แล้วเราก็รักกันไม่ได้

ซีโมน

"ท่ารถโคราชคร้าบบบ" เสียงกระเป๋ารถบขส.สายกรุงเทพฯ-โคราชตะโกนบอกผู้โดยสารในขณะที่รถมาจอดนิ่งสนิทอยู่ที่ท่ารถ
          อึ้ดดด...เสียงบิดตัวไปมาของผมเพื่อจะไล่ความเมื่อยล้าที่นั่งรถมายาวนาน
          ป้าดดด..นั่นคือเสียงที่ตามมาทักทายกับผู้โดยสารคนอื่นที่ยังหลงเหลืออยู่บนรถคันนั้น ลำพังเสียงที่ดังก็ยังพอทำเนาแต่มีกลิ่นที่คละคลุ้งอย่างกับซากหมาเน่าลอยตามมาอีก ซึ่งก็ได้ผลผู้โดยสารที่ยังอ้อยอิ่งอยู่บนรถต่างกระวีกระวาดแย่งกันลงจากรถอย่างกับมีนักการเมืองเอาเงินมาแจกให้ซื้อเสียงก็ไม่ปาน
           "ตดแบบนี้ ขี้ซะยังจะดีกว่า" เสียงของชายดังขึ้นมาด้านหลังผม
           "แล้วกระผมไปตดที่บ้านญาติท่านเหรอครับ" ผมพูดพลางหันไปมองชายคนดังกล่าว ซึ่งจากการสำรวจคร่าวๆ ชายคนดังกล่าวแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูลกว่ากระผมมาก
           "อ้าว! พูดงี้ก็สวยดิ๊ ถ้าไม่เห็นว่าเป็น........" ชายคนดังกล่าวพูดค้างไว้แค่นั้นแล้วสัมทับต่ออีกว่า "อย่าไปเหยียบแถวบ้านผมนะ ไม่งั้นเจ็บตัวแน่" พูดพลางเดินลงจากรถไป "ไม่เห็นจะกลัวเลย"ผมพูดในใจไม่กล้าพูดออกมาดังๆ กลัวมันจะทำตามอย่างที่พูด จากนั้นผมก็ลุกขึ้นสะบัดเนื้อสะบัดตัวแล้วลงจากรถไปยืนอยู่ข้างรถพร้อมกับมองไปรอบๆ ตัว 
           นี่ก็นานแล้วสินะที่ผมไม่ได้มาที่นี่..ที่บ้านของแฟนผม...นุช
             .......................................................................................
            "พ่อคะ แม่คะ นี่พี่แก้วแฟนนุชเองค่ะ" หญิงสาวแสนน่ารักเกาะแขนผมแจขณะที่แนะนำผมกับครอบครัวของเธอ
            "สวัสดีครับ..." ผมพูดได้แค่นั้นเอง เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อเนื่องจากสายตาของครอบครัวที่มองมายังผม เหมือนกับผมเป็นอากาศธาตุ ไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น
            "พี่แก้วจะมาค้างอยู่กับเรา 2-3 วันนะคะ" นุชพูดพลางยิ้มอย่างมีความสุข แต่คนที่ทุกข์ก็คือผมน่ะสิ แล้วผมจะวางตัวอย่างไรกันล่ะเนี้ย
            
            ผมกับนุชเป็นแฟนกันตั้งแต่นุชเข้ามาเป็นน้องใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย ส่วนผมก็ปี 4 แก่ๆ แล้ว เราทั้งคู่เรียนอยู่คณะครุศาสตร์ พอเรียนจบนุชก็สอบบรรจุเป็นครูที่โรงเรียนประจำบ้านเกิดได้โดยอยู่ในลำดับต้นๆ ก็แหม แฟนผมน่ะเก่งจะตายไป ส่วนผมน่ะเหรอเป็นพนักงานขายเครื่องกรองน้ำตามบ้าน หลังจากตระเวณสมัครงานประจำ ซึ่งหากนับน้ำหมึกที่กรอกใบสมัครก็คงจะพอๆ กับน้ำแข็งที่ละลายจากขั้วโลกเหนือนั่นล่ะมั้ง
           นั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมต้องพยายามอยู่ห่างจากนุช เนื่องจากไม่อยากพาเธอแม่นางฟ้าของผมมาจมอยู่กับคนไม่มีอนาคตอย่างผม หลังจากที่เธอไปเป็นแม่พิมพ์ของชาติตามความฝันของเธอแล้ว ผมก็ตัดสินใจที่จะไม่ติดต่อกับเธออีก นี่ก็สามปีแล้วสินะที่ผมไม่ได้กลับมาที่บ้านของเธออีกเลย นี่ถ้าบ้านของเธอไม่ประสบกับปัญหานี้ผมก็คงไม่......
           ..................................................................................................
           "พี่แก้ว" เสียงที่ผมคุ้นเคยและโหยหามานานตะโกนมาจากทางด้านท้ายรถ นุชสุดที่รักของผมวิ่งเข้ามาเกาะแขนผมเหมือนที่เคยทำพร้อมกับเอาหน้าซุกมาที่รักแร้ของผม จะเหม็นหรือเปล่าอันนี้ผมไม่ทราบ 
           "นี่ถ้าบ้านนุชไม่เกิดไฟไหม้ พี่แก้วก็คงไม่มาหานุชใช่ไหมคะ" น้องนุชพูดพลางน้ำตาคลอเพราะนึกน้อยใจในความใจร้ายของผม
           "พี่ก็อยู่ตรงนี้แล้วไงล่ะ" พูดพลางก็เอามือลูบหัวน้องนุชอย่างทะนุถนอม
           "ปะ ไปไหว้พ่อกับแม่นุชกัน ท่านบ่นถึงพี่แก้วด้วยนะ" นุชโกหกผมอีกแล้ว แต่ก็คงจะทำให้ผมสบายใจขึ้นไม่มากก็น้อย
           ผมเดินตามนุชไปที่เต้นท์ที่ตั้งอยู่ในตัวตลาด ที่ยังคงมีกลิ่นไอของร่องรอยไฟไหม้ที่ยังคงครุกรุ่นอยู่ 
           "สวัสดีครับพ่อ..แม่ สบายดีหรือเปล่าครับ" แน่ะถามไม่คิด คนที่บ้านถูกไฟไหม้คงจะสบายดีหรอกนะ 
            "จ่ะ.." แม่ตอบพร้อมกับรับไหว้อย่างเสียไม่ได้ ส่วนสายตานั้นผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี
            "แล้วนี่จะกลับรถเที่ยวเย็นใช่ไหม พักที่นี่คงไม่สะดวก ก็อย่างที่เห็นนี่น่ะแหล่ะ" พูดดักคอกันอย่างนี้แล้วกระผมจะทำอย่างไรล่ะครับ
            เอี้ยดดด......เสียงรถกระบะเบรคอยู่ด้านหน้าเต้นท์จากนั้นคนขับก็กุลีกุจอลงจากรถพร้อมกับเครื่องกระป๋องอีก 2 ลัง เดินตรงเข้ามาที่เต้นท์
            "ปลัดสุทิน" พ่อกับแม่ของว่าที่ภรรยาผมตะโกนออกมาด้วยความดีใจ แหมทีผมมาไม่เห็นจะดีใจแบบนี้เลย
             หลังจากที่ปลัดสุทินเดินเข้ามาในเต็นท์ แล้ววางของพร้อมกับยกมือไหว้พ่อแม่ของนุช ดุจคุณอภิสิทธิ์ไหว้ประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงตามทีวีนั่นแหล่ะ 
             คุณปลัดไหว้ทำไม แหม! คนกันเองนะคะ เข้ามานั่งก่อนสิคะ พร้อมกับตะโกนเรียกน้องนุชของผมให้ไปนั่งคุยกับคุณปลัด น้องนุชเดินเข้าไปนั่งอย่างเสียไม่ได้แต่ก็ไม่วายที่จะลากตัวผมไปนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วย
             คุณปลัดคะ นี่พี่แก้วแฟนนุชเองค่ะ ผมมองเห็นคุณปลัดของน้องนุชอย่างเต็มตา ผมสะดุ้งเล็กน้อย นั่นมันคู่อริของผมที่เจอบนรถนี่หว่า คุณปลัดก็คงรู้สึกประหม่าเช่นกัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมพูดก่อน เช่นกันครับ แหม ทีเงี้ยพูดดีเชียว
             คุณปลัดคงมีเรื่องคุยกับนุชตามลำพังใช่ไหมคะ แม่นุชพูดเสียงดังคงต้องการให้ผมได้ยินเพื่อจะได้เปิดโอกาสให้แฟนผมคุยกับว่าที่ลูกเขย 
             งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ จะขอไปเดินดูรอบ ๆ หน่อย พร้อมกับลุกขึ้นยืนแต่น้องนุชก็จับแขนผมไว้พร้อมกับสายตาที่ต่อว่าหากผมจะเดินออกไป แต่แหมใครจะไปอยู่ล่ะครับ ผมเดินออกมาจากเต้นท์พร้อมกับได้ยินเสียหัวเราะกันเสียงดังเหมือนกับจ้างตลกคณะเชิญยิ้มปะทะกับโย่งมาแสดง
             ผมเดินดูร่องรอยของไฟไหม้พร้อมกับทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตรักของผมกับนุช มันอะไรกันนะที่ทำให้ครอบครัวของคนที่ผมรักไม่ชอบผม แค่ผมเป็น
             ขอโทษนะครับ เสียงทุ้มนุ่มดังมาจากด้านหลังของผม ปลัดสุทินนั่นเอง
             ผมมีเรื่องอะไรบางอย่างอยากจะคุยกับคุณ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องคุยเรื่องแฟนผมแน่
             ผมทราบแล้วครับว่าจะคุยเรื่องอะไร น้องนุชเป็นคนน่ารัก ผมรู้ว่าคุณต้องดูแลเธอได้ดีกว่าผมแน่ ฝากหัวใจของผมด้วยนะครับ ปลัดสุทินเอื้อมมือมาจับมือผมแทนคำสัญญา น้องนุชซึ่งอยู่ในเต้นท์วิ่งออกมากอดผมทางด้านหลัง นุชคงจะเดาได้ไม่ยากว่าลูกผู้ชายพูดเรื่องอะไรกัน น้ำตาของนุชเปียกเต็มเสื้อด้านหลังผม ผมหันหลังไปทางน้องนุชพร้อมกับจับมือนุชมากุมไว้ และจุมพิตเบา ๆ ที่หน้าผาก น้องนุชร้องไห้กระซิก ๆ 
             พี่ไปก่อนนะ ดูแลตัวเองให้ดีด้วย ผมพูดได้แค่นี้จริง ๆ มันเหมือนมีก้อนอุกาบาตรมาติดอยู่ที่ลำคอ พร้อมกับหันหลังเดินออกมาด้วยน้ำตาอาบแก้มไม่แพ้น้องนุช 
             เมื่อเดินมาถึงท่ารถกลับกรุงเทพฯ ก็ได้ยินเสียงตะโกนของกระเป๋ารถคันที่ผมโดยสารเมื่อตอนขามา
             อ้าว! เจ้ จะกลับกรุงเทพฯ ใช่ม้า เร็วเลยรถจะออกแล้ว				
comments powered by Disqus
  • รัศมีจันทร์

    30 สิงหาคม 2550 11:02 น. - comment id 97405

    ...สวัสดีค่ะ พี่ซีโมน...
       ...เข้าใจค่ะ          รัศมีว่า..ไม่นานพี่ต้องเจอคนที่เค้าจริงใจ เข้าใจพี่ ไปกับพี่ได้ดี อย่างแน่นอนค่ะ อย่าเพิ่งหมดหวังนะค่ะ อกหักไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ที่สำคัญ มันทำให้เราได้เรียนรู้ ไปไม่ถูกแล้วค่ะ เพราะรัศมีไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ แหะๆประมาณว่า เป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนนะค่ะ ไม่มีแฟนกะเค้าหรอก เพราะไม่เคยไว้ใจมัน ที่สำคัญรัศมีเรียนอยู่ ยังเด็กอยู่เลย ไม่อยากคิด....6.gif....
    ...74.gif...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน