8 กันยายน 2549 23:16 น.

จากภูผาถึงทะเล

เรไร


ช่วงเวลาวัยวันได้ผันผ่าน
ดูเนิ่นนานเหลือเกินถูกเมินเฉย
มีแต่ความเงียบเหงาใจเจ้าเอย
คงคุ้นเคยโดดเดี่ยวเพียงเดียวดาย

จากแผ่นดินถิ่นฐานของบ้านเกิด
ต้องเตลิดดิ้นรนทนขวนขวาย
สู่เส้นทางทุกข์ยากลำบากกาย
ทุรนทุรายร่อนเร่พเนจร

ผ่านวิถีทอดยาวทนก้าวย่าง
สู่หนทางข้ามโขดเขินเนินสิงขร
สู่ภูผาขุนเขาเฝ้าอาวรณ์
พบเพียงดอนแดนดินไร้วิญญาณ

ท่ามกลางความเวิ้งว้างที่ว่างเปล่า
บนยอดเขาไร้สำเนียงเสียงขับขาน
เพราะมีเพียงเสียงร้องก้องกังวาน
สะท้อความร้าวรานที่ผ่านมา
	
เก็บนำความชอกช้ำระกำจิต
ซากชีวิตหดหู่จากภูผา
กับความหวังแสนอนาถปาดน้ำตา
หลงไขว่คว้าความหมายไม่เป็นจริง

ออกเดินทางตามหวังครั้งสุดท้าย
โดยเดียวดายหวังพบทางสงบนิ่ง
เพราะร่างกายเหนื่อยนักอยากพักพิง
อยู่กับความสุขจริงยิ่งกว่าใคร

สู่เส้นทางรับลมชมคลื่นเห่
เห็นทะเลห้วงมหาชลาศัย
จากฟากฝั่งเวิ้งว้างสุดกว้างไกล
จะมองเห็นเช่นไรที่ปลายทาง

มีเพียงคลื่นสาดซ้ำกระหน่ำซัด
สายลมโบกโบยพัดคอยขัดขวาง
ให้ความหวังลอยเลื่อนเริ่มเลือนลาง
จนลอยคว้างห่างหายกับสายธาร

จากภูผาถึงทะเลเคยเร่ร่อน
พเนจรหมอนบิ่นคืนถิ่นฐาน
หอบหัวใจร้าวระทมทนซมซาน
ลากสังขารย่อยยับกลับคืนเรือน

ดอกลั่นทมหน้าบ้านเริ่มบานแล้ว
กลิ่นดอกแก้วชื่นใจหาใดเหมือน
เสียงนกร้องดั่งคำคอยย้ำเตือน
ยังมีเพื่อนมิตรแท้เหลือแค่เงา
				
29 สิงหาคม 2549 09:55 น.

always on my mind

เรไร


อาจดูเหมือนว่าจะชาเฉย
ละเลยคุณค่าคำว่ารัก
วันนี้หัวใจได้ตระหนัก
ยากนักรักใครได้สักคน

อาจเพราะหมางเมินทำเหินห่าง
ให้เธออ้างว้างอย่างสับสน
เปล่าเปลี่ยวเดียวดายในมืดมน
หมองหม่นเหว่ว้าแสนอาลัย

อาจมองข้ามผ่านไม่ทันคิด
อาจผิดมองข้ามความอ่อนไหว
เหตุผลยากนักจักเข้าใจ
เหมือนไม่สักทีมีเวลา

อาจไม่มีฉันในวันเหงา
วันเศร้าปล่อยเธอให้เพ้อหา
จนเจ็บขื่นขมจมน้ำตา
เหมือนว่าเรานี้ไม่มีกัน

อาจทำแชเชื่อมิเอื้อนเอ่ย
เปิดเผยความหมายในใจฉัน
บอกถึงนิยามความสัมพันธ์
สุขสันต์เคียงอยู่เป็นคู่ครอง

หรือแม้บางคำทำเหยียดหยาม
สร้างความทุกข์ทนแสนหม่นหมอง
ให้เธอกลัวเป็นตัวสำรอง
จนต้องเพ้อคอยอย่างน้อยใจ

ล้านคำขอโทษบนโลกนี้
หากมีจักพอขอได้ไหม
แม้เพียงยินยอมพร้อมอภัย
กับคนมีใจให้เพียงเธอ

อยากให้รับรู้ความรู้สึก
ยังนึกตราตรึงคิดถึงเสมอ
ทุกอณูใจเหงาเฝ้าละเมอ
You were always on my mind.
				
27 สิงหาคม 2549 01:28 น.

เพราะพรุ่งนี้ไม่มีเธอ

เรไร


ก่อนจะถึงอรุณรุ่งของพรุ่งนี้
ขอคนดีอย่าเป็นอื่นคืนสุดท้าย
มิอาจทนเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดาย
ทุรนทุรายชอกช้ำเพียงลำพัง

เพราะว่าวันพรุ่งนี้ไม่มีแล้ว
หมดสิ้นแววสุขล้นแต่หนหลัง
ต่อไปนี้ทุกข์ถาโถมโหมประดัง
เพราะหมดหวังท้อแท้เหลือแค่เงา

ขอคืนนี้ได้ปลื้มคอยดื่มด่ำ
ความทรงจำงดงามไว้ยามเหงา
เพื่อประโลมหัวใจให้บรรเทา
พร้อมรับความหม่นเศร้าที่เข้ามา

ขอหัวใจได้พบความอบอุ่น
อ่อนละมุนที่เพ้อละเมอหา
ขอนอนหนุนแนบตักอีกสักครา
เพียงนิทราคืนนี้เรามีกัน

ไม่อยากให้จิตรมต้องขมขื่น
ไม่อยากตื่นพลัดพรากจากความฝัน
ไม่อยากพบโศกสะอื้นทุกคืนวัน
ไม่อยากหวั่นว่าพรุ่งนี้ไม่มีเรา
				
22 สิงหาคม 2549 23:57 น.

ห้วงอารมณ์

เรไร


เมื่อสายน้ำระเรื่อยไหลไม่เคยย้อน
รักมาจรจากไปไม่คืนหวน
ทำหัวใจหม่นเศร้าเฝ้าเพ้อครวญ
สุดปั่นป่วนรักเมินเกินจะทน

คอยคำนึงถึงกันเมื่อวันเก่า
ที่สองเราคู่ร่วมสุขทุกแห่งหน
ทั้งภูเขาหาดทรายริมสายชล
เราสองคนเคียงข้างมิห่างกาย

ยามราตรีร่วมเตียงเคียงเขนย
ได้ชิดเชยเคียงข้างมิห่างหาย
ให้ร้อนรุมสับสนกระวนกระวาย
มิแหนงหน่ายสักนาทีเมื่อมีกัน

เพียงโอบกอดยามนิทราหาไออุ่น
อ่อนละมุนจิตรัญจวนชวนใฝ่ฝัน
รสจุมพิตหวานล้ำเกินรำพัน
ต้องไหวหวั่นอารมณ์ยากข่มใจ

เหมือนหยาดน้ำรินรดหยดลงหิน
เป็นอาจินต์ฉะเฉี่อยระเรื่อยไหล
ยังสิ้นแกร่งบิ่นขาดวินาศได้
แล้วเนื้อในดวงมานหรือทานทน

ดั่งปลาน้อยแหวกว่ายในห้วยละหาน
สู่ต้นน้ำลำธารหวังผ่านพ้น
หลงอยู่ในปทุมงามกลางสายชล
สู่วังวนเชี่ยวกรากกระชากลง

ในห้วงแห่งกระแสสินธุแทบสิ้นชีพ
สะบัดครีบโบกหางอย่างกลัวหลง
หากเรี่ยวแรงหมดแล้วไม่แคล้วคง
ยากอยู่ยงยั่งยืนถูกกลืนกิน

หวังผ่านพ้นคงคาเจ้าปลาน้อย
จึงค่อยค่อยเกี่ยวเกาะเลาะโขดหิน
ผ่านวังวนเส้นทางกลางวาริน
ยังถวิลวังน้ำวนแม้พ้นมา

แต่สายน้ำไหลไปไม่เคยย้อน
เธอจากจรลับไปไม่เห็นหน้า
เหลือทิ้งไว้รอยช้ำกับน้ำตา
ปรารถนาพ่ายแพ้เหลือแค่เงา
				
15 สิงหาคม 2549 18:15 น.

เพราะความรักเข้าตา

เรไร


จะขอฝากเรื่องราวป่าวประกาศ
หยิบกระดาษปากกามาขีดเขียน
เฝ้าครุ่นคิดหลายหนยังวนเวียน
จึงขอเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน

บอกน้องต่ายคนดีที่พิจิตร
บอกน้องนิดน้องหน่อยของร้อยฝัน
ฝากไปบอกกิ๊กเก่าเดาอังคัน
ภูตะวันช่วยร้องฝากน้องวา

ฝากสายลมให้ประจักษ์อีกสักครั้ง
บอกเด็กตรังนั่งงงอยู่สงขลา
บอกน้องเหมียวอยู่โพ้นทะเลอเมริกา
แก้วนิดาไม่ลืมจ๊ะอยู่ระยอง

อยากให้ช่วยเจรจาบอกป้าหมู
ให้คุณครูตัวใหญ่ไร้เจ้าของ
โปรดนำสารนำความตามทำนอง
จากหอห้องแห่งห้วงดวงฤดี

ด้วยชั้นเชิงหัวใจเหมือนไก่อ่อน
อยากขอวอนให้รักเป็นสักขี
ด้วยเยื่อใยผูกพันนานนับปี
แต่ผมนี้ขอเอ่ยเผยความนัย

เพราะปีกฟ้าเปิดประเด็นให้เป็นเรื่อง
ระคายเคืองเจ็บตาพาหวั่นไหว
รักเข้าตาอยู่ตลอดจะกอดใคร
ทำหัวใจรันทดอดใช้งาน
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเรไร
Lovings  เรไร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเรไร