โจ๋ซ่ากับสี่ขาตัวป่วน(4)

ยักษ์ใหญ่ใจดี

ผมได้สติขึ้นมาอีกครั้ง แก้มยังไม่รู้สึกตัว ผมจะเข้าไปขยับตัวอีกครั้งแต่คราวนี้มือผมผ่านตัวเธอราวกับอากาศ
นี่มันอะไรกันเนี่ย ผมเริ่มสับสนไปหมด
ทำงานแบบนี้ก็ต้องอยู่ในร่างวิญญาณเป็นเรื่องธรรมดานั่นแหละ เจ้าบ้าสามหัวที่อยู่ข้างๆตอบ
แก.
หือ มีอะไร  จะขัดขืนเรอะ อยากไปอยู่ในนรกใช่มั้ย
ใครอ่ะ ผมถามซื่อๆ
ง่ะ.เจ้าเด็กบ้า.จำไม่ได้เรอะ ที่เจ้าถูกรถชนจนต้องให้พ่อข้าช่วยต่อชีวิตให้น่ะ
อ๋อ นึกออกแล้ว แล้วชั้นก็ต้องทำงานช่วยนรกเป็นการตอบแทนใช่มั้ย
ใช่ เร็วๆเข้า วิญญาณเพิ่งเกิดใหม่ ปล่อยไว้ยิ่งนานยิ่งจับยาก
เดี๋ยว ชั้นเป็นร่างวิญญาณอย่างนี้แล้วร่างเนื้อล่ะ
ไม่ต้องห่วง ร่างเนื้อข้าจับแยกไว้อีกมิตินึง เสร็จงานแล้วเดี๋ยวคืนให้
ทำอย่างกับยืมตังงั้นแหละ เดี๋ยว แล้วงานกีฬามหาลัยล่ะ ออกมากลางคันอย่างนี้ไม่เป็นไรหรอ
เรื่องมากเดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวซะนี่
เฮ่อ หวังว่าแป๊บเดียวนะ ผมตอบเซ็งๆ
ผมตามเจ้าบ้าสามหัวไปเรื่อยๆ สักพักก็พอเริ่มเข้าใจ อุบัติเหตุรถชนกันนี่เอง รถเก๋งกับแท็กซี่ คนขับซี้ไปแล้วทั้งคู่ แต่ดูท่าทางยังไม่รู้ตัวว่าตายไปแล้ว ยังเถียงกันไม่เลิก
แกนั่นแหละผิด
แกอยู่ดีๆเลี้ยวไม่เปิดไฟทำไมเล่า
กูรีบไปส่งรถเฟ้ย ข้ออ้างหลักๆของพวกขับแทกซี่
เอ่อพี่ๆคับ  ช่วยฟังทางนี้หน่อยนะคับ
อย่าเสือก!!! ทั้งสองพูดพร้อมกัน ผมเริ่มมีน้ำโห
เฮ้ย พวกมึง ตายไปแล้วยังจะเถียงกันอีกเรอะ!!
ตายไปแล้ว พูดเรื่องอะไรของแกคนขับแทกซี่พูดขึ้น
ลองหันไปดูผลงานที่ตัวเองก่อขึ้นสิ ผมพูดเรียบๆ ทั้งคู่หันไปดู ซากรถที่พังยับเยิน ร่างของทั้งคู่กำลังถูกลำเลียงเข้ารถปอเต๊กตึ๊ง ท่าทางเพิ่งรู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว เลยนิ่งเงียบ
เอาละ เมื่อเข้าใจแล้วก็ตามมาซะ
ว่าแต่ แกเป็นใครน่ะ ดูท่าทางน่าจะเป็นวิญญาณเหมือนกันนี่หว่า คนขับรถเก๋งพูดขึ้นบ้าง
ผมรับจ๊อบน่ะ พาวิญญาณบนโลกไปนรก
มีงี้ด้วยหรอ ปกติต้องเป็นสุวรรณกับสุวาณไม่ใช่หรอที่เห็นตามขายหัวเราะน่ะ ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันนะ
ไม่ใช่ มันต้องเป็นแสงสว่างต่างหากแล้วก็มีมือคนยื่นมา นิยายเรื่องไหนฟะ
อย่ามั่ว ทั้งสองพูดพร้อมกัน สงสัยเป็นคู่ตลกตั้งแต่ชาติปางก่อนมั้ง ผมคิด
ใช้มือขวาของเจ้ารับวิญญาณมาซะ ในที่สุดเจ้าบ้าสามหัวพูดขึ้น ผมดูมือขวาของตัวเอง จากมือธรรมดากลายเป็นมือโครงกระดูกที่มีชายเสื้อสีดำคลุมทับ ที่มือมีเคียวอยู่
ใช้เคียวตัดโซ่กรรมของเจ้าสองตัวนั่นซะ ทั้งสองเริ่มหวาดกลัว ผมไม่รอช้า วาดเคียวตัดโซ่กรรมที่ติดตัวทั้งสอง แต่วิญญาณกลับไม่หายไปหรือมีประตูโผล่ขึ้นแบบเรื่องbleachเลย
ต้องทำยังไงต่อล่ะ ผมถาม
ก็ต้องพาไปส่งที่ประตูนรกน่ะสิ เจ้าบ้าสามหัวกำลังคุยมือถือกับใครบางคนอยู่ พอดีเลย เดี๋ยวจะพาไปแนะนำกับยมทูตตัวจริงไว้น่าจะดีกว่า ผม วิญญาณทั้งสอง และเจ้าบ้าสามตัว พาไปอีกที่นึง สักพักผมเห็นชายสวมชุดผ้าคลุมสีดำ ไม่เห็นหน้า  มือมีแต่กระดูกเหมือนผมเลย ที่สำคัญวิญญาณนับร้อยถูกผู้ชายคนนั้นจูงอยู่ แต่ละดวงเงียบสงบไม่เหมือนสองดวงของผมที่เอาแต่ทะเลาะกัน
อ้าว ท่านอาเบล วันนี้มาเที่ยวบนโลกมนุษย์อีกแล้วหรอ ยมทูตพูดขึ้น ใครหว่าชื่อเชยระเบิด
ก็นะ ช่วงนี้เบื่อๆน่ะ เลยหาอะไรทำแก้เซ็ง เจ้าบ้าสามหัวตอบ เป็นแค่หมามีชื่อเรียกอย่างนี้เลยเรอะ
ไม่ใช่เป็นแค่หมาเว้ย นี่น่ะท่านอาเบล ถือเป็นผู้ใกล้ชิดกับท่านมัจจุราชเชียวนะ ยมทูตตนนั้นพูดราวกับอ่านใจผมออก
ว่าแต่ท่านอาเบล วันนี้ทำไมทำงานแทนยมทูตคนอื่นล่ะ
อ๋อ เปล่าน่ะ วันนี้แค่พาเด็กฝึกงานมาให้รู้จักเท่านั้น เอ้า นี่นาคิม ส่วนเจ้าเด็กใหม่ชื่อปังคุง
อืม แต่ดูท่าทางเจ้ายังไม่ได้เป็นวิญญาณเต็มตัวนี่นา นาคิมพูดขัดขึ้น
เรื่องมันยาวน่ะ  อีกอย่างส่วนที่เป็นยมทูตก็เป็นแค่มือขวาด้วย อาเบลตอบ
แต่ว่าเจ้าเด็กนี่ก็จะใช้ชีวิตตามปกติยังไงล่ะ
อันนั้นก็ต้องใช้เวลา มนุษย์ทั่วไปทำได้แบบนี้ก็ถือว่าแปลกแล้ว
แปลกหรือ? ยังไงล่ะ. ผมพูดขัดขึ้นบ้าง
พลังยมทูตน่ะ เป็นพลังที่ใช้ควบคุมวิญญาณ ใช้โดยวิญญาณที่อยู่บนโลกนี้มาไม่น้อยกว่าร้อยปีขึ้นไปโดยไม่เปลี่ยนไปตาม กิเลส ปกติแล้ววิญญาณธรรมดาจะถูกพลังนี้ควบคุม แต่เจ้ากลับไม่เป็นอะไรเลยใช่มั้ยล่ะ
ก็จริงนะ
เอาละ ได้เวลาส่งวิญญาณซักที นาคิมพูดพลางใช้เคียวยาวที่ถืออยู่วาดเรียบๆไปในอากาศหนึ่งครั้ง ช่องว่างสีดำปรากฏขึ้นพร้อมกับดูดวิญญาณที่ผมและนาคิมจับมาได้ หลังจากนั้นช่องว่างก็หายไปอย่างรวดเร็ว
หมดเวลาทำงานแล้ว เอาละ เจ้าก็ตั้งใจฝึกกับท่านอาเบลให้ดีแล้วกัน หลังจากนั้นนาคิมก็หายไปพร้อมกับลมพัดวูบนึง
เอาละ ข้าก็ขอตัวละนะ  แล้วก็ นี่ ร่างเนื้อเจ้า วันหลังข้าจะมาฝึกพลังยมทูตให้แล้วกัน อาเบลพูดจบผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองหนักอึ้งขึ้นในพริบตา ผมจับตัวเอง นี่คือเราเรอะ ตอนเป็นวิญญาณดีกว่านี้เยอะเลย ตัวเบากว่าเยอะ ผมคิดแปลกๆ เจ้าลูกหมาคลอเคลียไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อครู่เลย จริงสิ แล้วงานกีฬาล่ะ ผมนึกได้รีบกลับไปที่มหาวิทยาลัย อุ้มเจ้าหมามาด้วย ทำไงดีหว่า เล่นหายไปกลางคันแบบนั้น
         คนแรกที่ผมเจอคือ วิก
เธอไปไหนมาน่ะ ทุกคนตามหาเธอแทบแย่เลยรู้มั้ย
ขอโทษครับ คือว่า
จะขอโทษทำไมล่ะ ก็เธอทำหน้าที่ได้สุดยอดเลยนี่นา
หา ผมงงเต๊ก
จะ หา ทำไมล่ะ  ทุกคนรอเธออยู่นะ ทุกคนรออยู่? 
งั้นแก้มล่ะครับ ผมถามด้วยความรีบร้อน
ห้องพยาบาลน่ะ ไม่รู้เป็นอะไรอยู่ๆเป็นลมกลางคันอย่างนั้น ตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล นี่จะรีบไปไหนน่ะ ผมนึกถึงเธอคนแรกเพราะไม่รู้ว่าเธอได่เห็นภาพอะไรจนทำให้เธอหมดสติไป 
แก้ม!! ภาพที่ปรากฏต่อหน้าผม ไม่จริง!!!
ซู้ดดดด แหม่ นานๆทีได้กินบะหมี่ถ้วยจนหายอยากนะเนี่ย อ้าว ปัง มากินด้วยกันมั้ย พอดีฉันเห็นใครไม่รู้ทิ้งไว้เลยจิ๊กมากินน่ะ ลืมบอกไป ยัยนี่ชอบกินบะหมี่กระป๋องมากแต่ที่บ้านไม่ให้กินเลยต้องมาหากินเอาตามมหาลัย
ยัยบ้า เพิ่งฟื้นตัวมากินแบ.บ. ก่อนพูดจบ  ฉึกๆๆ ไม้จิ้มฟันปักข้างหัวผมโดยไม่รู้ตัว
 หนกขู คนมันอยากกินนี่ยะ
เออช่างเหอะ ว่าแต่ไม่เป็นไรใช่มั้ย อยู่ๆเป็นลมไปแบบนั้นน่ะ 
อืม ขอโทษนะ ทำให้เธอต้องเดือดร้อนไปด้วย           
ไม่เป็นไรหรอกน่า ผมพูดพลางลูบหัวเธอเบาๆ ว่าแต่ถามอะไรแปลกๆหน่อยนะ จำอะไรได้บ้างมั้ยก่อนที่จะเป็นลมไปน่ะ
อืมก็แค่ทะเลาะกันเรื่องลูกหมา จากนั้นหรอ จำไม่ได้แล้วอ่ะ ทำไมหรอ แก้มพูดพลางเกาหัว
เอาเถอะ วันนี้กลับไปนอนก่อนเถอะ พักนี้คงเหนื่อยสินะ
อือ จริงด้วย ว่าแต่ขอกินหมี่ป๋องให้เสร็จก่อนนะ แก้มพูดซื่อๆ
ยัยบ้า แอบเอากลับไปกินที่บ้านก็ได้นี่นา
ตาบ้า ขืนพ่อแม่ชั้นจับได้ก็ซวยดิ ผมคุยสัพเพเหระกับแก้มไปเรื่อยจนเย็นแล้วก็กลับบ้าน คืนนั้น ก่อนนอน    อาเบลอยู่กับผมในร่างวิญญาณ
อย่างเมื่อตอนกลางวันนี้ ที่มือเจ้ากลายเป็นแขนยมทูตไปส่วนนึงได้เพราะว่าข้าแบ่งพลังให้ส่วนนึง ลองมาคิดดูแล้วที่เจ้าไม่โดนพลังกลืนกินเข้าไปเจ้าก็น่าจะมีพลังยมทูตอยู่ด้วย
อย่างนั้นหรือ แล้วทำยังไงถึงจะเรียกพลังยมทูตออกมาได้ล่ะ ผมชักเริ่มตื่นเต้น 
ใจเย็นก่อนเจ้าหนู เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมมันให้ได้ก่อน ก่อนอื่นข้าจะเปิด ประตู ของเจ้าก่อน จำความรู้สึกให้ดีล่ะ คราวหลังจะได้เปิดได้ด้วยตัวเอง พยายามควบคุมให้ดีด้วยล่ะ หลังจากนั้นอาเบลได้เอากรงเล็บจิ้มทะลุหน้าผากผม บางสิ่งบางอย่างกำลังไหลครอบคลุมทั่วร่าง ร่างผมจากที่เป็นร่างธรรมดาเริ่มกลายเป็นร่างยมทูตอย่างช้าๆ
เอาล่ะ ลองหยุดแค่ครึ่งบนตัวก่อนซิ อาเบลสั่ง
หยุดยังไงล่ะ
ก็แค่ใช้พลังวิญญาณหยุดมันก็พอแล้วนี่
แล้วทำยังไงล่ะ
ก็แค่ตั้งสมาธิ บังคับให้พลังวิญญาณไปหยุดพลังยมทูตก็พอแล้ว พลังจิตใจคือต้นกำเนิดพลังวิญญาณนั่นล่ะ ผมลองตั้งสมาธิพร้อมนึกว่า จงหยุดๆ สักพัก ร่างยมทูตของผมก็เริ่มหยุดตรงส่วนลำตัว
เอาล่ะ ข้าจะปิด ประตู ละนะ ทีนี้เจ้าลองใช้พลังวิญญาณเปิดมันออกมาดู ช้าๆนะ อาเบลผลักพลังยมทูตของผมพร้อมปิดประตูกลับเข้าสู่สภาพเดิม  ผมบังคับพลังวิญญาณตัวเอง ค่อยๆค้นหาประตูที่ว่า เมื่อเจอแล้วจึงเริ่มเปิด แต่พลังยมทูตไหลออกมาเร็วกว่าที่คิด
เจ้าบ้า หยุดพลังไว้ก่อน ผมหยุดพลังยมทูตไว้
เอาล่ะ แล้วค่อยปล่อยมันอย่างช้าๆนะ จนทั่วร่าง พอถึงจุดนั้นแล้วค่อยหยุด 
ดูแล้วเหมือนเปิดปิดก๊อกน้ำเลยแฮะ
ก็คงใช่ ผมหยุดพลังยมทูตไว้เมื่อพลังครอบคลุมร่างได้พอดี
เอาล่ะ กลับสู่สภาพเดิมซะแล้วก็วันนี้ก็แค่นี้ละ อาเบลสั่ง
แค่นี้เองหรือ น่าจะสอนอะไรมากกว่านี้นะ ผมท้วง
จะรีบร้อนไปไหน ถ้าเจ้าควบคุมพลังไม่ได้ข้าก็จะเดือดร้อนอีกน่ะสิ
เดือดร้อน? ยังไงล่ะ
อธิบายตอนนี้ยังไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก ว่าแต่เปลี่ยนเรื่องหน่อยนะ จำเด็กที่อยู่กับเจ้าที่เวทีงานกีฬามหาลัยได้มั้ย
แก้มน่ะหรอ ทำไมล่ะ
ที่เด็กคนนั้นสลบไปเพราะเห็นข้าน่ะสิ
แล้วยังไงล่ะ ผมไม่ค่อยสนใจเพราะดูเหมือนแก้มจะจำอะไรไม่ค่อยได้
มนุษย์ที่เห็นข้าที่เป็น สัตว์ปีศาจ หรือสิ่งมีชีวิตของนรกได้ด้วยตาเปล่าน่ะ ต้องมีพลังวิญญาณสูงทีเดียว ระวังไว้ด้วยล่ะ
ระวังหรือ จากอะไรล่ะ ผมถามงงๆ
ก็นะ บางทีก็มีวิญญาณที่ตกค้างในโลกมนุษย์ที่ยมทูตไม่ได้เก็บ วิญญาณเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะถูก กิเลส ครอบงำจนกลายเป็นภูตผี ยิ่งเวลาผ่านไปก็จะกลายเป็นปีศาจ แล้วพวกนี้ก็กระหายวิญญาณมีพลังสูงด้วย
หมายถึงว่า เธออาจโดนภูตผีเหล่านี้เล่นงานเมื่อไหร่ก็ได้น่ะสิ
ใช่แล้ว แต่ถ้าเจ้าเป็นยมทูตเร็วขึ้นเมื่อไหร่ เจ้าก็คงปกป้องเด็กคนนั้นได้ละนะ ไม่ต้องห่วงไป 
ว่าแต่ตอนที่ชั้นอยู่ในร่างวิญญาณแล้ว ดูเหมือนร่างเนื้อจะยังไม่ได้ส่งไปอีกมิตินี่นา ผมชักสงสัย
คิดไปเองรึเปล่า ข้าส่งร่างเนื้อเจ้าไปเองกับมือเลยนา
ไม่ใช่สิ  ตอนที่กลับมาที่มหาลัย ดูเหมือนชั้นจะยังอยู่ในงานนะ
อืม หรือว่า.เฮ้ย !!เจ้าสองตัวน่ะ สองหัวที่หลับมาตลอดลุกขึ้นมาแก้ตัวเขินๆ
อ้าว ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ เจ้าก็ไม่ได้เสียงานน่ะ
อืม แต๊งกิ้วหลายๆ
บ่เป็นหยัง
คืนนั้นผมนอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ แต่เป็นเรื่องของแก้มมากกว่า ถ้าเราเป็นยมทูตได้เราก็จะปกป้องเธอไว้ได้ แต่เราจะทำได้รึเปล่านะ ท่าทางพลังนี้ยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้ซะด้วยซิ ผมคิดวนไปวนมาจนหลับไป				
comments powered by Disqus
  • นาฬิกาตาย

    8 มิถุนายน 2551 15:07 น. - comment id 100446

    เรื่องจริงรึป่าว
  • ยักษ์ใหญ่ใจดี

    8 มิถุนายน 2551 16:09 น. - comment id 100448

    จินตนาการบวกกับเรื่องBleachน่ะคับ แต่ผมพยายามฉีกแนวให้เหมือนน้อยที่สุด บวกกับมุข และแนวเรื่องของผมเอง ยังไงก็ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยนะคับ งุงิ11.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน