กินเจกันเถอะ
บัวบัว
สมัยยังเด็กอาศัยอยู่กับญาติ ที่หลังบ้านก็ทำเป็นสวนผัก มี ผักกาดขาว คะน้า ผักบุ้ง มันเทศ ข่า ตะไคร้ อื่นๆอีกเพียบ หน้าที่ของเราก็คือคอยรดน้ำใส่ปุ๋ย ซึ่งเวลาทำกับข้าวก็ได้ผลิตผลจากสวนเราเองนี่แหละประหยัดเงินตั้งเยอะ ส่วนเนี้อสัตว์นั้นจะเป็นปลาซะส่วนใหญ่ พูดถึงเรื่องปลาแล้วเรามีเรื่องขำๆจะเล่าให้ฟัง ตอนนั้นประมาณประถมต้น คุณทวดจะทำอาหารเย็น ก็บอกให้เราเอาปลาในตุ่มน้ำไปปล่อย เราก็งง เอ๊..พูดผิดหรือเปล่าเนี่ย ลองถามใหม่ซิ แต่คุณทวดก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าให้เอาไป "ปล่อย" เรากับพี่ก็เลยเอาเจ้าปลาตัวนั้นไปปล่อยในบ่อน้ำข้างบ้าน พอถึงบ้านคุณทวดก็ถามว่าเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย เราก็ว่าเรียบร้อยแล้ว คุณทวดว่าเอาไว้ไหน เราก็บอกว่าอยู่ในบ่อน้ำข้างบ้าน เท่านั้นแหละพี่น้องคะ คุณทวดโวยวายลั่นบ้านเลย จนญาติคนอื่นๆต้องออกมาถามเป็นอะไร พอเราบอกให้ฟังพวกเขาพากันหัวเราะกันใหญ่เลย เราก็งงว่าทำไมคุณทวดต้องโวยวายและเขาหัวเราะกันทำไม จนคุณยายต้องอธิบายว่า "ปล่อย" ของคุณทวดหมายถึง "จัดการ" มันซะเพื่อจะเอามาทำกับข้าว แต่ที่ต้องพูดแบบนั้นเป็นเพราะว่าคุณทวดอยู่ในช่วงถือศีลตอนเข้าพรรษา (แล้วหนูจะรู้มั้ยเนี่ย) นึกถึงเรื่องนี้ที่ไรเป็นต้องขำทุกที
ตอนยังเด็กยังเลือกของกินไม่ได้ ผู้ใหญ่ให้อะไรก็ต้องกิน จนโตเรียนอยู่ปวช.ก็เรื่มเลิกกินเนื้อวัวเนื้อควาย เหตุผลก็ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่สงสารมันเท่านั้นเอง คือว่าเราเห็นมันอยู่บนรถที่จะเอาไปโรงฆ่าสัตว์ พวกมันน้ำตาไหลเป็นทางเลย คงรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับมัน (มันเป็นสัตว์กินพืชนะทำไมต้องถูกกินเนื้อด้วย) เราตัดใจเลิกกินเดี่ยวนั้นเลยทั้งๆที่เราชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อมากโดยเฉพาะเอ็นตุ๋น ชอบมากกกกกกกกกก ปัจจุบันก็เลิกกินเนื้อหมูด้วย เริ่มเมื่อปลายปีนี้เองเหตุผลก็คล้ายๆกัน คือเราเห็นมันบนรถขนเพื่อไปโรงฆ่าสัตว์ พวกมันก็อยู่ในกรงปกติแต่พอรถจะเลี้ยวเข้าโรงฆ่าสัตว์พวกมันพากันร้องระงมไปหมด ก็เออเนาะ ชีวิตใครใครก็รัก ถ้าเป็นเราถูกเขาต้อนไปทำแบบนั้นบ้างเราจะเป็นยังงัยหนอ
ถ้าให้เลือกได้คิดว่าคงไม่มีใครอยากกินชีวิตคนอื่นเพื่อต่อชีวิตตัวเอง แต่บางครั้งมันก็ไม่มีทางให้เลือกมากนัก
หนึ่งปีมี365วัน ที่เราต้องเบียดเบียนและกินชีวิตคนอื่นเพื่อชีวิตตัวเอง และถ้าแค่ 9 วันที่เราจะหยุด ไม่ต้องกิน ไม่ต้องเบียดเบียนชีวิตคนอื่นจะได้ไหมคะ