ปลาซิว
สะพั่งสะท้านไมภพ
เสียงรถหวอ ดังว่า ตายแหน่ ๆ ๆๆๆๆๆ ผ่านไปในยามค่ำคืน ผม สะพั่ง สะท้านไมภพ นอนบนเตียงอ่อนนุ่มในยามค่ำคืน แม้อากาศจะเย็นสบายในหน้าหนาว แต่ทว่าความเครียดในเรื่องต่างๆประดังเข้ามาอย่างเป็นระลอกของคลื่น ระลอกแล้ว ระลอกเล่า ทำไมหนา ทำไมน้า ผมพึมพัมไปตามเรื่องเท่าที่ทำได้
ผมคิดถึงวิธีทำสมาธิ หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ ผมคิดถึงมหาสติปัฏฐานสี่ แต่ทว่า ผมไม่อยากทำ มันไม่สงบพอที่จะทำใจได้
ผมลงไปข้างล่างและออกไปสูบบุหรี่นอก พ่นควันออกจากปากและจมูก และมองดูท้องฟ้า ดวงดาว และอากาศยานที่บินเห็นแสงแว๊บๆลิบๆ
แม้จะสูบจนหมดมวลแล้วก็ตามแต่ทว่า เหมือนเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมเดินเซนิดๆด้วยความมึนเมาบุหรี่ กลับเข้าบ้าน
ผมมองดูที่นอนเมียของผมที่ว่างเปล่า
ผมไม่อาจจะทนไหวต่อไป
ผมเครียดเรื่องการงาน ผมเครียดเรื่องเงิน แต่ที่ทนไม่ไหวเลยก็คือเรื่องความเข้าใจผิดของภรรยา
เมื่อฝ่ายหนึ่งพูดด้วยความรักแท้ และอีกฝ่ายหนึ่งแม้จะเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจในรัก แต่ทว่ารักที่แท้ย่อมจะสามารถส่งผ่านและถ่ายเทให้สมดุลย์กันได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
ในที่สุดการถ่ายเทความรักต่อกันก็เท่าเที่ยมกัน
ผมมาย้อนดูปัญหาของผม หากจะคิดว่าเศรษฐกิจไม่ดีแล้วก็ตีโพยตีพาย มือเท้าอ่อนงอมือรอความตายแล้วละก็
ใจปลาซิวจริงๆ
ใจมด
ผมสรรหาคำมาต่อว่าตัวผมเองจนคิดไม่ออก
ผมด้วยหัวใจที่มีพลังของความรัก และลูกอึด ก็ตั้งใจว่าจะต่อสู้กับคลื่นยักษ์ซึนามิของชีวิตด้วยความเข้มแข็ง
ที่พูดมาทั้งหมดนี่ เรื่องความรักผ่านฉลุย
แต่เรื่องปากท้องยังไม่รู้
สู้ต่อไปพั่ง สู้ สู้