ว.วชิรเมธี เขียน “ความเป็นกลาง = ความเป็นก้าง” (จากเนชั่นสุดสัปดาห์)

ลักษมณ์

ว.วชิรเมธี เขียน ความเป็นกลาง = ความเป็นก้าง (จากเนชั่นสุดสัปดาห์) 
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 กรกฎาคม 2551 06:14 น.
 
ผู้จัดการออนไลน์  ท่าน ว.วชิรเมธี ชี้ทางสว่าง ระบุในทางพุทธ ความเป็นกลางทางการเมืองคือ การยืนอยู่ข้างธรรมะและความถูกต้อง มิใช่การอยู่เฉยๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะการอยู่เฉยๆ นั้นจะนำประเทศไทยไปสู่หายนะ สงสัยระบบการศึกษายิ่งสอนยิ่งทำให้คน เชื่อง ส่วนพระสงฆ์ควรเป็นต้นแบบของการวางตัวเป็นกลางทางการเมือง โดยต้อง ถ่ายทอดธรรม ให้กับนักการเมือง แต่ไม่เล่นการเมือง
       
       นิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 หน้าที่ 54 ในคอลัมน์ธรรมาภิวัฒน์ ว.วชิรเมธี หรือ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ได้เขียนบทความเรื่อง ความเป็นกลาง = ความเป็นก้าง อธิบาย เหตุผลในการวิจารณ์ทางการเมืองของท่านที่ส่งผลเสียต่อรัฐบาล
       
       ทั้งนี้ ท่าน ว.วชิรเมธี อธิบายว่า ท่านไม่เห็นด้วยกับทัศนะของคนไทยส่วนใหญ่ที่ระบุว่า พระต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองด้วยการไม่พูดถึงการเมือง ไม่เล่นการเมือง และควรจะปล่อยวางเรื่องทางโลก มุ่งดับกิเลศอย่างเดียว โดยให้เหตุผลว่า ในทางพุทธศาสนา ความเป็นกลาง ก็คือ ความเป็นธรรม ธรรมะคือความถูกต้อง ... ดังนั้น ภาวะที่เป็นกลาง การวางตัวเป็นกลาง ก็คือ การวางตนอยู่กับธรรมและธรรมอยู่กับใคร เราก็ควรจะสังกัดอยู่ในฝ่ายนั้น การเป็นกลางจึงไม่ได้หมายถึงการไม่เลือกฝ่าย
       
       นอกจากนี้ ว.วชิรเมธี ยังกล่าวด้วยว่า ความเป็นกลาง ที่คนส่วนใหญ่ รวมถึง นักวิชาการ สื่อมวชนอ้างถึงนั้นเกิดจากความไม่รู้ การอยู่เฉยๆ ไม่เรียกว่า การวางตนเป็นกลาง แต่ควรเรียกว่า วางตนเป็น ก้าง คือ คอยขวางไม่ให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคม ... น่าเป็นห่วงมากที่ในสังคมไทยของเราคิดกันตื้นๆ ว่า การวางตนเป็นกลาง คือ การอยู่เฉยๆ และก็คนกลุ่มใหญ่พยายามขยายแนวคิดนี้ออกไปจนทำท่าจะเห็นดีเห็นงามกันทั้งประเทศ
       
       ระบบการศึกษาของคนไทยนี้มันผิดปกติตรงไหนหรือเปล่าที่เมื่อศึกษากันไปๆ ทำไมคนไทยถึงได้ เชื่อง มากขึ้นทุกที มหาวิทยาลัย , สื่อมวลชน, วัฒนธรรม ที่ทำให้คนมีความแกล้วกล้าอาจหาญในการที่จะเผชิญกับความอยุติธรรม, ความเลวร้าย, ความฟอนเฟะ, ความสามานย์ของชนชั้นนำ หรือ ของคนทั่วไป ซึ่งเต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบายกลายเป็นจิ้งจอกของสังคม หายไปไหนกันหมด
       
       บ้านเมืองที่มากไปด้วยคนที่วางตัวเป็นกลางด้วยการอยู่เฉยๆ นั้น ไม่ต่างอะไรกับการเปิดทางให้ประเทศเดินเข้าสู่ความหายนะอย่างถาวรด้วยความยินดี ความสงบสุขที่ปราศจากปัญญานั้น เป็นความสงบสุขของป่าช้ามากกว่าของอารยชน ความนิ่งที่เกิดจากพื้นฐาน คือ ความกลัวนั้นไม่ต่างอะไรกับความนิ่งของสิงโตหินตามวัด
       
       ขณะเดียวกันบทความชิ้นดังกล่าวยังอ้างอิงถึงสมัยพุทธกาลด้วยว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นนักประชาธิปไตย นักสิทธิมนุษยชน โดยหักล้างคำสอนเรื่องพระพรหม เรื่องระบบวรรณะ นอกจากนี้พระพุทธเจ้ายังทรงแสดงธรรมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเอาไว้มากมาย ทรงห้ามทัพ ทรงเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับสงครามระหว่างรัฐต่างๆ รวมถึงเสนอระบบเศรษฐกิจแบบ ทางสายกลาง ที่เน้นการบริโภคเพื่อความอยู่รอดมากกว่าการบริโภคเพื่อความมั่งคั่งอย่างไม่รู้จบด้วย
       
       ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าพระสงฆ์ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ว.วชิรเมธี จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตามคำสอนของพุทธศาสนา พระสงฆ์ควร ถ่ายทอดธรรม ให้กับนักการเมืองได้ แต่เล่นการเมืองไม่ได้และควรเป็นต้นแบบในการวางตนเป็นกลาง ด้วยการเลือกยืนอยู่ข้างธรรมะ ธรรมะอยู่ที่ไหน พระก็ควรอยู่ที่นั่น
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น 
 
ว.วชิรเมธี (ภาพจาก www.tamdee.net) 
 
นิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000082472				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    19 กรกฎาคม 2551 08:14 น. - comment id 100613

    ความเป็นกร่างมาแล้วค่ะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ลักษมณ์

    20 กรกฎาคม 2551 21:21 น. - comment id 100628

    จอมบงการมาเองเลยหรือนี่
    
    ตัวใครก็ตัวใคร
    ไปก่อนแล้วครับ
    11.gif
  • เพียงพลิ้ว

    21 กรกฎาคม 2551 07:54 น. - comment id 100639

    ยังไม่ได้บงการเลยค่ะ จะรีบไปไหน ^_^
    
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ลักษมณ์

    21 กรกฎาคม 2551 21:14 น. - comment id 100658

    11.gif
  • L

    26 กรกฎาคม 2551 01:27 น. - comment id 100711

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000087426
    
    คือคดีอาชญากรรมซึ่งหน้า ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองอาจยังกำลังนั่งรอการมาแจ้งความของผู้เสียหายตามกฎหมาย และตามกฎหมายที่เจ้าหน้าบ้านเมืองที่สามารถจับผู้ทำผิดซึ่งหน้าได้ตามกฎหมาย นอกจากการยืนดูการทำผิดซึ่งหน้า
  • L

    26 กรกฎาคม 2551 01:48 น. - comment id 100714

    ขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองผู้ที่ยังมีหัวใจเป็นธรรม
  • L

    26 กรกฎาคม 2551 02:27 น. - comment id 100717

    ขอให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองผู้ที่ยังมีหัวใจเป็นธรรม 
    
    ชมคลิปลิ่วล้อ สัตว์นรก สุดเถื่อน ไล่ขย้ำทำร้ายพันธมิตรอุดรฯ (มีใหม่อีก 3 ชุด)
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กรกฎาคม 2551 01:59 น.
    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000087426
    
    28 ก.ค. 2551
    14.00 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีหวยบนดินหรือไม่ อ่านต่อ
    http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000078347
    
    30 ก.ค. 2551
    10.00 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งให้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ให้พม่าหรือไม่ อ่านต่อ
    http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000078347
    
    31 ก.ค. 2551
    9.00 ศาลอาญานัดนัดอ่านคำพิพากษาคดีคุณหญิงพจมาน ชินวัตรและพวกเลี่ยงภาษีหุ้น บ.ชินวัตร คอมพิวเตอร์ อ่านต่อ
    http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000078629
    
    มหาวิทยาลัยราชดำเนิน
    http://manager.co.th
  • L

    30 กรกฎาคม 2551 01:45 น. - comment id 100773

    แฉ! หมอผีเขมรเตรียมทำพิธีกดดวงเมืองไทย 1 ส.ค.นี้ ช่วงสุริยุปราคา 
    
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2551 16:16 น. 
    
    
    
       
      
      
       
    ภาพพิธีบูชา มูระติในอุทยานปราสาทหินพนมรุ้ง 
    
    
    
    
    คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น 
    
    
    
    
    
    
    
      ศูนย์ข่าวศรีราชา - แฉหมอผีเขมรรวมพลังทำไสยศาสตร์กดดวงเมืองไทย ไม่ให้เงยหัวมาต่อกร ขอคืนเขาพระวิหาร และเกาะกูด ในวันอาถรรพ์สุริยุปราคา พระอาทิตย์อมจันทร์ 1 สิงหาคม 2551 แนะกลุ่มพันธมิตรฯ และประชาชนคนไทยช่วยแก้อาถรรพ์ ใส่เสื้อสีเหลืองพระราชาทั่วประเทศ ทำพิธีบวงสรวงขอบารมีพระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย จะเกิดแสงสว่างลบล้างอาถรรพ์
           
           วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำพื้นที่เขตทหารเรือ ได้รับการบอกเล่าจากแหล่งข่าวชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้มีความใกล้ชิดกับบรรดาหมอไสยศาสตร์กัมพูชาว่า ในวันที่ 1 สิงหาคม 2551 นี้ ซึ่งตรงกับวันศุกร์แรม 15 ค่ำ เดือน 8 ตรงกับวันพระ ตามคำทำนายทางโหราศาสตร์ถือเป็นวันอาถรรพ์ คือ เป็นวันที่พระอาทิตย์อมจันทร์ หรือสุริยุปราคา จะเกิดขึ้นในเวลา 17.11 น.เป็นต้นไป และอาจจะกินไปจนถึงเวลา 21.00 น.
           
           ในเวลานี้จะมีหมอผีเขมรที่เก่งทางด้านดาราศาสตร์ ไสยศาสตร์ ลงมติกันว่า ถ้าจะทำให้ประเทศไทยอ่อนลงด้วยนานาประการ หรือเกิดความอ่อนแอทุกด้าน ทั้งผู้ครองประเทศ และกำลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองดูแลอยู่ในแผ่นดินไทย โดยคิดจะพากันขึ้นไปกระทำพิธีกดดวงประเทศ ดวงแผ่นดิน และดวงอำนาจ กลางใจปราสาทเขาพระวิหาร ในวันดังกล่าว ขณะที่เกิดพระอาทิตย์อมจันทร์
           
           แหล่งข่าวได้แจ้งมาอีกว่า จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่พิธีกดดวงแผ่นดินไทย ดวงอำนาจทั้งหมดในประเทศไทย ในตอนเย็นของวันที่ 1 สิงหาคม 2551 นั้น จะเป็นพิธีหนึ่งที่ทางหมอผีเขมรคาดหวังว่า จะสามารถกดดวงเมืองของประเทศไทยได้ ทุกอย่างจะอ่อนแอทั้งหมด แม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตในแผ่นดินไทย ก็จะทำให้กัมพูชาสามารถทำอะไรได้มากขึ้น โดยเฉพาะการไม่ให้ประชาชนออกมาต่อต้านเรื่องของเขาพระวิหาร และ เกาะกูด รวมถึงดินแดนทางทะเลทั้งหมด และหากหมอผีเขมรทำสำเร็จ รับรองได้ว่าประเทศไทยอ่อนแอลงอย่างแน่นอน และจะไม่สามารถต่อสู้เรียกคืนแผ่นดินที่กำลังจะสูญเสียอยู่ในขณะนี้ได้
           
           อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีแก้ไข ก็คือ การใช้สีเหลืองมาสยบ เพราะสีเหลืองเป็นสีแห่งความสำเร็จ สีแห่งแสงสว่าง และที่สำคัญ เป็นสีประจำองค์พระราชา ก็คือ พระราชาได้พระราชสมภพในวันจันทร์ และด้วยบารมีของพระองค์ท่านก็จะสามารถต่อต้านกับสิ่งชั่วร้ายได้ แต่ถ้าจะให้ดีประชาชนทั่วประเทศต้องช่วยกันแก้เคล็ด ด้วยการใส่เสื้อเหลืองในวันดังกล่าวตลอดทั้งวันจนกว่าพระอาทิตย์จะคายพระจันทร์ออกมาจนหมด และปฏิบัติตามประเพณี ก็คือ มีการตีปี๊บ ตีกะลา และส่งเสียงอึกทึกเพื่อให้พระอาทิตย์คายพระจันทร์อย่างรวดเร็ว และถ้ามีการร่วมจิตร่วมใจกันทำได้เช่นนี้ก็จะแก้อาถรรพ์ได้ระดับหนึ่ง
           
           โดยขณะนี้คนไทยไม่สามารถขึ้นไปบนยอดปราสาทเขาพระวิหารได้ แต่ชาวกัมพูชายังสามารถหาวิธีเข้าไปได้ กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรฯ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นต้องทำการสกัดกั้น หรือทำให้ไม่สามารถทำพิธีสำคัญนี้ได้ ขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และสถานที่อื่นๆ ที่มีการรวมตัวกันนำ บายศรีเทพ บายศรีปากชาม น้ำ หวีห่าง หรือหวีเสนียด ดอกไม้ พวงมาลัยมะลิ และผลไม้มงคล ทำพิธีบวงสรวงขอพรอำนาจบารมีของ พระสยามเทวาธิราช เพื่อคุ้มครองแผ่นดินไทย และประชาชนชาวไทยทุกคน โดยต้องทำพิธีก่อนที่พระอาทิตย์จะอมจันทร์
           
           ตอนนี้สามารถสกัดกั้นการทำพิธีได้ ก็คือ เวทีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ต้องนำเรื่องนี้ออกมาตีแผ่ เพื่อให้กัมพูชารู้ว่าคนไทยรู้ถึงพิธีกรรมดังกล่าวแล้ว อาจจะทำให้พวกหมอไสยศาสตร์ลังเล หรือล้มเลิกพิธีดังกล่าวก็เป็นได้ เพราะคนไทยรู้ทัน
           
           ที่ผ่านมา แหล่งข่าวประเภทนี้ไม่เคยให้ข้อมูลผิดพลาด แม้แต่เรื่องที่มีกลุ่มขึ้นไปทำพิธีไสยศาสตร์และทำลายวัตถุโบราณที่อุทยานแห่งชาติปราสาทหินพนมรุ้ง แท้ก็จริงเป็นลิ่วล้อของนักการเมืองที่เชื่อในไสยศาสตร์ต้องการทำลายกำลังดวงเมือง ดวงพระราชา และดวงแผ่นดินให้อ่อนลง ซึ่งทางตำรวจสันติบาลทราบดีว่าเป็นกลุ่มนักการเมืองที่จ้างหมอผีไปทำลาย แต่ไม่กล้านำข้อมูลมาเปิดเผย เพราะเกรงอิทธิพลทางด้านการเมือง
    
    http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9510000089164
    
    
    พันธมิตรฯจับตา 2 วันอันตราย 31 ก.ค.-1 ส.ค. ม็อบอัปรีย์จ้องป่วน 
    
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 กรกฎาคม 2551 20:58 น. 
    
    
    
    คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น 
    
    สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ 
    
    
    
    
      สุริยะใส ชี้ ไม่เหนือความคาดหมาย กรณีลูกจ้าง.ศธ.ฟ้องศาลแพ่ง ให้รื้อเวทีพันธมิตรฯ เผย แกนนำรู้ทัน ยื่นร้องคัดค้านแล้ว เชื่อสามารถชุมนุมต่อได้ พร้อมยื่น ป.ป.ช.เอาผิดนักการเมืองชักใยเบื้องหลังม็อบถ่อยทำร้ายพันธมิตรอุดรฯ แนะจับตา 2 วันอันตราย 31 ก.ค.ตัดสินคดี เมียแม้ว หนีภาษีหุ้น - 1 ส.ค.เปิดสภาดันทุรังแก้ รธน.คาดม็อบอัปรีย์จ้องป่วน
           
           วันนี้ (29 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเวทีการชุมนุม โดยระบุถึงกรณีที่ข้าราชการลูกจ้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ยืนคำร้องต่อศาลแพ่ง โดยอ้างว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมของพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวาน ว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหนือความคาดหมายมากนัก เพราะเป็นวิธีการที่ รัฐบาลหุ่นเชิด พยายามสกัดการชุมนุมมาโดยตลอด
           
           อย่างไรก็ตาม นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ครั้งนี้คงไม่ง่ายเหมือนกับกรณีที่ผู้ปกครองโรงเรียนราชวินิต เคยฟ้องร้องเมื่อครั้งก่อน เพราะว่าในครั้งนี้ทันทีที่เราได้ทราบข่าวเมื่อช่วงสายของวันนี้ ทางแกนนำพันธมิตรฯและทนายความได้ทำเรื่องคัดค้านและยื่นต่อศาล โดยชี้ประเด็นว่ากรณีดังกล่าวไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลแพ่ง แต่อยู่ในขอบเขตของอำนาจศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการพิจารณากรณีนี้ หากมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามมาตรา 63 แห่งรัฐธรรมนูญ 2550 โดยเฉพาะสิทธิการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ในวันพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ศาลแพ่งจะอ่านคำสั่งว่าจะรับคำร้องหรือไม่ ซึ่งทางแกนนำพันธมิตรฯ และ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ จะเดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย ส่วนตัวรู้สึกมั่นใจว่า ศาลจะไม่รับคำร้องดังกล่าว เนื่องจากครั้งนี้เรามีคำคัดค้านดังกล่าวส่งไปด้วย เราเชื่อมั่นในข้อโต้แย้ง ซึ่งจะทำให้เราพิทักษ์สิทธิการชุมนุมได้ต่อไป
           
           นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า หากศาลมีคำสั่งให้ย้ายการชุมนุมทางพันธมิตรฯยังไม่มีแผนรองรับ ว่าจะย้ายการชุมนุมไปที่ใด แต่ขณะนี้ได้มีการศึกษาพื้นที่ไว้หลายสถานที่แล้ว เบื้องต้นพันธมิตรฯพร้อมน้อมรับคำสั่งศาลไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด
           
           นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี กับพวก ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยให้กลุ่มประชาชนจำนวนมาก พร้อมอาวุธหลายชนิด บุกเข้าทำร้ายประชาชนที่จัดชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ณ บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ซึ่งมี นายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่จากการสอบถามพบว่า อำนาจหน้าที่พิจารณาเจาะจงเฉพาะข้าราชการประจำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 88 ของกฎหมายว่าด้วย ป.ป.ช.ซึ่งในส่วนนี้ทางพันธมิตรฯ ได้ทำคำร้องเพื่อยื่นให้พิจารณาเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดต่อข้าราชการการเมือง ซึ่งอาจมีบุคคลระดับรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในคำร้องดังกล่าวระบุถึงความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย โดยในพรุ่งนี้เวลา 14.00 น.ทางแกนนำพันธมิตรฯจะเข้ายื่นคำร้องเพิ่มเต็มดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.ทั้งนี้ โดยอ้างอิงอำนาจตามมาตรา 66 พ.ร.บ.ป.ป.ช.นอกจากนี้ ยืนยันว่า คงไม่ใช่แค่กรณีจังหวัดอุดรธานีเท่านั้น แต่รวมถึงความรุนแรงที่เกิดใน จ.เชียงราย มหาสารคาม และ ศรีสะเกษ โดยทางเราจะมีการทำบัญชีผู้ถูกกล่าวหาแนบไปด้วย
           
           ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 สิงหาคม หลังมีการเปิดประชุมสภาทางพันธมิตรได้มีการประกาศไปแล้วว่าจะนัดชุมนุมใหญ่ในวันเดียวกันเวลา 14.00 น.ซึ่งเป็นไปได้ว่า จะมี ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันดังกล่าว ซึ่งขอยืนยันว่า จุดยืนและข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ คือ การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อฟอกผิดระบอบทักษิณ เราจึงจัดให้มีการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ส่วนรูปแบบในการชุมนุมจะมีการหารืออีกที แต่ในเบื้องต้นหากมีการเผชิญหน้า ทางเราได้มีการเตรียมการ และมีการปรับเปลี่ยนภายในพอสมควรแต่ยังไม่ขอเปิดเผย ตนเชื่อว่า ความรุนแรงที่กระจายตัวอยู่ต่างจังหวัดที่ผ่านมา สุดท้ายจะมาระเบิดที่ในกรุงเทพ โดยเฉพาะใน 2 วัน อันตราย คือวันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค.นี้ ซึ่งในวันที่ 31 ก.ค.ศาลอาญาจะอ่านคำพิพากษา คดีเลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ และในวันที่ 1 ส.ค.จะมีการเปิดสภาวันแรก และมีข่าวว่ามีการระดมพลมาเป็นจำนวนมาก
           
           นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ตนยังได้ข่าวจากข้าราชการกรมคุมประพฤติ ที่ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้คนที่ติดทัณฑ์บนและมีคดีติดตัวได้หายตัวไปอย่างผิดปกติเป็นจำนวนมาก อาจมีการสั่งเข้ามาที่ส่วนกลางซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ตนได้รับมาจากเครือข่ายแท็กซี่พันธมิตร เมื่อวานนี้ว่ามีผู้โดยสารพยายามซักถามถึงรูปพรรณสัณฐานของตน ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้กลัว แต่จะชี้ให้เห็นว่า มีการพยายามจะก่อเหตุหรือไม่ เหมือนเช่นกรณีการทำร้ายประชาชน ที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อ 2 ปี ก่อน ซึ่งพบในภายหลังว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นคนที่ถูกหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นคนของมาเฟียที่มีอำนาจรัฐ
           
           อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พันธมิตรฯได้มีการเตรียมพร้อมเป็นพิเศษเมื่อ 2 วันก่อน ก็มีการควบคุมตัวคนที่เข้ามาก่อกวนได้ 10 คน ซึ่งพบหลักฐานชัดเจน อาทิ บัญชีการจ่ายเงิน ซึ่งระบุ สถานที่รับจ่ายเงินบริเวณหน้าศาล หน้า ม.ธรรมศาสตร์ หรือบริเวณหน้าป้ายรถเมล์บ้าง พร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตลอด
           
           นายสุริยะใส กล่าวย้ำอีกว่า ในวันชุมนุมใหญ่ หากมีการเผชิญหน้า ทางพันธมิตรพร้อมรับมือและอยู่ในกรอบของการชุมนุมหากต่างฝ่ายอยู่ในกรอบก็คงไม่มีปัญหา
           
           สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในช่วงค่ำของวันนี้ ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก ในขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยของทีมพันธมิตรฯก็มีการเตรียมความพร้อมอย่างเหนียวแน่น มีการจัดทำตาข่าย บริเวณท้ายของการชุมนุมบริเวณแยกมิสกวัน เพื่อป้องกันสิ่งของขว้างปาจากภายนอก นอกจากนี้ยังมีผู้เข้ามาบริจาคอุปกรณ์ป้องกันตัว อาทิ ไม้กอล์ฟ 1 ถุง และยังมีการเพิ่มไม้เบสบอลแบบที่ทำเองประมาณ 30 อัน
    
    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000089339
ชื่อเรื่องสั้น-นิยาย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน