นายอติรุจน์ เสียงครูเรียก เด็กชายอติรุจน์เสียงดังฟังชัดหน้าเสาธงในตอนเช้า รุจน์ หรืออติรุจน์เดินออกไปกอดอกรอรับโทษ เพี๊ยะ ๆๆเสียงไม้เรียวที่กระทบเรียวน่องนั้นมันดังและบาดลึกเข้าไปในหัวจิตหัวใจอย่างบอกไม่ถูก นักเรียนทุกคนเงียบกริบแทบจะกลั้นลมหายใจ รุจน์เพื่อนนักเรียนชั้นประถม 4 ที่มาเรียน มั่ง ไม่มามั่ง แล้วแต่อารมณ์หรือถ้ามาก็อาจจะนั่งเรียนซักครึ่งวัน นอกนั้นก็จะหลบไป หาปูหาปลาไปตามเรื่อง วันนี้ รุจน์ถูกทำโทษเนื่องจากชกต่อยกับเพื่อนในห้องสาเหตุมาจากเพื่อนล้อ รุจน์โมก เจ๋งยื่นหน้าหยอกล้อรุจน์ ซึ่งรุจน์ไม่ชอบให้ใครเรียกเขาแบบนี้ ที่จริงผมก็ชอบมองรุจน์เพราะรุจน์มีดวงตาที่กลมโตริมฝีปากหนา และตัวเตี้ย แต่ก็เป็นคนมีน้ำใจดี แต่คำว่า โมกเป็นภาษาเหนือ แปลว่าใหญ่มาก และเพราะเหตุนี้เพื่อนๆจึงเรียกรุจน์ลับหลังว่า รุจน์โมก มึงอย่ามาเรียกกูแบบนี้นะ รุจน์ตะเบ็งเสียงใส่เจ๋ง กูไม่ชอบ เดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เตือน รุจน์ไม่พูดเปล่าแต่ลุกพรวดขึ้นตั้งท่าเอาจริง มึงจะทำอะไรกูหา ไอ้รุจน์โมกเจ๋งไม่ยอมอ่อนข้อและยังแลบลิ้นปลิ้นตายั่วเย้าหนักข้อยิ่งขึ้น กูจะทำอะไรเหรอ ไม่พูดเปล่า รุจน์ประเคนกำปั้นลงบนใบหน้า ของเจ๋งแบบไม่นับ นายเจ๋งถึงกับทรุดฮวบลงไปกับพื้น ครูครับๆนักเรียนตีกันครับ ครูต้อยเดินผ่านมาพอดี นักเรียนในห้องรีบรายงาน ครูต้อยรีบวิ่งมายังที่เกิดเหตุ ใครตีกับใครครูต้อยร้องถาม นายรุจน์ตีนายเจ๋งซะหมอบเลยครับนอกจากรายงานครูแล้ว นายแก้วยังทำท่าทางให้ดูด้วย นายรุจน์ นายเจ๋งตามครูไปห้องครูใหญ่ ครูต้อยออกคำสั่ง ครับเด็กทั้งสองขานรับคำสั่งพร้อมกัน และจากการสอบสวนครูใหญ่จึงตัดสินว่าพรุ่งนี้ครูจะเฆี่ยนเธอหน้าเสาธงตอนเข้าแถว นายรุจน์เธอจะถูกเฆี่ยน 3 ทีเข้าใจมั้ย โทษที่เธอไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจและลงมือรุนแรงเกินกว่าเหตุ ครูใหญ่สาธยายความผิดให้ฟัง ครับรุจน์ตอบโดยไม่ลังเลและไม่ปฏิเสธในคำกล่าวโทษนั้น ส่วนนายเจ๋งเธอจะถูกเฆี่ยนด้วย 1 ทีข้อหาที่เธอไปยั่วยุนายรุจน์และต่อไปห้ามเรียกนายรุจน์แบบนั้นอีกเข้าใจในโทษของเธอไหม ครับนายเจ๋งรับคำและยังทำหน้าเจ็บว่าที่โดนมานั้นยังเจ็บอยู่ ไปได้แล้ว พรุ่งนี้ห้ามขาดเรียนเด็ดขาดไม่อย่างนั้นโทษพวกเธอจะเพิ่มเป็น 2 เท่าครูใหญ่สำทับ ครับๆเด็กทั้ง 2 รับคำพร้องทั้งยกมือไหว้ทำความเคารพก่อนออกจากห้องไป รุจน์จริงๆแล้วเค้าเป็นคนน่ารัก เวลาเพื่อนมีอะไรก็เรียกใช้ได้ตลอด ยกเว้นเรื่องเรียน รุจน์เรียนไม่รู้เรื่องและปีนี้ก็สอบตกเป็นปีที่ 3 แล้ว เพื่อนๆในห้องบางคนก็กลัวเพราะบางครั้งรุจน์จะดุแต่บางครั้งรุจน์จะอารมณ์ดีมากไม่ค่อยถือสาหาความกับใครนัก แต่สำหรับกับผม รุจน์เป็นฮีโร่ของผมเลยทีเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเหงาๆไม่รู้จะไปไหนทำอะไรก็เบื่อไปหมด แล้วรุจน์ก็เดินผ่านมาที่สะเอวมีข้องใบเขื่องผูกติดอยู่ รุจน์นายจะไปไหนผมตะโกนถาม จับปลาเสียงรุจน์ตอบมาด้วยความมั่นใจ นายจับได้เหรอ ไม่เห็นมีอุปกรณ์อย่างอื่นเลยผมสงสัย มือเปล่าๆเนี่ยน่ะจะไปจับปลา เออ!มือเปล่านี่แหละรุจน์ยืนยัน ไปด้วยได้มั้ยผมเสนอตัวทันทีบอกจริงๆว่าอยากเห็นและกำลังเหงาอยากหาอะไรทำ เมื่อรุจน์ไม่ปฏิเสธ ผมจึงรีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามรุจน์ไป รุจน์พาผมไปหาปลาในนาซึ่งน้ำแห้งขอดบ้างแล้ว ชั่วเวลาไม่นานรุจน์ก็ได้ปลาเต็มข้องใบเขื่องนั้น ผิดกับผม ผมจับปลาไม่ได้เลยผมลงไปงมหาปลาแล้วเจอปลาหมอ แต่ผมจับไม่ได้ปลาหมอแถกเหลือกและกางครีบกระจายผมเลยไม่กล้าจับและเมื่อปลาเต็มข้องแล้วรุจน์จึงหันมาหาผมแล้วบอกว่า เอาข้องนายมาเดี๋ยวเราจับให้รุจน์ไม่พูดเปล่าแต่ตรงเข้ามาแกะเชือกผูกเอวเอาข้องของผมไปแล้วก็จับปลาลงไปในข้องของผม ทำไมนายจับปลาเก่งอย่างนี้ล่ะผมถามเพราะผมพยายามแล้วดักหน้าดักหลังปลาก็ยังหนีไปได้ทุกที มันไม่ยากหรอกแต่เพราเราชอบและเราทำบ่อยจนรู้สัณชาดญาณของปลาและรู้ว่าปลาชนิดไหนควรจับอย่างไร มันถึงจะเอาอยู่ผมได้แต่ฟังอย่างตั้งใจ แต่ผมก็คงทำไม่ได้หรอกและอีกอย่างผมคงไม่เคยฆ่าสัตว์และก็คิดเหมือนกันว่าจะบาปหรือเปล่า พอเห็นว่ารุจน์จับมาไห้พอสมควรผมจึงบอกว่า พอเหอะ! แค่นี้ก็มากเกินไปแล้ว เราขอบใจนายมากนะ เรานี่ไม่ได้เรื่องเลย นายเรียนเก่งนี่ เรื่องอย่างนี้นายไม่ถนัดเท่านั้นเอง แต่เราเรียนยังไงก็ไม่รู้เรื่องรุจน์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง เอาอย่างนี้สิ นายมาบ้านเราทุกเย็นสิ เราจะสอนการบ้านให้อันไหนไม่เข้าใจ เราจะช่วยนายเองผมบอกรุจน์และผมก็ตั้งใจจะทำอย่างนั้นจริงๆเพราะผมเห็นความมีน้ำใจของเขาและผมรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก นายให้เรามาบ้านนาย แล้วนายสอนการบ้านเราจริงเหรอรุจน์กระตือรือร้น จริงสิปีนี้นายจะเรียนจบพร้อมกับเราแน่นอน เราสัญญาผมยื่นมือให้รุจน์จับรุจน์จับมือผมมั่นเหมือนจะบอกว่าสัญญากะเราแล้วนะ รุจน์ตั้งใจเรียนและไม่ย่อท้อจากการที่อ่านหนังสือไม่ค่อยออก เค้ากลับเก่งขึ้นมาในทันที และเมื่อสอบปลายปีออกมาปรากฏว่ารุจน์สอบได้ที่ 10 จากนักเรียนทั้งหมด 42 คน ผมมีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านอีกครั้งหลังจากเรียนจบวิศวะโยธา ผมเจอกับรุจน์ รุจน์ยังไม่มีครอบครัวผมชวนไปทำงานด้วยกันที่กรุงเทพฯ รุจน์ก็ปฏิเสธ เราไม่อยากไปไกลบ้าน เราห่วงแม่ แม่เราแก่มากแล้วและตอนนี้ก็ไม่ค่อยสบาย สามวันดีสี่วันไข้ เราทิ้งแม่เราไม่ได้หรอกรุจน์ทำหน้าหมองเศร้า งั้นไว้ให้แม่หายดีแล้วหรือนายพร้อมเมื่อไหร่บอกเรานะ เราจะช่วยเหลือนายเองผมตั้งใจอย่างนั้นจริงๆครับ เพราะในบรรดาเพื่อนๆของผม ผมชอบเขามากที่เขาเป็นคนมีน้ำใจ มิตรภาพไม่ได้แบ่งแยกคำว่าเพื่อน เรารักนายว่ะ รุจน์ถึงใครจะว่านายยังไงสำหรับเรื่องจับปลา นายคือ...ฮีโร่เลยล่ะ
3 ธันวาคม 2551 23:19 น. - comment id 102719
จุ๊กกรู้ ที่ 1 ก่อน เด่วมาใหม่
3 ธันวาคม 2551 23:22 น. - comment id 102720
มิตรภาพที่ซึ้งอยู่ในใจ ต่อให้นานเท่าไหร่ ก็ยังคงอยู่เช่นนั้นเสมอมา..เน๊อะ..
4 ธันวาคม 2551 00:12 น. - comment id 102721
.....อ่อ หากิงกับหลานนี่เอง อิอิ .... ปล. แหมๆ ไวเชียวน๊าสหายยา ที่ 1 จนได้ 555
4 ธันวาคม 2551 07:54 น. - comment id 102722
คุณยา ดีใจจังคุณชนะฉางน้อยด้วย ความประทับใจในวัยเด็กที่ยังเดียงสา ทำให้พอมีเวลามักจะนึกถึงทุกที คุณยาประทับใจอะไรบ้างหรือเปล่า เล่าให้ฟังมั่งดิ
4 ธันวาคม 2551 07:59 น. - comment id 102723
ฉางน้อยจ๊ะ พี่ไม่สบายก็เลยหยุดงานหลายวัน เผอิญ ที่เจอเด็กรุจน์นั่นเข้าก็เลยนึกถึงเรื่องเล่าของหลาน แฮ่ๆ ไงก็ไม่พ้นข้อหา หากิงกะหลานจิงๆล่วย 555 แล้วนี่ไปแลบลิ้นใส่น้องยาเดี๋ยวก็ลงไปกองเหมือนนายเจ๋งหรอก อิอิ
4 ธันวาคม 2551 11:05 น. - comment id 102726
ใช่แล้วค่ะ ฮีโร่จะเป็นใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่หากแต่ทำแล้วคนอื่นเกิดศรัทธาในตัวตนก็คือฮีโร่ที่เป็นคนตัวเป็นๆแล้วนะคะ
4 ธันวาคม 2551 12:10 น. - comment id 102736
น่านับถือน้ำใจทั้งสองคนครับ ว่าแต่จะให้เขาไปทำงานอะไรล่ะครับ ขออย่างเดียวแบบฟอร์มที่ใส่ทำงานอย่าเป็นสีแดงละกัน มันแสบลูกกะตาครับ
4 ธันวาคม 2551 13:25 น. - comment id 102756
เขียนได้น่ารักจังนะคะ ชักจะรักรุจน์แล้วสิคะ
4 ธันวาคม 2551 13:42 น. - comment id 102761
"เจ๋ง"นายเจ๋งมากๆ แบมรักพี่แจ้นค่ะ .. มิตรภาพเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ ทุกที่..
4 ธันวาคม 2551 16:13 น. - comment id 102764
คุณโคลอน นั่นซีเน๊อะ ฟังแล้วก็เลยคิดว่าน่าจะเล่าให้คนอื่นฟังด้วย ประทับใจเล็กๆน่ะค่ะ
4 ธันวาคม 2551 16:18 น. - comment id 102765
คุณคนบนเกาะ สองคนนั้นตอนนี้อายุ จะ 30 กันแล้วล่ะค่ะ คนนึงเป็นวิศวกรอยู่ กทม. ส่วนอีกคนก็เป็นเกษตรกร ส่วนเรื่องสี แดงนี่ก็ไม่ชอบเหมือนกันค่ะ ปกติจะใส่สีเหลืองค่ะ
4 ธันวาคม 2551 16:21 น. - comment id 102766
คุณเพียงพลิ้ว รักได้ค่ะ เค้าเป็นคนซื่อจริงๆใครไหว้วานอะไรเค้าทำให้หมดแหละค่ะ วันนี้น่ากลัวจะงดข้าวเพราะกินลูกยอแทน อิอิ
4 ธันวาคม 2551 16:25 น. - comment id 102767
น้องแบม มิตรภาพไม่มีพรมแดน เหมือนพวกเราไงรักกัน เห็นอกเห็นใจกันทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า ว่ามั้ย ทำอะไรก็จะคิดถึง มีอะไรอร่อยๆกินมั่งเนี่ย หิวจัง อิอิ
7 ธันวาคม 2551 16:17 น. - comment id 102807
เข้ามาอ่านตามที่บอกไว้ เขียนได้ดีจ้า ผมตอบกระทู้คุณในบทกลอนผมแล้วนะ พยายาม ต่อไป แต่งหนังสือขายได้แน่ๆหากประสบการณ์ มากกว่านี้นะ ขอชมเชย แก้วประเสริฐ.
10 ธันวาคม 2551 11:24 น. - comment id 102848
ขอบคุณมากค่ะ คุณแก้ว จะพยายามอ่านหนังสือและหาประสบการณ์ให้มากกว่านี้ค่ะ มีกำลังใจขึ้นอีกโขแลย
14 ธันวาคม 2551 20:08 น. - comment id 102892
เป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ
16 ธันวาคม 2551 11:18 น. - comment id 102899
น้องฟางอี้ ขอบคุณค่ะที่น้องชอบ แล้วฟางอี้หายไปไหนมาจ๊ะ คิดถึงนะ