อนาคตทางการเมืองของท่านอยู่ในกำมือประชาชนแล้ว
nidhi
ยินคำพิพากษา
ตัวอัตตาก็ดาลเดือด
เจ็บแค้นที่ถูกเชือด
ยังมิเหือดเลือดที่ไหล
ดื้อดึงจะคงอยู่
จะกอบกู้ธิปไตย
เดือดร้อนไปทั่วไทย
มิหวั่นไหวไม่รับรู้
กูมาจากเลือกตั้ง
จะอยู่ยังไม่อดสู
ผิดนักพรรคพวกกู
จะกอบกู้เชิดกูอีก
ได้รับรู้กันโดยทั่วแล้วนะครับว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คุณสมัคร
พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะมีการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์
อันเป็นการกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๑๘๒(๗)
ผลของการที่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งเพราะความเป็นรัฐมนตรี
ของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๘๒ เป็นผลให้รัฐมนตรีทั้งคณะ
พ้นจากตำแหน่งไปด้วยตามมาตรา ๑๘๐(๑)
แต่เนื่องจากมาตรา ๑๘๑ ระบุให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง
ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่
จะเข้ารับหน้าที่...
จึงเป็นเหตุให้เกิดกรณีมีความเห็นจากพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วม
ว่า อาจเสนอชื่อให้คุณสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก
นัยว่าเพื่อเป็นการชุบชีวิตคุณสมัครขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านว่า อาจเป็นการทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นอีก
อาจถึงขั้นเปลี่ยนแปลงจากชุบชีวิต เป็นชุบแป้งทอด
เหมือนอย่างที่ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ต่างประเทศใช้คำว่า
Samuk was grilled…
ก็เป็นได้
จากภาวการณ์ที่สุ่มเสี่ยงนี้เอง จึงมีแนวคิดที่จะให้บุคคลอื่น
ที่ไม่ใช่คุณสมัคร สุนทรเวช ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
โดยสภาผู้แทนราษฎร จะเปิดให้มีการเสนอชื่อบุคคลผู้ที่จะเป็น
นายกรัฐมนตรีใหม่ ในวันศุกร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๑ นี้
ซึ่งก็มีผู้เสนอว่าน่าจะรอสักระยะหนึ่งก่อน
เพราะกฎหมายกำหนดว่าสามารถดำเนินการได้
ภายในกำหนด ๓๐ วัน
ในขณะที่คุณสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย
ให้ความเห็นว่าจำเป็นต้องเร่งด่วนเพราะอยู่ในสภาวะ
สูญญากาศทางการเมือง
เรื่องนี้ผู้เขียนเห็นว่าไม่เป็นไปตามที่คุณสมศักดิ์กล่าวอ้าง
เพราะขณะนี้ มีนายกรัฐมนตรีรักษาการ คือคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์
และยังมีคณะรัฐมนตรีซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่า
คณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา ๑๘๑
ฉะนั้น จึงยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่
โดยการเร่งเสนอสภาผู้แทนราษฎรในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
สำคัญอย่างยิ่งที่ต้องกระตุ้นเตือนก็คือ
หน้าที่และความรับผิดชอบเฉพาะแต่ละบุคคลของสมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรทั้งหลาย รวมทั้งวุฒิสมาชิก ควรจะต้องตระหนัก
ในหน้าที่ของตนเองตามรัฐธรมนูญฯ มาตรา ๑๒๒ ที่ว่า
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย
โดยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติ มอบหมายหรือความครอบงำใดๆ
และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของ
ปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์
วันศุกร์นี้แล้ว
ที่ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติทั้งหลาย
ต้องพิสูจน์ตนเองว่า
ยังสมควรให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ให้ความไว้วางใจเลือกท่านเข้าไปอีกหรือไม่
หรืออยากจะถูกถอดถอนโดยประชาชน
ตามมาตรา ๑๖๔
อนาคตทางการเมืองของท่าน
อยู่ในกำมือของประชาชนแล้วนะครับ