ชายหนุ่มยิ้มระเรื่อเมื่อเห็นสาวน้อยเจ้าเสน่ห์ที่ตรึงใจเขาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบ นั่งบรรเลงระนาดอยู่ที่เพิงดนตรี ณ สวนหลังบ้านของเจ้าคุณปู่ ใจก็นึก "ผู้หญิงอะไร....ตีระนาด" คิดไปก็ยิ้มขำกับตัวเองไป จนเมื่อเสียงของเจ้าคุณปู่ปลุกเขาให้ออกจากภวังค์ "ชอบเรอะ พ่อศักดิ์" เสียงชายชรา พูดกลั้วหัวเราะ เล่นเอาคนคิดจิตใจกระเจิงไปได้ไม่น้อย หนุ่มใหญ่ได้แต่ยิ้ม และส่งสายตาไปที่แม่นวล ที่นั่งตีระนาดอยู่ท้ายสวน "ถ้าชอบ...ก็เข้าไปคุยเถอะพ่อ...อย่าช้าเชียว เดี๋ยวปู่ก็ยกให้คนอื่นดอก" เสียงชายชราเน้นย้ำเป็นการอนุญาต เขายิ้มอีกครั้ง จนเจ้าคุณปู่สังเกตได้ถึงความดีใจจนออกนอกหน้า และมองตามหนุ่มที่บัดนี้เริ่มมีร่างกำยำเห็นได้ชัดเดินกึ่งวิ่งไปที่เพิงดนตรีท้ายสวน เสียงหัวเราะร่าสดใสของหนุ่มสาวย้ำเตือนความรู้สึกลึกๆ ของชายชราที่ยืนมองอยู่ห่างไกล เมื่อเป็นหนุ่ม ก็ไม่ต่างอะไรจากเจ้าศักดิ์ ลูกเจ้าคุณเพชรเท่าไรนัก เพราะรักที่เคยผ่านมา ก็เหมือนจะถูกกีดกันไปเสียหมด คงถึงเวลาที่จะต้องทำบุญให้กับลูกหลาน ให้เขาได้เจอะได้เจอกับรักอย่างสมบูรณ์แบบกว่าตนสักที เป็นอย่างนี้อยู่สัก 3 ปี ที่ชายศักดิ์และแม่นวลได้สนิทสนมกัน จนฝ่ายชาย อดรนทนไม่ได้ที่จะขอให้แม่นวลไปร่วมถือไม้เท้ายอดทองเคียงข้างกัน สมุดบันทึกของศักดิ์ ซึ่งบัดนี้มีแต่ชื่อแม่นวลและคำว่ารัก ทนรอวันที่ทั้งคู่จะมาอยู่เคียงข้างกันไม่ไหวเอาเสียแล้ว เพิงดนตรี และยามเย็นย่ำเป็นที่ที่เขาเลือกไว้รำลึกความหลังระหว่างทั้งคู่ แต่แล้วแม่นวลกลับยื่นกระดาษพับไว้ใบหนึ่งส่งให้พร้อมย้ำให้ไปเปิดดูที่เรือน และวิ่งจากไป.... ใจของชายหนุ่มหล่นลงวูบ....รีบวิ่งกลับเรือนทันที แล้วบรรจงเปิดแผ่นกระดาษนั้นออกดู "คุณคือคนที่ฉันรักตลอดไป....จาก..หัวใจของคุณ" รอยยิ้มร่าปรากฎบนใบหน้าอย่างเด่นชัด หนุ่มใหญ่สอดกระดาษเก็บไว้ในสมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยคำว่ารัก และเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างมีความสุข เช้าตรู่....ร่างกำยำวิ่งกิ่งเดินไปที่ห้องเจ้าคุณอย่างรีบเร่งด้วยใบหน้าเบิกบาน "เจ้าคุณปู่ขอรับ....ผมใคร่อยากมาขอแม่นวลกับเจ้าคุณท่าน จะว่าอย่างไรหรือขอรับ" ใบหน้าสลดของเจ้าคุณ ทำให้หนุ่มใหญ่ประหลาดใจ จนแทบอยากจะเค้นคำพูดที่กำลังสาธยายอยู่ในใจเจ้าคุณท่านออกมาเหลือเกิน เหมือนจะเดาได้ถึงความรู้สึกของคนรุ่นเยาว์ เจ้าคุณปู่ เอ่ยออกมาด้วยท่าทีที่ไม่สบายใจนัก "พ่อศักดิ์ พ่อรู้หรือไม่ ว่าแม่นวลน่ะ อยู่ที่ใดในตอนนี้" ชายหนุ่มนิ่ง และส่ายหน้าช้าๆ แต่ความรู้สึกนั้น ร้อนรุ่มเหลือคณานับ "เรือนหลังโน่น....รีบไปเถอะ" ไม่รอช้า ชายหนุ่มกราบอย่างร้อนรน และรีบวิ่งไปที่เรือนหลังด้วยหัวใจที่สั่นคลอน หน้าซีดเผือดของแม่นวล พาหัวใจของศักดิ์ลั่นเปรี๊ยะ เหมือนจะแตกสลาย แม่จัน..หญิงรับใช้คนสนิทนั่งน้ำตาซึมอยู่ปลายเตียง "คุณมาช้าไปเจ้าค่ะ....เธอไปแล้ว...แม่นิ่มเพิ่งไปแจ้งเจ้าคุณเกริกเมื่อครู่....." "เธอเป็นอะไรหรือแม่จัน" "จันก็ไม่รู้เจ้าค่ะ เมื่อคืน คุณนวลเกิดหอบหนักมาก จันก็คิดว่าเป็นปกติ เลยให้ยาตามหมอหลวงเคยสั่ง...ก็ดีขึ้น จนราวย่ำรุ่ง เธอ...ก็....หลับไป....เจ้าค่ะ.....และไม่ตื่น....ไม่ตื่น อีกเลย" เสียงสะอื้นแห่งความอาลัยในเจ้านายทำให้แทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ แต่กระนั้นสายธารแห่งความเศร้าโศกหลั่งไหลออกจากความรู้สึกทั้งหมดที่มีอย่างไม่ปราณี หัวใจของเขาแทบจะแตกสลาย เหมือนถูกบดขยี้ให้ปวดร้าว ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ศักดิ์กอดร่างบางไร้ชีวิตเหมือนจะปลุกเธอขึ้นมาจากห้วงนิทรา และเน้นย้ำกับดวงวิญญาณที่กำลังจะจากไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า "นวล....พี่รักนวล....พี่รักนวลคนเดียว...ตลอดไป...นวล....ตื่นมาคุยกับพี่สินวล......นวล!!!!" รอยบนใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความคิดถึง รัก และห่วงใย ณ วันนี้....บนฟ้า.......แม่นวลจะมีคนคอยดูแลดีอยู่หรือ?? เพิงดนตรีหลังเรือน วันนี้เก่าคร่ำคร่ามากแล้ว แม่จะรับรู้ไหมหนอ?? หลายคำถามดังก้องอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ สายลมที่พัดผ่านกาลเวลา แม้จะแรงเพียงใด ก็ไม่เคยพัดความรู้สึกที่ยังมีต่อเจ้าของลายมือในกระดาษเหลืองกรอบแผ่นนี้ไปได้เลย บันทึกและกระดาษเหลืองกรอบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกแห่งรัก...ไม่เคยมีวันจางตลอดไปยังคงแนบแน่นอยู่ที่อก สายตาที่พร่ามัว ค่อยปิดลงอย่างหมดกังวล...... "ฉันยังรักเธอเหมือนเดิม..แม่นวล" เสียงแหบพร่าสั่ง เพิงดนตรี ก่อนลมหายใจสุดท้ายจะลับไปพร้อมกับสายลม
26 ธันวาคม 2550 17:44 น. - comment id 98766
ชอบรูปแบบการแต่งเนื้อเรื่องอ่านเข้าใจง่าย และเป็นการแต่งในแนวที่ดิฉันชื่นชอบ ขอสมัครป็นผู้ของคุณสักคนนะค่ะ แต่อยากเสนอนิดหนึ่งนะค่ะ การใช้ภาษาถึงแม้จะดี แต่บางคำยังไม่กินใจสักเท่าไร แบบประมาณว่ายังไม่เข้าถึงอารมณ์เท่าที่ควร แต่มองในภาพรวมก็ OK ค่ะ ดิฉันจะเฝ้าติดตามของคุณนะค่ะ