอ่อน อรชร
เนาแนบนอนเนื้อนุ่ม ซ่านซุ่มเสียง
อย่าเอื้อนเอ่ยอ้อนออด พรอดสำเนียง
พร่ำเพ้อเพียงพร่างพรู เหมือนรู้ใจ
กายอ่อนเอน เบนเบียด ละเมียดละมุน
อกเอ๋ยอุ่น ละเมอ ให้เผลอให้ไผล
คอยเคล้าคลึง กลับหน่ายหนี พิรี้พิไร
ซุกซอนไซร้ เพียรเฝ้า พะเน้าพะนอ
ก่ายกอดกกกลกาม ตามเสน่ห์
โซซัดเซซุกซน จนร้องขอ
อย่ายุ่มย่ามหยาบหยาม ลวนลามพอ
ทนทุกข์ท้อท่าทาง น้องนางเมิน
ชายชื่นชมชิดเชย มิเคยห่าง
จะจืดจางจอมใจ ไฉนเขิน
ให้หวนหาห่วงหวง มิล่วงเกิน
งมงกเงิ่นงวยงง หลงกามา
25 มกราคม 2548 21:49 น.
เรไร
บทสุดท้าย เหมือนนิยาย ในรักเก่า
สะอื้นเศร้า โศกา จะหาไหน
ต้องพลัดพราก จากกัน ให้หวั่นใจ
เวลาไหน ของเรานั้น มันไม่มี
จนน้ำตา รินหลั่ง ทั้งหัวเราะ
อาจเป็นเพราะ ดวงใจ มาหน่ายหนี
อาจเป็นเพราะ หลงไหล ในวจี
หรือเป็นที่ ตัวเรา เขลาไปเอง
โอ้ความรัก นั้นหนอ เคยคลอเคล้า
ก็ตัวเรา ทุกข์ใช่ ใครข่มเหง
เพียงแค่เหงา ดวงจิต คิดไปเอง
จึงวังเวง เปล่าเปลี่ยว ทนเดียวดาย
บทสรุป ความรัก มักเจ็บช้ำ
ความระกำ พลาดพลั้ง ยังมิหมาย
หนีไม่พ้น ทนอยู่ มิรู้วาย
อยากฟูมฟาย ชลนา ทุกคราคืน
ให้หลับลง ปลงได้ ในคืนนี้
ให้ราตรี ล้างลบ กลบสะอื้น
ให้ทุกข์ท้อ แพ้พ่าย คลายกล้ำกลืน
จนเมื่อตื่น ลืมตา ฟ้าคงงาม
เก็บน้ำตา กลืนกิน อย่ารินหลั่ง
ชีวิตยัง ต้องเพียรพา ฝ่าขวากหนาม
อย่าให้ทุกข์ โศกเศร้า เป็นเงาตาม
พยายาม ลืมสลด ให้หมดใจ
ขอก้าวไป ใฝ่ฝัน ในวันพรุ่ง
ขอพยุง จะเจ็บจำ ช้ำแค่ไหน
ขอมีแรง ยืนอยู่ สู้ต่อไป
ขอหัวใจ ที่ย่อยยับ ขอกลับคืน