..ภาพนี้เป็นขนมลา.. " พี่เมี่ยง อย่าลืมล่ะ เช้าวันพฤหัสฯที่ 25 พี่มารอรถที่บ้านวานะ ไปพร้อมกัน " วาย้ำพี่เมี่ยงถึงการเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อร่วมงานประเพณีสาร์ทเดือน 10 หริอว่าประเพณีชิงเปรต นั่นเอง " จ้า...ไม่ลืมหรอกนะ นานๆได้เที่ยวเดินทางไกล ไม่ตื่นสายด้วย รับรองจ๊ะ " พี่เมี่ยงรับปากมั่นเหมาะ .........เช้าวันเดินทางก็มาถึง พี่ชายเอารถส่วนตัวไปเอง ออกจาก กทม.ประมาณ 6โมงเช้า วากับพี่เมี่ยงนั่งเบาะหลัง คุยกันเบาๆ " อืม..ไหนวาลองเล่าซิ ประเพณีชิงเปรตที่วาบอกนั่นน่ะ มีจริงเหรอ แล้วเป็นยังไง " พี่เมี่ยงยังคงสงสัย " ฮั่นแน่ะ อยากรู้ใช่ไหมล่ะ จ่ายมาก่อน 300 แล้วจะเล่าให้ฟัง " วา ไม่ค่อยงกสักเท่าไหร่ อิอิ " เออ..น่ะ เล่าดิ ถ้าพี่เชื่อถือได้ จ่ายอีก 200 โอเค๊." พี่เมี่ยงคำต่อรอง " คืองี้นะพี่เมี่ยง ประเพณีชิงเปรต หรือ สาร์ทเดือน 10 ห รือว่า ประเพณีรับส่งตายายอ่ะนะ มักเป็นชื่อเรียกทางภาคใต้กันนี่เอง " วา เริ่มพูดคุย เล่าเรื่องราวถึงสิ่งที่ตัวเองได้รับรุ้และสืบทอดกันมาช้านาน " ประเพณีชิงเปรต เป็นความเชื่อเก่าแก่ที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษที่ยังคงดำรงรักษามาจนถึงทุกวันนี้ ปรเพณีนี้ถือเป็นการทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว " วาเล่าได้โดยไม่ติดขัด ทำให้พี่เมี่ยงที่นั่งฟังนั้นชักมีอาการทึ่งในความมีสาระของยิหวาในวันนี้ " ญาติผู้ล่วงลับนั้นหมายถึง ผู้ที่มีบาปหนา ตกนรกด้วยนะพี่เมี่ยง ตกนรก เลยกลายเป็น..เปรต..ไงคะ " " หือ..พี่เมี่ยงอ่ะ ฟังวาอยุ่ไหมเนี่ยะ " วา เอ่ยถามเมื่อเห็นพี่เมี่ยงนั่งเงียบเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง " อืม...ฟังซิ เล่าต่อนะวา พี่แค่คิดเล่นๆว่า หน้าตาของ เปรต จะน่ากลัวสักแค่ไหนเชียว " " แหม.. ยังไง พี่เมี่ยงก็หล่อกว่าอยู่แล้วล่ะคะ อิอิ " วา พูดพลางเอี้ยวคอหลบรัศมีของมะเหงกพี่เมี่ยง ...... รถยังคงแล่นไปเรื่อยๆพี่ชายคนขับ ยังคงมีสมาธิในการขับรถ คนนั่งข้างพี่สาวคนโต หรือเจ๊ใหญ่นั่นเอง เป็นเพื่อนนั่งคุยกับพี่ชาย " อ่ะ วาเล่าต่อนะ พี่เมี่ยงห้ามเขกกะโหลกวาด้วย เดี๋ยวอดฟังเรื่องเปรตไม่รุ้ด้วยน๊า " วาเริ่มมาไม้อ่อน อิอิ " .... เปรตน่ะนะพี่เมี่ยงจะได้รับการปล่อยตัวจากยมบาลให้มาพบลูกหลานและญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์ใน แรม 1 ค่ำ เดือน 10 และ ให้อยู่ในเมืองมนุษย์ได้เพียง 15 วัน " " อืม...แล้วไงต่อ เล่าซิ " พี่เมี่ยงเอ่ยถาม หลังจากที่วา นั่งเงียบไปซะเฉยๆ " วา คิดว่าวา เห็นเปรตริมทางเข้าแล้วล่ะพี่เมี่ยง " และแล้วก็เป็นจริงดั่งที่วาคาดคิด เพราะรถของพวกเราเข้าเขตจ.เพชรบุรีแล้ว มี ตำรวจทางหลวงเรียกโบกมือให้พี่ชายแอบรถไหล่ทาง ชิดริมถนน ไม่มีด่านตรวจ ไม่มีอะไรที่จะส่อว่า จะมีเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ " คุณจะไปไหนกันเนี่ยะ ไหนขอดูใบขับขี่หน่อยซิ " ตำรวจทางหลวงนายนั้นถามพี่ชายด้วยวาจา และ ท่าทางที่วางอำนาจ " รับใบสั่งนะ คุณขับรถเลนขวา " วาคิดในใจ ผิดตรงไหน(วะ)รุถว่างๆก็วิ่งเลนขวาได้นี่(หว่า) " พี่ครับ ไม่ต้องเขียนใบสั่งหรอกครับ 100 พอไหมครับ " พี่ชายถามโดยไม่ต้องการคำตอบยื่น100บาทแนบกับใบขับขี่ หมอนั่นยังมีหน้าบอกว่า ขับรถดีๆนะครับ ..... " อ้อ พี่คะ หนูยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะคะ ว่าจะไปไหนกัน คือว่า พวกหนูกะพี่ๆจะกลับบ้านไปทำบุญให้เปรตน่ะค่ะ" " เปรตริมทางที่อดอยาก หิวโหยไงคะ หนูสบายใจแล้วคะ ทำบุญแล้ว ..." วา ยังมีหน้าไปแจ๋นใส่ตำรวจทางหลวงผู้นั้นอีก ทำให้พี่ชายต้องรีบออกรถโดยเร็ว ก่อนที่จะโดนคดีเรื่องไม่เป็นเรื่อง 55555 " เห็นไหมล่ะพี่เมี่ยง พี่ชายทำบุญให้เปรตไปแล้ว 1 ตัว คงสบายใจแล้วเนอะเฮียเนอะ " วาพูดพลางพยักเพยิดให้กับพี่ชายคนโต " โห ยัยวานี่ ไปว่าเค้า ปากจัดนะเรานี่ ไม่เบา แหมๆๆๆ " พี่ เมี่ยงหันมองดุๆ " อ่ะ ฟังต่อดีกว่า เนอะพี่เมี่ยง เมื่อเปรต มาอยู่ในเมืองมนุษย์ได้แค่ 15 วัน ฉะนั้นเมื่อถึงแรม 15 ค่ำเดือน 10 พวกเค้าก็กลับไปภูมินรกเหมือนเดิม " " การมาเยื่อมเยือนของเปรตผู้ล่วงลับ ทางภาคใต้ถึงได้เรียกว่า รับ ส่งตายายไงคะพี่เมี่ยง " " อ่อ...... พี่พอจะเข้าใจแล้วล่ะ " ดูท่าทางพี่เมี่ยงฉลาดขึ้นมานิดนึง อิอิ " แล้วที่บ้านวาต้องเตรียมอาหาร กับข้าว ขนมไปวัดไหมละ เหมือนที่กรุงเทพฯไหมวา ?" พี่เมี่ยงถาม เพราะไม่เข้าใจประเพณีทางใต้จริงๆ " แล้ววาต้องไปเป็นเปรต เอ๊ย ไปชิงเปรตด้วยป่ะ " พี่เมี่ยงถามแต่ แอบอมยิ้มในหน้า " นี่แน่ะ...หาว่าเค้าเป็นเปรต หยิกซะ" วา เอาปลายเล็บเหน็บที่สีข้างพี่เมี่ยงพองาม แต่ทำให้พี่เมี่ยงบิดตัวหนีเล็บยัยวา " แหะ..แหะ..โอเค จ๊ะ พี่ไม่แหย่วาแล้ว นะคนดี เล่าต่อๆจ๊ะ อยากฟัง " นายเมี่ยงคำออดอ้อน " อ่ะๆ.. เล่าต่อก็ได้ ห้ามขัดคออีกละ เดี๋ยวโดนๆ " " ก็พอถึงงานประเพณีสำคัญ แต่ละบ้านก็จัดเตรียมอาหาร คาวหวานใส่สำรับเป็นชุดๆ ซึ่งจะมีสามชุดน่ะค่ะ ชุดที่ 1... จัดอาหารคาวหวาน ของกินของใช้ต่างๆสำหรับพระภิกษุสงฆ์ เพื่อใช้ในการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ชุดที่ 2 ...จัดให้เปรตกินในวัด เป็นเปรตชั้นดี ที่สามารถเข้าออกวัดวาได้ จะมีการสร้างร้านหรือ ปลูกเป็นศาลาสูงๆไว้ตั้งสำรับสำหรับเปรตกิน ภาคใต้เรียกว่า หลาเปรต " วาสาธยายได้โดยไม่ติดขัด " อะไรนะวา หลาเปรต แปลว่าอะไร ไม่เข้าใจ " พี่เมี่ยงทำสีหน้างุนงงแบบเล็กๆ อิอิ " หลาเปรต ก็ คือ ศาลาไง ศาลาที่ไว้วางขนมแหละ ชาวบ้านก็จะนำมาวางบนนี้ ไว้ให้เปรตกินเสร็จ ค่อยไปแย่งไงคะ " วา เล่ามาถึงตรงนี้ด้วยสีหน้าอมยิ้ม ดูท่าทางเธอคงอดขำไม่ได้ว่า ชิงเปรต อิอิ " ส่วนสำรับชุดที่ 3 นะคะพี่เมี่ยง.... ชุดที่ 3 เราจะจัดให้เปรตกินนอกวัด ส่วนมากเป็นเปรตที่เข้าวัดเข้าวาไม่ได้คะ แต่ละบ้านจะจัดทำกระทง หรือ กรวยใบเล็กๆ ไว้ใส่กับข้าว เพื่อทำทานให้แก่เปรต โดยจะนำอาหารที่ใส่กรวยนี้ ไปวางริมทางเดิน ริมถนน ทางเข้าวัด หรือโคนต้นไม้ แล้วแต่คะ แต่เราต้องกล่าวคำเชิญให้เปรตได้มารับส่วนบุญที่เรานำมาวางให้เขาด้วยนะคะ เขาจะได้ไม่อดอยาก จะได้ไม่ทนทุกข์ทรมาน " " ว่าแต่ว่า พี่เมี่ยงจะเลือกอาหารสำรับไหนดีน๊า อิอิ " วา ถามพลางหัวเราะคิกๆชอบใจ " พี่ก็กิน อย่างที่วากินแหละ 5555 " พี่เมี่ยงเอาคืน " นอกจากอาหารคาวหวานในสำรับแล้วนะคะพี่เมี่ยง ยังมีขนมอีกนะคะ เป็นขนมประเพณีทางใต้โดยเฉพาะค่ะ " วา เริ่มเล่าต่อ เมื่อเห็นพี่เมี่ยงยังอยากรุ้อยากฟัง " เหรอ วา เปรตกินขนมได้ด้วยเหรอ พี่เคยได้ยินว่า เปรตน่ะ ปากเท่ารูเข็มนี่นา " พี่เมี่ยงซักถามจริงๆด้วย " นั่นแหละ เพราะเปรตมีปากที่เท่ารูเข็มไงคะ ขนมแต่ละอย่างแต่ละชื่อ เลยมีที่มาแตกต่างกันไงค ะ อีกทั้งขนมแต่ละอย่างยังแทนสัญญลักษณ์ต่างๆด้วยนะคะ " " ขนมที่วาบอก จะมี 5 อย่าง คะ เช่น ขนมกง ขนมลา ขนมพอง ขนมดีซำ ขนมสะบ้า " วา พูดพลางยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นพี่เมี่ยงของเธอทำสีหน้า งง หนักมากขึ้นกว่าเดิม " 1...ขนมพอง ทำจากแป้งข้าวเหนียว นำนึ่ง ตากให้แห้ง ทอดด้วยน้ำมัน โรยหน้าด้วยน้ำตาลให้หวานๆ พี่เมี่ยงรู้ไหม ขนมพอง แทนสัญญลักษณ์ของอะไร ? " วาถามพี่เมี่ยง ซึ่งได้แต่ทำหน้างง " ขนมพอง แทนสัญญลักษณ์ ของแพ คะ ไว้ให้เปรตนั่งตอนขากลับ เพื่อข้ามห้วงมหรรณพ เป็นความเชื่อของคนโบราณแหละพี่เมี่ยง " พี่เมี่ยง ได้แต่พยักหน้ากึกๆ " 2...ขนมกง หรือขนมไข่ปลานั่นเอง อย่าถามว่าทำยังไง วาไม่ค่อยรู้หรอก รู้แต่ว่า ขนมกง แทนความหมายของเครื่องประดับ รู้แค่นี้แหละคะ 55555 " " 3...ขนมลา แทนความหมายของเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มคะ อีกอย่าง เปรตกินได้สะดวก เพราะเป็นตาข่ายเล็กๆ เป็นเส้นยาวๆ ที่ เปรตปากเท่ารูเข็มก็กินได้ไงคะ ทำจากแป้งมัน ผสมน้ำมันมะพร้าว ใส่ไข่ไก่ด้วย แต่อย่าถามว่า ทำยังไง ไม่ทราบคะ อิอิ " " อ่อ งั้นมีเปรตมีชีวิตได้ รอดด้วยขนมลามั้ง เพราะขนมอื่น เขาคงกินยากน่ะมั้ง เนอะ วา " พี่เมี่ยงเริ่มออกความเห็น " 4...ขนมดีซำ แทนความหมายของเงิน เบี้ยสมัยก่อน ให้เปรตเพื่อใช้สอยในเมืองนรก และ 5...ขนมสะบ้า แทนลูกสะบ้าที่ใช้เล่นในงานสงกรานต์ งานรื่นเริงต่างๆค่ะ จบแล้วววว " " เดี๋ยวก่อนวา วาจบ แต่พี่ยังไม่จบ อิอิ พี่ยังสงสัยนี่ ว่า ชิงเปรต กันตรงไหน ยังไง ? " " อ่อ ... ใช่ๆ วาลืมไปได้ไงน๊า จุดสำคัญของงาน อิอิ คือ เมื่อเราจัดสำรับวางบนหลาเปรต หรือศาลาเปรตแล้วนะพี่เมี่ยง บนหลาเปรคจะมีสายสิญจ์พันยาวๆๆรอบๆศาลานั้นไปยังพระสงฆ์ที่นั่งทำพิธีกรรมบังสุกุลอัฐ หรือ เขียนชื่อญาติผู้ล่วงลับในแผ่นกระดาษนำมาวางไว้ตรงนั้นแหละ พระท่านก็จะทำพิธีกรวดน้ำไปให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว " " และเมื่อเสร็จพิธีกรรม ต่อไปก็เป็นการชิงเปรต นั่นก็คือ การที่เด็กๆหรือลูกหลาน แม้แต่ผู้ใหญ่ไปแย่งชิงสิ่งของ ขนมบนศาลาเปรตไงคะ งานนี้มีแต่ความสนุกสนานคะ ไม่มีว่าแย่งแบบเอาเป็นเอาตาย แต่แย่งเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวด้วยไงคะ อีกทั้งเปรต หรือญาติๆที่ตายไปก็จะได้ดีใจว่าลูกหลานมาร่วมงาน โดยไม่คิดรังเกียจพวกเขาไง บางที่เขามีการโยนกำพฤก หรือบางที่เรียก กำพริก เด็กๆก็เข้าไปแย่งกันคะ " วา เล่าต่อด้วยสีหน้ามีความสุขเมื่อนึกถึงวันเก่าครั้นเยาว์วัย " กำพฤก หรือ กำพริก แปลว่า อะไรล่ะวา " พี่เมี่ยงสงสัยอีกแล้วซิ " ก็เป็นเงิน เหรียญ หรือ แม้แต่หมายเลขที่จะนำมาจับสลาก เพื่อได้สิ่งของไงคะ " " อ่อ .. พี่เข้าใจแล้วละ วันนี้วาเก่งนะ มีสาระดีด้วย เออ... ว่าแต่ว่า พี่ขอร้องอะไรวาสักอย่างได้ไหม หือ ? " " อะไรคะพี่เมี่ยง " คราวนี้ ตัววาเองเป็นฝ่ายที่มีสีหน้าสงสัย " ว่างๆ วาก็หัดให้พี่พูดภาษาใต้บ้างซิ " พี่เมี่ยงพูดพลางทำตาหวานเยิ้มยิ่งกว่าขนมเมืองเพชร อิอิ " อ่ะ ทำไมจู่ๆอยากพูดใต้ละคะ ? " " อ๊าววว... พี่จะไปเป็นลูกเขยใต้ พี่ต้องหัดพูดซิ จริงไหมละ " งานนี้วาไม่ขอตอบคะ ว่าผลที่ออกมาเป็นยังไง อิอิ รู้แต่ว่าที่แน่ๆวันนั้น ที่ไปร่วมงานบุญกับยิหวาที่วัดนั้น ยัยวาก็ไปแย่งชิงขนมเปรตด้วย ชวนพี่เมี่ยงก็ไม่ยอมออกไป อ้างว่าเขิน อายเด็ก แต่ปรากฎว่า หันมาอีกที พี่เมี่ยงเข้ามาแย่งยัยวาด้วยซิคะ " อ้าว พี่เมี่ยง ไหนว่าไม่มาแย่งด้วยไง มาได้ไงเนี่ยะ " " พี่ก็ไม่อยากเข้ามาแย่งกับเขาหรอกนะ ใครก็ไม่รู้ซิ ถีบพี่เข้ามาในวงนี้แหละ " วาไม่ตอบกระไร นอกจากเสียงฮาก๊ากกกก 5555555 ........................................................................... ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น ) ภาพขนมต้มห่อด้วยใบกะพ้อ
1 ตุลาคม 2551 15:55 น. - comment id 101871
พี่เองก็พอจะรู้ประเพณีชิงเปรต ตอนสมัยเรียน เพียงแต่รู้นิดหน่อย พอมาอ่านเรื่องที่ฉางน้อยเขียน ทำให้ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะะเลยค่ะ ..อยากรู้จังเลยว่า ลูกสาเกนะคะ นอกจากเอามาทำขนมแล้ว เอามาทำแกงได้หรือเปล่าจ๊ะ.. จะรออ่านเรื่องต่อไปจ้า
1 ตุลาคม 2551 18:27 น. - comment id 101873
1.....สวัสดีค่ะพี่แก้วประภัสสร โห ...ถามเรื่องที่มีสาระ ฉางน้อยตอบไม่ได้มั้งคะพี่ หากว่าพี่ถามเรื่องที่ ไร้สาระ ฉางน้อยอาสาตอบทันทีคะ 55555 สาเก ที่ฉางน้อยเคยรู้จักส่วนมากเอามาเชื่อมใส่น้ำตาลแบบหวานเจี๊ยบบบบ กินแล้วขนลุกคะ อิอิ ฉางน้อยก็ไม่ค่อยเก่งเรื่องการบ้านการเรือนด้วยซิคะ ถ้าผีบ้านผีเรือนฉางน้อยเก่งนักล่ะคะ .... พี่แบมคะ ที่จริงแล้วขนุนกับสาเก เป็นพืชตระกูลเดียวกันนะคะ ฉางน้อยคิดว่าน่าจะทดแทนกันได้ ไม่ได้พูดเล่นนะคะ แกงขนุน ก็ต้องลองทำแกงสาเกได้ ( มั้ง ) อิอิ .... เอาผลสาเกมาให้พี่แบมดูคะ ... .....ภาพนี้เป็น ตำสาเกคะ ... มีสูตรเด็ดด้วยนะคะ ..... 1. ลูกสาเกสัก 2 ลูก ผ่าเป็นแว่นสัก 3 ส่วน นำไปต้มให้สุก สุกแล้วปอกเปลือก เอาใส้ออก ตำ 2. ผัดน้ำพริกแกง หมูสับ แล้วนำเนื้อสาเกลงไปผัดจนสุก หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา 3. โรยใบมะกรูด หั่นฝอย 4. ยกลงตักใส่จาน ทานกับผักชี สะเดา ต้นหอม ฯ รสชาติเหมือนกันกับขนุนทุกอย่าง สนใจลองทำดูค่ะพี่แบม.... (ที่มา....http://gotoknow.org/blog/aram/190381
2 ตุลาคม 2551 08:16 น. - comment id 101882
ชาตินี้ต้องทำบุญให้เยอะซะแล้ว เดี๋ยวตายไป จะกลายเป็นเปรต ว่าแต่อขนมต้มน่ากินจัง
2 ตุลาคม 2551 09:41 น. - comment id 101885
3..... สวัสดีค่ะ พี่คนไร้ร่าง แน่ะๆๆ.... ชอบกินขนมต้มเหมือนฉางน้อยเลยนะคะ ชอบมากคะ ของโปรด วันนั้นไปดูวิธีการทำขนมต้มด้วยนะคะ ได้กินที่อยู่ในกะทะใบใหญ่ๆด้วย เริ่มตั้งแต่ขูดมะพร้าว ผสมส่วนต่างๆ แล้วนำมาห่อ แล้วเอามานึ่งๆ การทำเหมือนไม่ยุ่งยาก ไม่ชอบทำคะ แต่ชอบกินมากกว่า 555 ว่างๆจะเอารูปมาให้ดูคะ
2 ตุลาคม 2551 10:45 น. - comment id 101888
ปลูกต้นรักได้แล้วค่ะฉางน้อย เพราะตอบทำถามพี่ได้ดีมากค่ะ คิดถึงจ้า
2 ตุลาคม 2551 11:15 น. - comment id 101890
พี่แบมคะ พี่เมี่ยงคำซิคะ ไม่ยอมให้ปลูกคะ อ้างว่า ถั่วงอก ดีที่สุดสำหรับน้องวาคะ 555 อ่ะๆ ถั่วงอก ก็ งอกจ๊ะ เนอะ แหะ..แหะ.. พี่แบมสบายดีป่าว กินข้าวยังคะ กำลังหาเจ้ามือเลี้ยงข้าวอ่ะคะ อิอิ
2 ตุลาคม 2551 14:31 น. - comment id 101893
จะว่าไป ทุกเรื่องที่ฉางน้อยเขียนพี่ว่ามีสาระหมดแหละจ๊ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้าใจ ประเพณีชิงเปรตจากงานเขียนของฉางน้อยนะเนี่ยเข้าใจและสนุกด้วย ว่าแต่เปรตขอทานรายทางแถวบ้านพี่ก็มี oops
2 ตุลาคม 2551 15:15 น. - comment id 101895
สวัสดีค่ะพี่แจ้นเอง....... ฉางน้อยเขียนตามที่ตัวเองรู้เรื่องราวมาน่ะค่ะ อาจมีข้อมูลไม่ละเอียดพอคะ แต่คิดก็เขียน เพราะอยากเขียน อิอิ มีใครบางคนถามฉางน้อยว่า เขียนแล้วได้อะไร เขาอยากอ่านงานเขียนของนักเขียนมืออาชีพมากกว่าระ เขาไม่ต้องการอ่านงานเขียนไร้สาระของเด็กๆหรอกนะ ฉางน้อยฟังก็อึ้งเหมือนกัน ได้แต่คิดว่า นักเขียนมืออาชีพก็ต้องผ่านการเป็นนักเขียนฝึกหัก นักเขียนมือใหม่มาเหมือนกันนี่นา ฉางน้อยแค่คิดในใจไม่ได้โต้เถียงอะไรเขาหรอกคะ เพียงแต่ตัวฉางน้อยเอง เขียนเพราะอยากเขียน เรื่องบางเรื่องบางอย่างถ้าเราไม่เขียนแล้วจะมีใคร ที่จะเขียนได้เหมือนเรา จริงไหมคะ คนเราความสามารถต่างกันคะ ไม่เคยคิดแข่งกับใคร เขียนเพราะใจรัก มีความสุขกับสิ่งที่เราได้ทำ อ๊าวววววว....วันนี้สงสัยฉางน้อยเมายาบ้าคะ บ่นๆๆจังเลย 55555
2 ตุลาคม 2551 22:09 น. - comment id 101902
อยากรู้จังคนชื่อวามีแฟนเป็นคนเมืองเทพเหรอครับ
3 ตุลาคม 2551 06:24 น. - comment id 101903
9.....สวัสดีอรุณซาหวัด ยามเช้าๆอากาศดีนิพี่บาวบนเกาะ ตอนนี้ฝนกำลังตกคะ อากาศน่านอน อิอิ ....ห๋า พี่บาวถามนุ้ยว่าพรือนิ ไม่ได้ยินเล๊ย หูม่ายดี อิอิ ฮ่าย ม่ายมีหรั๋ยนิพี่บายเหอ รู้แล้วเหยียบให้กระจายเลยน๊ะ พี่บาวเหอ น้องวาฝากบอกว่า ถ้ามีแฟนเป็นคนเมืองเทพก็ดี แต่อย่าหาคนชั้นเทพ กิ๊วๆๆ
3 ตุลาคม 2551 11:38 น. - comment id 101908
ชักจะสงสัยมากขึ้นนิ น้องวาเหอน้องวา
3 ตุลาคม 2551 12:23 น. - comment id 101913
....สงสัยหรั๋ยหล๋าวนิพี่บาวของนุ้ย ม่ายมีหรั๋ยทีนิ ฮ่าย คิดหรั๋ยมาก ปวดหัวหล๋าวฮั่น
3 ตุลาคม 2551 13:39 น. - comment id 101919
พวกไม่มีไหรนี่แหละยิ่งน่าสงสัยนัก ฮายอย่าเรื่องมากทีต๊ะ
3 ตุลาคม 2551 16:14 น. - comment id 101924
เพิ่งเคยได้ยินอ่ะค่ะ ประเพณีชิงเปรต...... ขอบคุณน๊าที่สอดแทรกเนื้อหาสาระให้คนอ่านได้อ่านนอกจากเพลิดเพลินยังได้ความรู้อีกด้วย
3 ตุลาคม 2551 16:51 น. - comment id 101928
13.......อ้าว พี่บาวหาว่านุ้ยเรื่องมากแอหรั๋ยหล๋าวนิ ไม่มีเรื่องให้มากนิ อยากอิโร้หรั๋ยถามมาๆ กินข้าวยังคะพี่บาว นุ้ยเอมตื้อแล้วเด้ ไข่เจียวใส่ยอดถินบ้านเราแหล๋ะ เพิ่งตื่นคะ ตอช้าวทำฮานต่อ เบื่อนิ
3 ตุลาคม 2551 16:53 น. - comment id 101929
14......ประเพณีนี้มีจริงๆค่ะ ทางภาคใต้เกือบทุกจังหวัด ว่างๆต้องชวนคุณโคลอนไปชิงเปรตซะมั่งแระ ไปป่าวๆๆ อิอิ อย่าวิ่งหนีกันซะละคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ
3 ตุลาคม 2551 18:02 น. - comment id 101933
หวันเย๋นนี้แกงส้มปลาอินทรีกับยานัด ฮายชาดได้แรงอ็อก ไม่พ้นเหนาะลูกเนียงอ่อนกะลูกตอตามเคยครับ ตอช้าวว่าจะต้มน้ำเคยกินกะหนมจีนวางแผนไว้แล้วนะเนี่ย
3 ตุลาคม 2551 18:25 น. - comment id 101934
....ฟังพี่บาวแหลงเรื่องกับข้าวแล้วน้ำหมากสอ เอ๊ย น้ำลายสอ 5555 พี่บาวทำกับข้าวเองม่ายนิ อย่าโม้ พี่ต๊ะใภ้ทำม่าย หุหุ ยานัต ก็คือ สับรด ใช่ม่ายนิคะ ภาษากุงเตป แหลงว่าพรือ สัปปรด เนอะ คะ
3 ตุลาคม 2551 22:22 น. - comment id 101938
....ขำคุณเชอมาร เอ๊ย เฌอมาลย์ ที่บอกว่า โดนถีบให้มาเม้นท์ ต้องการจะเดินไปดีๆไหมคะ หรือว่า...... แหะ....แหะ.. ล้อเล่นๆค่ะ เข้ามาทักทาย ก็ยินดีมากมายคะ ขอบคุณจ๊า
4 ตุลาคม 2551 08:46 น. - comment id 101939
เรื่องทำกับข้าว ง่ายมากคับอย่าดูถูกกันนะน้อง แถมยังคิดสูตรใหม่ ๆ เพิ่มอีก ใครได้ลิ้มรสชาดยังตะลึงเลย หมันแล๊ะยานัดคือสับปะรดอ่ะคับ
4 ตุลาคม 2551 19:06 น. - comment id 101943
21.....สักวันจะลองชืมฝี(ที่)มือการทำกับข้าวของพี่บาวคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ อิอิ
5 ตุลาคม 2551 08:03 น. - comment id 101949
มาต๊ะน้อง ว่าแต่เวลามาเอาไข่เค็มไชยามาฝากบ้างเน้อ วันนี้ทำไรกินครับ ที่นี่แกงพริกเทียมกินลดไขมันบ้าง ไม่ไหวอืดมากแย้ววว
5 ตุลาคม 2551 11:26 น. - comment id 101952
จะหวาดดีเจ้า จะบายดีกะ คูณฉางน้อย ไปเที่ยวมาไม่ชวนเลยนะ โกดอย่างใหญ่หลวงเชอะ แต่ถ้าชวนแล้วจะไปได้ไม๊น้อ เรา คิคิ (อันนี้เค้าคิดในใจนะห้ามรู้) แต่ช่างเหอะ แพรวก็ไม่บอกหรอกว่าคิดถึงคุณฉางน้อยมากปล่อย ให้คิดไปเองว่าแพรววไม่คิดถึงดีกว่า ไปแระไม่ จูบลาด้วย
5 ตุลาคม 2551 13:50 น. - comment id 101956
มาช่วยทำขนม ค่า อยากทานขนมทุกอย่างในเรื่องนี้ อ่านแล้วได้ความรู้ดี น่าจะนำไปสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่าน ให้เด็ก ๆ และเยาวชน ที่อยู่คนละถิ่นได้อ่านบ้าง นับว่าเป็นเรื่องที่มีคุรค่าทางภูมิปัญญาอย่างยิ่งค่ะ
5 ตุลาคม 2551 15:11 น. - comment id 101958
23.....หวัดดีค่ะพี่บาวบนเกาะ น้องนุ้ยเพิ่งว่างจากขายมาลัยตงเสแยกนิ อิอิ สัญญาณไฟเขียวไฟแดงเขาซ่อมเสร็จแล้วนิ นุ้ยเลยต้องไปขายมาลัยตอหล๋าวเด้ ทำพรือด้ายนิพี่บาว ม่ายทำก็หายม่ายเบี้ยหและ วันนั้นนุ้ยเอาไข่เค็มมาฝากเพื่อนๆด้วย เพื่อนที่เสแยกไฟแดงแหละ อิอิ หนมลาด้วย หนมต้มใบพ้อด้วยนิ ฮ่าย ช่ายมีใครกินเป็นนิ ลองสอนให้กิน 5555 กับข้าวบ้านนุ้ยไม่ค่อยได้ทำคะ ส่วนมากฝากพุงฝากท้องที่ร้านข้างๆบ้านคะ
5 ตุลาคม 2551 15:16 น. - comment id 101959
24.......... อ่ะๆๆๆ คุณน้องเปียงแปว มาได้ไงคะเนี่ย ได้ข่าวว่าเมื่อก่อนไม่ค่อยฉะบายนี่นา หายดียังคะ แล้วการเรียนละคะ เป็นไงบ้าง เอาใจช่วยนะคะ อย่างอแงน๊า เด็กดี รู้ป่าวคะ วันก่อน พี่มัสยังถามหาเลยคะ รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆนะคะ ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย เป็นห่วงนะคะ จากใจจริงๆของฉางน้อยค่ะ
5 ตุลาคม 2551 15:22 น. - comment id 101960
25..... สวัสดีค่ะคุณครูกระดาษทราย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องราวชิงเปรตนะคะ ฉางน้อยเขียนแค่สนุกๆไม่ได้มีข้อมูลมากมายหรอกคะ เท่าที่ทราบก็นำมาเขียนคะ อิอิ แต่จริงๆแล้วประเพณีเหล่านี้นับวันใกล้จะสูญหายหมดแล้วคะ เพราะไม่มีลูกหลานมาสืบทอดเจตนารมณ์ ไม่มีลูกหลานซึมซับประเพณีสิ่งดีงามเหล่านี้ไว้ .... จริงๆแล้วขนมเหล่านี้ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านนะคะ หาวัตถุดิบในการทำขนมจากในท้องถิ่นของตัวเอง ไม่ต้องหาซื้อสิ่งราคาแพง เฮ้อ.. พูดแล้วเศร้าคะ คิดว่าต่อไปประเพณีเหล่านี้สุญหายไป เยาวชนไทยจะเรียนรู้เรื่องราวต่างๆจากอดีตยังไงน๊า เฮ้อ..... ( สงสัยวันนี้ ฉางน้อยเมายาบ้าคะ บ่นมาก พูดมากจัง อิอิ .... ขอบคุณคุณครูกระดาษทรายที่เข้ามาช่วยทำขนมคะ อิอิ
5 ตุลาคม 2551 17:21 น. - comment id 101962
กลับมาแระเหนื่อยจัง ตังอยู่ครบ กินของเขาทุกมื้อ ตัวกลมเลย มาอ่าน เรื่องเปรต อ่านแล้ว ไม่อยากเป็นเปรต แต่อยากเห็นเปรต ไปพักที่โรงแรม มีอ่างอาบน้ำรวมด้วย อิอิ เกือบเป็นเปรตเล่นน้ำแระ เขาห้ามใส่เสื้อผ้าลงอ่าง แหมถ้าไม่ติด ใจไม่กล้านะ คงลงไปเป็นเปรตในอ่างแระ เขียนเรื่องเปรตสนุกดี ว่างๆ จะไปแย่งเปรตกินมั้ง
5 ตุลาคม 2551 18:12 น. - comment id 101963
.....โอ๊ย..โอ๋... กลับมาต่ะแต่ม่ะหร่าย อิอิ กำลังคิดถึงอยู่เชียวว่า พี่นักสืบ ไร้อันดับมายังว๊าป่านนี้ ทำไรผิดมาน๊า ถึงต้องโดนอบรม กิ๊วๆๆๆ หลายวันด้วย .. โส นะ หน้า กิ๊วๆๆ ตอนที่พี่นักสืบไม่อยู่ ฉางน้อยเขียนเรื่องสั้นหลายเรื่องแระ เขียนกลอนด้วย 2 กลอนมั้ง อิอิ มาถึงนานยังอ่ะ กิดตึ๊ง หุหุ แบร่...แบร่...
6 ตุลาคม 2551 13:12 น. - comment id 101964
วันนี้ไปขายดอกไม้หล่าวเหอ ฝนตกมั๊งม๊าย ยาเที่ยวต้าด้อฝนนะ เด๋วตี้เป็นหัดเอา หวังเหวิดนะเมื่อเข้ามาก็ไม่ได้ไม่โร้เว็บมันเป็นไหร
6 ตุลาคม 2551 18:22 น. - comment id 101968
31.....พี่บาวบนเกาะเหอ .. สงสัยเวปบ้านกลอนไทยอิเป็นหวัดน๊ะ นุ้ยว่าอ่ะ นุ้ยเข้าเวปม่ายด้ายตั้งแต่เมื่อคืนคะ ม่ายโร้พรือเสียแล้วนิ ฮ่ายยย.... ลำบากใจอยางแรง รอๆๆๆ ขายหล๋าวแหละ พวงมาลัยนิ ถ้าม่ายขายก็ม่ายเบี้ยกินหนมคะ อิอิ
20 กันยายน 2552 14:44 น. - comment id 108037
เด็กเปรต เอ้ยเปรตหมดยังอ่ะ จะขโมยเปรตไปฝากเพื่อน อิอิ