11 กุมภาพันธ์ 2549 02:24 น.
เรไร
เพียงพบเพื่อพลัดพรากจากจึงเจ็บ
กายกอดเก็บกล้ำกลืนสะอื้นหา
น้ำเนตรนองเนืองนิจเป็นกิจจา
หวังไว้ว่าวันวานจงผ่านไป
จิตเจ้าเจ็บจดจำคำที่บอก
ลิ้นลวงหลอกลมเล่ห์แสร้งเฉไฉ
คำคุ้นเคยคุณค่าราคาใด
ร้าวรานไร้รักแล้วมิแคล้วตรม
เอาอกอิงแอบอ้างความว่างเปล่า
ฤๅรักเราร้างลาพาขื่นขม
สุดโศกเศร้าสงสารใจซานซม
ใช้ชอกช้ำเชยชมสาสมใจ
10 กุมภาพันธ์ 2549 00:53 น.
เรไร
ใครเขามองดวงเพ็ญงามเด่นฟ้า
แสงนวลตาเย้ายวนชวนลุ่มหลง
หากอ่อนไหวไปแล้วไม่แคล้วคง
ต้องนั่งปลงจิตเพ้อเผลอคร่ำครวญ
อาจงดงามบริสุทธิ์ช่างผุดผ่อง
ยามเมื่อมองหัวใจให้โหยหวน
หากพินิจให้ดีขอชี้ชวน
จ้องแสงนวลมองไปให้สุดตา
ฤ ตัวข้าคงเป็นเช่นกระต่าย
หลงงมงายจันทร์เจ้าบนราวฟ้า
มิเคยติดตั้งสติพิจารณา
ความจริงว่าสิ่งที่เห็นเป็นเช่นไร
ผิวขรุขระเป็นตะปุ่มมากหลุมบ่อ
แต่เมื่อพอแสงทาบกลับสดใส
ช่างงดงามหากจ้องมองแต่ไกล
เพื่อหลอกให้ใครคว้ามาเชิดชู
กระต่ายดงหลงใหลไม่ทันคิด
เผลอพลาดผิดรันทดทนอดสู
เห็นแสงนวลคราใดไม่อยากดู
บอกให้รู้ไว้ว่าข้าชังจันทร์
8 กุมภาพันธ์ 2549 23:48 น.
เรไร
อนาคตใฝ่ฝันว่าวันหนึ่ง
จะไปถึงที่สูงสุดในจุดหมาย
แม้นตรากตรำเหนื่อยยากลำบากกาย
เหมือนปีนป่ายโขดเขินขึ้นเนินชัน
ทุ่มพลังที่มีทั้งชีวิต
ถูกหรือผิดวิถีทางต่างแข่งขัน
ความยิ่งใหญ่โดดเด่นเป็นเดิมพัน
ให้บากบั่นมุ่งไปถึงปลายทาง
ไม่มีเพื่อนคู่คิดหรือมิตรแท้
คงมีแค่คู่แข่งคอยขัดขวาง
จึงเหยียบบ่าขึ้นไปไม่เว้นวาง
เพียงเพราะต่างมุ่งมั่นฝ่าฟันมา
ค่อยล้มหายตายจากไปมากโข
ที่เหลือโซซมซานก็ควานหา
ความสำเร็จน้อมใส่ให้ชีวา
ต่างเข่นฆ่าฟาดกันให้บรรลัย
เหลือแค่เพียงนักสู้ผู้พิชิต
แต่ดวงจิตทรมานสะท้านไหว
ฝ่าความยากลำเค็ญถึงเส้นชัย
แล้วไฉนจึงอยู่เพียงผู้เดียว
เพราะยิ่งสูงยิ่งเจ็บยิ่งเหน็บหนาว
ต้องปวดร้าวร้างไร้ใครแลเหลียว
อยากโดดเด่นเกินใครท่องไว้เชียว
ต้องโดดเดี่ยวหดหู่อยู่ลำพัง
5 กุมภาพันธ์ 2549 02:38 น.
เรไร
จะกี่วันผันผ่านนานแค่ไหน
จะยาวไกลเส้นทางที่ห่างเหิน
จะกี่หมื่นพันก้าวที่ก้าวเดิน
จะกี่เนินขุนเขาที่เราไป
ขอแค่เพียงฤดีแค่มีหวัง
ขอพลังศรัทธาอย่าหวั่นไหว
ขอความรักตราตรึงซึ้งหัวใจ
ขออย่าได้หน่ายแหนงแกล้งเบื่อกัน
รอตรงนี้รอเสมอดั่งเพ้อหา
รอเวลาพบได้แค่ในฝัน
รออยู่ในนิยามความผูกพัน
รอคืนวันหัวใจได้พบเธอ
เพียงนิทราหลับลง ณ ตรงนี้
เพียงราตรีหนึ่งนั้นฉันเสนอ
เพียงหัวใจดวงน้อยคอยละเมอ
เพียงปรนเปรอมอบไว้ทั้งใจกาย
เธอเท่านั้นหาใครที่ไหนเทียบ
เธอผู้เปรียบเกินฝันที่มั่นหมาย
เธอผู้เดียวที่รักมั่นตราบวันตาย
เธอคือคนสุดท้ายของหายใจ
31 มกราคม 2549 09:14 น.
เรไร
เพื่อนเอ๋ย
เจ้าคิดหวังสิ่งใดให้ชีวิต
มองสิ่งถูกหรือผิดคิดไฉน
จะตัดสินดีเลวทำเช่นไร
ด้วยหัวใจ ฤ ความจริงสิ่งที่เป็น
ความฝัน
เจ้าระเริงลุ่มหลงใหล ฤ ได้ปลื้ม
ถึงทำลืมเงาแสงแห่งทุกข์เข็ญ
ตะเกียกตะกายคอยเฝ้าทุกเช้าเย็น
หวังมองเห็นจ้องจับจินตนา
จินตนาการ
เจ้าอยู่กับความอยากที่มากล้น
แสนสับสนเพราะใจมันใฝ่หา
สิ่งเกินจริงหลงเสน่ห์เล่ห์มารยา
เฝ้าไขว่คว้ามากมายเท่าไหร่กัน
ความหวัง
เจ้าจะปีนขึ้นสู่ยอดภูผา
เพื่อตามล่าความงามอร่ามฝัน
ที่สูงค่ากว่าใครไหนเทียมทัน
ฤ มิหวั่น ฤ ประเมินว่าเกินตน
ความจริง
เจ้าอยู่กับความจริงสิ่งใดเล่า
ความว่างเปล่ารอบกายไร้เหตุผล
กับไขว่คว้าเคว้งคว้างอย่างกังวล
ฤ ยอมทนกับความจริงสิ่งที่มี