21 ธันวาคม 2548 03:06 น.
เรไร
หากฟากฟ้าจรดน้ำ...............เมื่อใด
เธอบอกจงตามไป................สุดหล้า
ยืนยันอย่างมั่นใน.................คำกล่าว
เพียงพบเส้นขอบฟ้า.............จักได้เจอกัน
ด้วยใจมั่นได้ออก.................เดินทาง
อุปสรรคขัดขวาง..................ไม่ท้อ
แหวกว่ายอยู่ท่ามกลาง..........มหาสมุทร
ไปไม่หยุดมิง้อ......................ฝ่าข้ามโชคชะตา
จะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า.........แรงกาย
ฟันฝ่าอันตราย......................ต่อสู้
ด้วยฝันที่มุ่งหมาย.................คงมั่น
ได้พบเพียงยอดชู้..................ชิดใกล้เชยชม
เหมือนยิ่งคว้ายิ่งคว้าง............ห่างไกล
เพียรพยายามเพียงไหน.........เริ่มล้า
สูญสิ้นหมดแรงใจ..................เหนื่อยอ่อน
มิพบเส้นขอบฟ้า....................เพิ่งรู้ไม่มี
สูญสลายสิ้นสุด.......................ความฝัน
คำพูดมาหลอกกัน..................เล่ห์ร้าย
แค่เพียงพร่ำรำพัน.................กลิ้งกลอก
ให้พบวาระสุดท้าย..................ดิ่งห้วงชโลทร
18 ธันวาคม 2548 12:09 น.
เรไร
จะขอมอบเพลงรักของนักสู้
ให้เจ้ารู้เมื่อชีวิตต้องผิดหวัง
เอาสำเนียงเพลงเสริมเพิ่มพลัง
เพื่อก้าวยังปลายทางอย่างตั้งใจ
จะเป็นผ้าห่มกายให้หายหนาว
เมื่อลมพราวพัดพลิ้วปลิวไสว
เป็นอ้อมแขนอบอุ่นละมุนละไม
กอดเจ้าไว้เพียงเบาเบาเฝ้าพะนอ
จะขอเป็นมิ่งมิตรมิคิดอื่น
ทุกวันคืนเป็นแรงให้เมื่อใจท้อ
เป็นคู่คิดเคียงข้างคอยเคล้าคลอ
ที่จะขอแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง
จะเป็นเกราะป้องกันอันตราย
ใครที่หมายเหยียบย่ำทำข่มเหง
ความเจ็บปวดถมทับขอรับเอง
มิหวั่นเกรงแม้ต้องตายวายชีวา
ฟังสิฟังเสียงคลื่นโหมโถมเข้าฝั่ง
ประเดประดังม้วนตลบกระทบผา
เสียงอื้ออึงกระเซ็นซ่านลานศิลา
ให้ธาราคลายระทมสิ้นตรมตรอม
ฟังสิฟังเสียงไหวของใบไม้
แทนห่วงใยดั่งเงาเฝ้าถนอม
มีหัวใจดวงหนึ่งซึ่งยินยอม
ร้องเพลงกล่อมจอมขวัญนิรันดร์กาล
16 ธันวาคม 2548 23:58 น.
เรไร
อย่าทิ้งฉันให้เก็บความเจ็บช้ำ
อย่าเหลือแค่ความจำทำหวั่นไหว
อย่าตัดบัวมิเหลือซึ่งเยื่อใย
อย่าทิ้งให้เพ้อเพร่ำเพียงลำพัง
โปรดกลับมาเพื่อรักอีกสักหน
สร้างสุขบนดวงใจที่ไร้หวัง
เสริมฤดีร้าวรอนอ่อนกำลัง
อีกสักครั้งฉันง้อขอเมตตา
ทุกราตรีของฉันมันโหดร้าย
เปลี่ยวเหงากายครวญคร่ำรำพันหา
คอยคิดถึงอ้อมกอดตลอดเวลา
ได้เพียงคว้าแค่เงาเฝ้าเชยชม
โปรดกลับมาเติมใจให้สักหน่อย
ฉันยังคอยเธอชิดสนิทสนม
อย่าทิ้งร้างปล่อยไว้ให้ตรอมตรม
ร้าวระบมกลืนกล้ำช้ำเหลือทน
น้ำตาฉันร่วงหล่นลงบนพื้น
จะขมขื่นดวงฤดีอีกกี่หน
คว้าเพียงเงาเคว้งคว้างกลางมืดมน
น้ำตาล้นไหลรี่อีกกี่วัน
เอากลับไปคำว่าต้องลาจาก
ให้มันพรากหนีไปไกลจากฉัน
ร้อยรวมรักความเข้าใจให้แก่กัน
ย้ำคำมั่นสัญญาว่าไม่ลืม
15 ธันวาคม 2548 21:11 น.
เรไร
ยามดึกดื่นคืนนี้พี่ห่วงเจ้า
จะเหว่ว้าเงียบเหงาหรือเปล่าหนอ
จะมีใครเคียงเจ้าพะเน้าพะนอ
มีใครรอคอยรับซับน้ำตา
จะเหน็บหนาวร้าวรานสะท้านจิต
จะมีมิตรห่วงใยหรือไม่หนา
จะมีใครกล่อมนอนก่อนนิทรา
จะมีใครห่มผ้ายามราตรี
จะมีไหมอ้อมอกอันอบอุ่น
อ่อนละมุนอุ่นไอมิหน่ายหนี
จะมีไหมใครร่ายคำพร่ำวลี
เป็นกวีแสนหวานซ่านซึ้งใจ
จะมีไหมเพลงหวานประสานเสียง
ส่งสำเนียงกล่อมขวัญยามหวั่นไหว
ดับทุกข์ตรมถมทับเลือนลับไป
ปลอบฤทัยให้หายคลายกังวล
หากไม่มีใครเลยเคยห่วงหา
โปรดจงหันกลับมาคราสับสน
เจ้าจงรู้เอาไว้ใครอีกคน
พร้อมยอมทนรับความท้อทรมาน
พี่คนนี้ขอบรรเลงบทเพลงกล่อม
เพียงเจ้าพร้อมจงสดับเสียงขับขาน
มาฟังเพลงแสนสุขปลุกวิญญาณ
เรื่องทุกข์ทนร้าวรานให้ผ่านเลย
หากได้ยินเสียงไหวของใบไม้
เปิดหัวใจเถิดหนาอย่าวางเฉย
รับรู้ความอบอุ่นที่คุ้นเคย
พี่จะเผยความในให้เจ้าฟัง
15 ธันวาคม 2548 17:10 น.
เรไร
มาเถอะฟังเรื่องราวแต่คราวหลัง
โปรดมานั่งล้อมวงตรงนี้ก่อน
หากเมื่อยนักเอนหลังลงล้มตัวนอน
แล้วพักผ่อนทำใจให้สบาย
มีนิทานเรื่องเก่ามาเล่าขาน
ครั้งโบราณมีศาสตราอาวุธร้าย
ฆ่าผู้คนด้วยคมจนล้มตาย
ต้องฉิบหายพลัดพรากจากวิญญาณ
ก็คือขวานด้ามหนึ่งซึ่งวิเศษ
มีฤทธิ์เดชมากมายมหาศาล
แม้นพระอินทร์บนสวรรค์ชั้นวิมาน
ยังสะท้านจิตขยาดคิดหวาดกลัว
แม้โขดเขินเนินดินถึงหินผา
ขวานก็ผ่าจนแตกแหลกไปทั่ว
แม้ท้องฟ้าเคยสว่างยังมืดมัว
แสงสลัวขวานฟันฉับดับตะวัน
แม้จิตใจผุดผ่องของมนุษย์
ยังสะดุดถูกถากถางกลางความฝัน
ต้องตรอมตรมทุกข์เทวษเอนกอนันต์
เพราะขวานบั่นจนยับดับสิ้นไป
มีที่หนึ่งรอดพ้นซึ่งคมขวาน
มิแหลกรานยังยืนยงอย่าสงสัย
ก็คือด้ามของมันนั่นยังไง
มันมิได้แตะต้องให้หมองมัว