29 พฤษภาคม 2549 01:18 น.
เรไร
ดอกดาวเริ่มผลิบาน.................เด่นตระการเมื่อพลบค่ำ
พอฟ้าเริ่มมืดดำ........................พราวระยับงามจับตา
สายลมพัดผะแผ่ว.....................จากเทือกแถวแนวภูผา
ผ่านดงพงพนา..........................สู่ชายคาวิมานดิน
แว่วเพียงเสียงบรรเลง................ของบทเพลงให้ได้ยิน
ปลอบหวังที่พังภินท์...................กล่อมชีวินสิ้นร้าวราน
หลับตาเถิดน้องน้อย...................พี่จะคอยเฝ้าขับขาน
บทเพลงแห่งตำนาน...................คลอผสานเสียงดนตรี
หรีดหริ่งระงมร้อง.....................ท่วงทำนองแห่งสุขี
คล้ายพจน์บทกวี........................จากฤดีที่เฝ้าวอน
โปรดเถิดจงหลับตา...................แล้วซบหน้าลงกับหมอน
สวรรค์ประทานพร......................นิทราก่อนแล้วพบกัน
จะขอเก็บดอกดาว......................ระยับวาวบนฟ้านั่น
มอบเป็นของกำนัล......................ในความฝันทุกราตรี
ขอเป็นแค่คนนั้น.........................คนในฝันมิหน่ายหนี
ตราบฟ้ายังปรานี........................ไม่ขีดขั้นฝันของเรา
25 พฤษภาคม 2549 14:41 น.
เรไร
ฉันโง่เง่าเขลาขลาดไม่ปราชญ์เปรื่อง
มิรู้เรื่องกวีกานท์งานอักษร
อยากเรียนรู้อยากเด่นเป็นนักกลอน
ขอวิงวอนช่วยชี้วิธีการ
ถ้าอยากดังอยากเด่นเป็นนักเขียน
จงพากเพียรบากบั่นขยันอ่าน
มุ่งมานะต่อไปอีกไม่นาน
สนุกสนานกับอักษรกลอนกวี
หรืออย่างเด่นเห็นว่ามีทางลัด
ต้องปากจัดยัดเยียดคำเสียดสี
เปิดประเด็นขายข่าวคาวโลกีย์
ต้องลอบกัดอย่างนี้สิเด่นชัวร์
หรือวางตัวให้เด่นเป็นสามารถ
เก่งฉกาจเรื่องกลอนสอนไปทั่ว
ถ้าหากว่าใครคิดผิดจากตัว
ด่าเขามั่วไว้ก่อนสอนไม่จำ
หรือต้องยอปากหวานหว่านไปเรื่อย
ก๊อปจนเมื่อทุกกระทู้ให้ดูขำ
เขียนดีจ้าชอบจังจ้าต้องกล้าทำ
เที่ยวพูดพร่ำรับรองว่าต้องดัง
หรือต้องเก่งบริหารหว่านเสน่ห์
แสร้งทำเฉหมั่นวางสร้างความหวัง
ให้คนบอกมีเสน่ห์ แหม๊ เท่ห์จัง
รับรองดังเป็นพลุแตกจนแปลกใจ
วิธีการกล่าวมาสารพัด
หากชี้ชัดเจาะจงคงมิไหว
มันยากแท้อยากดังทำยังไง
ถึงจะได้ปาดเปรื่องคนเลื่องลือ
25 พฤษภาคม 2549 10:11 น.
เรไร
คำบางคำยอดเยี่ยมเปี่ยมความหวัง
สร้างกำลังแรงใจให้ฮึกเหิม
คำบางคำเหยียบย่ำเหมือนซ้ำเติม
คล้ายดั่งเพิ่มทุกข์ถมระทมใจ
คำบางคำออดอ้อนซ่อนคำหวาน
จนซึ่งซ่านรื่นอุราจะหาไหน
คำบางคำส่อเสียดถ้าเกลียดใคร
บันดาลให้ชีวาตม์อาจมืดมน
คำบางคำสร้างสรรค์จรรโลงโลก
ดับความโศกพร้อมดับความสับสน
คำบางคำทำลายค่าราคาคน
เพียงลมพ่นร้ายกาจดุจศาตรา
คำบางคำเมื่อสดับได้รับรู้
ระรื่นหูดังวาดปรารถนา
คำบางคำทำลายสิ้นแม้วิญญาณ์
พิฆาตฆ่าให้วอดวายตายทั้งเป็น
คำบางคำรับทราบแล้วซาบซึ้ง
คอยคะนึงถึงมิตรแท้แม้ทุกข์เข็ญ
คำบางคำคอยเชือดอย่างเลือดเย็น
เปิดประเด็นชี้ชวนกวนตะกอน
คำบางคำชี้ทางสว่างไสว
คือคำใจสร้างหวังคอยสั่งสอน
คำบางคำทำฝันให้สั่นคลอน
จงคิดก่อนจะพูดบ้างกับบางใคร
24 พฤษภาคม 2549 10:43 น.
เรไร
เจ้าจงจดจำค่ำคืนนี้
ราตรีเงียบงันวันสุดท้าย
น้ำตารินหลั่งลงพรั่งพราย
รักสลายเราสองต้องจากกัน
ท่ามกลางมืดมนอันขมขื่น
โศกสะอื้นดวงแดมิแปรผัน
อยากตัดเยื่อใยสายสัมพันธ์
ไหวหวั่นน่าอนาถมิอาจปลง
ไม่อาจค้นคว้าถึงสาเหตุ
อาเพศล้อมรุม ฤ ลุ่มหลง
หรือรักเคยปลื้มลืมไม่ลง
มึนงงสงสัยใครบันดล
หากแม้ดวงจิตคิดเกรี้ยวโกรธ
อย่าโทษโปรดคะนึงถึงเหตุผล
สิ่งไม่ชอบธรรมย่ำกมล
สติตนตั้งมั่นอย่าสั่นคลอน
รู้ไหมอุราข้าโดดเดี่ยว
เปล่าเปลี่ยวกลัดกลุ้มด้วยรุ่มร้อน
แต่รับโศกาไม่อาวรณ์
สั่งสอนหัวใจไม่ให้แพ้
เพียงร่างและใจย่อมตระหนัก
คุณค่าของรักที่เที่ยงแท้
ยืนยงคงมั่นมิผันแปร
แน่วแน่คงมั่นเพียงขวัญใจ
หากแม้ความหลังครั้งพลาดผิด
มิครวญครุ่นคิดจะผิดไหม
ปล่อยวางนิ่งเฉยผ่านเลยไป
วางไว้เถิดหนาอย่ากังวน
เรื่องราวมากมายอยู่ในโลก
เศร้าโศกทุกข์เทวษไร้เหตุผล
ลึกลับซับซ่อนดั่งซ่อนกล
ยากค้นยากเฉลยเผยให้ฟัง
14 พฤษภาคม 2549 21:49 น.
เรไร
คือตัวเรานั่นไงใช้ชีวิต
เลือกลิขิตทางไปดังใจฝัน
จากอดีตเรียนรู้สู่ปัจจุบัน
มิหวาดหวั่นอนาคตคงงดงาม
เลือกเส้นทางสันโดษอาจโดดเดี่ยว
เพียงผู้เดียวเลือกเองอย่าเกรงขาม
อย่าก่อเพลิงแห่งทุกข์จนลุกลาม
พยายามดับไฟที่ใจตน
พสุธาแผ่นพื้นรอกลืนซาก
ถ้าตายจากผู้ใดใครจะสน
ต้องเตรียมตัวเตรียมใจหากวายชนม์
อย่ากังวนใครอยู่คู่ฟ้าดิน
ไม่มีใครปลอบใจในยามทุกข์
ล้มไม่ลุกหมดหวังพลังสิ้น
มัวร่ำร้องหน้าไหนใครได้ยิน
คงกลืนกินน้ำตาแสนจาบัลย์
หากว่าล้มแล้วลุกลืมทุกข์โศก
มามองโลกชอกช้ำให้ขำขัน
คิดเสียว่าพลาดพลั้งก็ช่างมัน
ยังมีวันข้างหน้าให้ท้าทาย
หากเปล่าเปลี่ยวอ้างว้างกลางวิถี
หนทางที่ไปถึงซึ่งจุดหมาย
อาจเหว่ว้าลำพังซังกะตาย
จนกว่ากายพลัดพรากจากวิญญาณ