ตารางวิเคราะห์หลักสูตร
ครูกระดาษทราย
วันนี้ฉันมาถึงคณะก่อนแปดโมงเช้า มีที่จอดรถให้เลือกตามใจชอบ ฉันจอดไว้หน้าคณะสังคมศาสตร์ ยังไม่มีใครมาถึง ฉันจึงไปนั่งรอเรียนที่ตึก ๑๒ ชั้นล่าง หยิบโน้ตบุ้คขึ้นมาเปิด Wireless มีสัญญาณดีมาก แน่นอนเวปที่เปิดต้องเป็นเวปบ้านกลอนเรานี่เอง อ่านกลอนของคนนั้นคนนี้ เพลินจัง แต่งเก่งกันทั้งนั้น แฮะๆๆ ฉันก็แต่งได้แต่ไม่เก่งเท่าหลายๆ คนที่เข้ามาเขียนไว้ นึกแล้วก็อยากกลับไปกินลูกท้อดอง อิอิอิ นั่นยายติ๊ก ครูสระแก้ว เดินมืดฟ้ามัวฝนมาก่อนใคร ตามด้วยยายเนตร ครูสระบุรีและยายปลา เจ้าของสวนผลไม้มีชื่อเสียงในจังหวัดระยอง เป็นยายกันหมดเลย มากันไกลเหลือเกิน ไม่มีใครจะสบายเท่าพี่เล็ก พี่วิ และฉัน มีบ้านอยู่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยเท่าไรนัก ติ๊ก เนตร ปลา เอากระเป๋ามาวางแหมะให้ข้าพเจ้านั่งเฝ้า แล้วรีบไปโรงอาหาร ท้องว่างมาด้วยเพราะเดินทางไกล
อ้าวจะแปดโมงแล้ว เจ้าแฝด ครูเมืองลิง ลพบุรี โทรศัพท์มา ขึ้นมาได้แล้ว อาจารย์มานั่งรอแล้ว ฉัน พี่วิ รีบขึ้นไปก่อน หอบหิ้วเสบียงไปด้วย แหะๆๆ ยังไม่ได้ปิดโน้ตบุ้คเลย ยกไปร้อนๆ ปิดแต่หน้าจอไว้ละกัน ห้องเรียนอยู่ชั้น ๖ อาจารย์นั่งรอลูกศิษย์เรียนร้อยเชียว ฉันแก้เก้อด้วยการทักทายว่า อาจารย์ทานอะไรหรือยัง พร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้ ทั้งๆ ที่ทราบคำตอบล่วงหน้าแล้วว่า อาจารย์ท่านนี้ไม่ทานข้าวเช้า แต่ดื่มนมสดแทน ข้าพเจ้าก็ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมพอ ๆ กันล่ะ เพราะเพิ่งดื่มตอนนั่งรอไม่พ้น ๓๐ นาทีนี้เอง
วิชาแรกก็เรียน วิจัยบทที่ ๓ เรื่องวิธีดำเนินการวิจัย ว่าด้วยประชากร กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย วิธีการ ทดลองพอมาถึงสถิติที่ใช้ในการวิจัย เราก็ได้คิดเลขกัน อาจารย์ก็ให้สูตรทางการวิเคราะห์ข้อมูล ของอาจารย์ล้วน สายยศ เราก็คำนวณกัน อย่างไม่สนุกเท่าไรนัก หมดชั่วโมงเรียนอาจารย์ก็สั่งการบ้านว่า ให้นิสิตไปเขียนวิจัยบทที่ ๓ มาเสนอให้อาจารย์ดูในสัปดาห์หน้า โอ! บทที่ ๑ และ ๒ ยังไม่ลุล่วงเท่าไรนัก อัดบทที่สามเลยน้า
วิชาที่สอง หลังจากที่ทำความเคารพอาจารย์เรียบร้อย อาจารย์ก็พูดคุยเรื่องกำหนดการจัดสัมมนาของนิสิตปีที่ ๒ คือกลุ่มพวกฉันนี้เอง เราก็ได้กำหนดการเชิญวิทยากร จากจังหวัดอยุธยา มาอบรมเรื่องการเขียนข้อสอบเชิง คิด วิเคราะห์ มาในวันที่ ๑๓ กันยายนที่จะถึงนี้ จากนั้นอาจารย์ก็ทวงข้อสอบของทุกคน แล้วก็สอนเรื่องการวิเคราะห์ข้อสอบ แล้วให้แต่ละคนนำข้อสอบของตนมา วิเคราะห์ใส่ตาราง ยุ่งล่ะสิ เพื่อน ๆ บางคนก็ฉีกกระดาษสมุด บ้างไม่นำกระดาษมาก็ขอกันวุ่นวาย ฉันก็มีกระดาษเหมือนกัน แต่เป็นกระดาษไม่มีเส้น ทุกคนต้องตีตารางกัน หันไปไม่มีใครพกไม้บรรทัดยาวๆ เหมือนนักเรียนชั้นประถมศึกษากัน พวกเราพกไม้บรรทัดสั้นๆ มาก็นับว่าดีแล้ว ท่านอาจารย์ผู้สอนอดรนทนไม่ไหว ท่านยิ้มแบบละอาพวกเราแน่เลย แล้วเดินออกไปนอกห้อง เดินกลับเข้ามาพร้อมไม้บรรทัดขนาด ๑ ฟุต สามอัน พี่วินั่งข้างๆ ฉันเธอก็รับจากอาจารย์มาตีตารางก่อน โอ! กว่าจะตีเสร็จ เราก็นั่งอ่านข้อสอบรอ พอพี่วิตีตารางเรียบร้อยก็ส่งมาให้ฉันใช้ต่อ ตอนนี้เราเหมือนนักเรียนที่เราสอนในชั้นเรียนเลย คือไม่ว่าจะเป็นน้ำยาลบคำผิด ปากกาแดง ไม่บรรทัด พวกเขาจะยืมกันทุกที่ ไม่มีใครมีสมบัติครบ เราก็ดุนักเรียนเป็นประจำ วันนี้เราเป็นกันเสียเอง นี่ถ้านักเรียนเข้ามาเห็นคุณครูเรียน พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ตรงไหนกัน ถ้าไม่เอาไว้บนคอของพวกเรา
ท่านอาจารย์เดินมาใกล้ ๆ ทักทายฉัน นี่ หนูยังไม่เริ่มวิเคราะห์เหรอคะ
ข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม พร้อมกับตอบว่า หนูรอไม้บรรทัดอยู่ค่ะ
ดูเอาสิตอบเหมือนเด็ก ๆ เราอีกแล้ว ยี่สิบห้านาทีผ่านไป งานของทุกคนก็เสร็จ อาจารย์ให้ส่งทีละคน พวกเราได้รับคำติและชม กันมากมาย เฮ้อ! จะหมดเวลาเรียนแล้ว อาจารย์สั่งการบ้านให้ไปออกข้อสอบ คิดวิเคราะห์ นำเสนอในสัปดาห์ต่อไป แล้วอาจารย์ยังหันมาบอกเหมือนที่ฉันเคยบอกกับนักเรียนว่า
ไม้บรรทัดน่ะคืนด้วยนะคะ แหะๆๆๆ อายจัง