3 ตุลาคม 2551 21:35 น.
เรไร
เธอเหนื่อยยากมากไหมใช้ชีวิต
ในดวงจิตเคว้งคว้างบ้างหรือเปล่า
หรือท้อแท้สิ้นหวังนั่งซึมเซา
จะเงียบเหงาหัวใจ หรือไม่เลย
กับชีวิตดิ้นรนคนเมืองใหญ่
แม้นดวงใจเหว่ว้าต้องชาเฉย
สร้างเปลือกปิดตัวตนจนคุ้นเคย
มิเปิดเผยด้วยกลัวเห็นตัวตน
ฉันเฝ้ามองอย่างหดหู่อยู่ห่างห่าง
แลเห็นความอ้างว้างไร้เหตุผล
กลางสว่างวาววับกลับมืดมน
ความสับสนเสมือนเงาเฝ้าติดตาม
มาฟังสิท่วงทำนองเพลงของฉัน
พาผ่านวันทุกข์ยากฝ่าขวากหนาม
มาฟังสิ.. ฉันจะเอ่ยเผยนิยาม
สิ่งงดงามกลางเหงาและเปล่าดาย
มาโอบกอดความเหงาอย่างเปล่าเปลี่ยว
เพียงผู้เดียวในฝันคืนจันทร์ฉาย
เผื่อว่าความขมขื่นจะคืนคลาย
ฉันจะร่ายเพลงเฝ้าพะเน้าพะนอ
เป็นบทเพลงบนเส้นทางระหว่างฝัน
คู่เคียงกันท่วงทำนองด้วยร้องขอ
เสมือนมิตรเสมือนเงาผู้เรารอ
ช่วยเติมต่อทอฝันมีฉันเคียง
22 กันยายน 2551 23:25 น.
เรไร
๏.. เรื่องของฉัน
เหมือนความฝันในวันหนึ่ง
กลางเดียวดาย คอยเก้อเพ้อรำพึง
เพราะความคิดถึง จึงฝากมา
๏.. เรื่องของฉัน
ฝากคำรำพัน จากห้วงใน ใจปรารถนา
วอนให้ สายลม พัดพา
ข้ามฟ้า ข้ามเขา ข้ามลำธาร
๏.. เรื่องของฉัน
เขียน โคลง กลอน กาพย์ ฉันท์ เป็นคำหวาน
เรียงร้อย ถ้อยพจน์ บทพจีกวีกานต์
ฝากผ่าน สายฝนพรำ แห่งวสันต์ฤดู
๏.. เรื่องของฉัน
คำนั้น อยากให้ เธอได้รู้
เพียงสัมผัส หยาดฝนโปรยปราย พร่างพรู
ยามระรินไหล อาบสู่ ผิวกาย
๏.. เรื่องของฉัน
ก่อนวสันต์ฤดู จะห่างหาย
มีเรื่องราว ร้อย พัน เขียนบรรยาย
คงสิ้นไร้ความหมาย คงเก้อ หากเธอไม่ยิน ..๏
21 กันยายน 2551 20:17 น.
เรไร
๏.. ระหว่างเรา
หลงเหลือเพียง ความเงียบเหงา
เพียงความทรงจำ แสนเศร้า
เสมือนเงา คอยติดตาม
๏.. ระหว่างเรา
เพียงความว่างเปล่า เป็นนิยาม
เหลือแค่ บางคำถาม
ยากตอบ ความใน
๏.. ระหว่างเรา
วันเก่าๆ กลับยิ่งใหญ่
แค่เพียงเวลา ที่ผ่านไป
ไม่เหลืออะไร ในปัจจุบัน
๏.. ระหว่างเรา
คนที่เฝ้าหวัง คือฉัน
ที่ทนทุกข์ ทรมาน จากวานวัน
คอยเพ้อฝัน ให้อดีตหวนคืน
๏.. ระหว่างเรา
ทิ้งรอย เศร้า ตรม ขมขื่น
ฝากให้ฉัน เจ็บช้ำ กล้ำกลืน
ทนหยัดยืน โดดเดี่ยว อยู่เดียวดาย
๏.. ระหว่างเรา
แค่วันเก่าๆ ที่สูญสลาย
กับความฝัน ที่วอดวาย
คือสิ่งสุดท้าย ที่เหลือตรงกลาง ... ระหว่างเรา ..๏
15 กันยายน 2551 23:43 น.
เรไร
เคยนั่งเหม่อเผลอคิดเลยมีดบาด
จนเลือดสาดทนเจ็บต้องเย็บแผล
เพราะความเซ่อเผลอไผลไม่ดูแล
จึงย่ำแย่เป็นเรื่องใหญ่เกิดในครัว
ฉันพอเป็นเรื่องสำรับทำกับข้าว
แต่เรื่องราวขึ้นให้มึนหัว
ยิ่งกว่าฉันที่พลั้งเผลอเจอกับตัว
ต้องหมองมัวคนเขากล่าวประณาม
ว่าพ่อครัวมือหนึ่งซึ่งรู้จัก
ชื่อสมัครคนเก่งน่าเกรงขาม
เรื่องฝีมือโภชนาน่าติดตาม
แต่ถูกความต้องคดีมีมลทิน
อวสานคนรู้ทั่วพ่อครัวใหญ่
น่าเจ็บใจหลักฐานชัดถูกตัดสิน
เป็นนายกฯ เคยเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
เพราะเรื่องกินวอดวายเพราะรายการ
ทั้งชิมไปบ่นไปยกโขยง
ตอนหกโมงยามเช้าเฝ้าขับขาน
แต่คงลืมสถานะเป็นรัฐบาล
จึงถูกศาลตัดสินสิ้นอำนาจ
ชีวิตถูกประณามยามดวงตก
น่าตลกหากวิเคราะห์เพราะประมาท
โดนซ้ำเติมว่าขายทำลายชาติ
ความผิดพลาดมีให้เห็นมิเว้นวัย
ฉันแค่นั่งทำเหม่อเผลอถูกมีด
คมมันกรีดสะบัดเชือดจนเลือดไหล
แต่นายกฯ โดนซะน่วมอ่วมอรทัย
ต้องบรรลัยวอดวายตายคาครัว
24 สิงหาคม 2551 23:18 น.
เรไร
ในห้วงอารมณ์
บางครั้งสุขสม...........ขื่นขมบางวัน
วันนี้แช่มชื่น..............เริงรื่นขบขัน
พูดพร่ำรำพัน.............เหมือนบ้าก็มี
ในความรู้สึก
บางครั้งบันทึก.............ส่วนลึกใจนี้
เก็บความเงียบเหงา.....เก็บเศร้าโศกี
เป็นบทกวี...................ไว้เตือนสอนตน
ในคำนิยาม
ถึงสิ่งงดงาม.................ความรักสักหน
อาจมีความหมาย.........มากมายเหลือล้น
แต่กับบางคน...............ทุรนทุราย
ในนามความรัก
หากใครรู้จัก..................ยากนักแหนงหน่าย
บางครั้งพร่ำเพ้อ............เพียงเก้อเดียวดาย
ทั้งหญิงและชาย.............อยากได้ครอบครอง
ในความลุ่มหลง
กับเจตน์จำนง.................มั่นคงหมายปอง
แม้มันยากเย็น................อยากเป็นเจ้าของ
สติไต่ตรอง......................ก็มองข้ามไป
ในความอาฆาต
อยากให้พินาศ................จิตวาดหวังไว้
จักต้องตรอมตรม............จวบลมหายใจ
หมดลงเมื่อใด.................เหมือนไร้ปราณี
ในความเกลียดชัง
ก็คงอยู่ยัง.......................ภวังค์ชีวี
หวั่นหวาดผวาตื่น............ดึกดื่นราตรี
ร้อนรนฤดี.......................ดุจไฟสุมทรวง
ในความเคียดแค้น
ยังคงฝังแน่น..................ลึกแสนในห้วง
เจ็บใจเก็บจำ..................ตอกย้ำหลอกลวง
ว่าสิ่งทั้งปวง...................ชั่วช้าต่ำทราม
แล้วในที่สุด
บางสิ่งได้หยุด...............สะดุดคำถาม
ไฟสุมทรวงใน..............ใครทำลุกลาม
สิ่งใดงดงาม..................บนความเกลียดชัง