สำหรับเขา....ฉันวางเขาไว้อยู่เหนือใครๆทั้งปวง เขาไม่ใช่แค่คนรักเก่า หากแต่เขาเป็นมากกว่านั้น เขาเป็นทุกสิ่งอย่างในชีวิตฉัน เป็นความหวัง กำลังใจ เขาเป็นคนเดียวที่ฉันอยากเห็นสายตาที่ทอดมองมายังฉันด้วยความรัก และความภาคภูมิ เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้ชีวิตฉันมีความหมาย เขาผู้ที่ทำให้การเป็นโรงเรียนของเด็กหญิงคนหนึ่ง มีความหมาย ทุกเช้าในรถโดยสารประจำทาง บ้านฉันอยู่ต้นสาย ฉันจึงสามารถเลือกที่นั่งตามใจชอบ และแน่นอนที่สุด ฉันจะเลือกที่นั่งริมสุด เพื่อคอยถือกระเป๋านักเรียนให้พี่ชายใจดี ท่วงท่าสง่างาม และรอยยิ้มที่เป็นมิตรที่มักขึ้นระหว่างทาง...เหมือนเขาเองก็เต็มใจให้ฉันถือกระเป๋าให้ เขามักจะมายืนใกล้ๆที่ฉันนั่งเสมอ...มีนักเรียนหญิงทั้งรุ่นพี่ และรุ่นเดียวกับฉัน คอยที่จะถือกระเป๋าให้เขาเช่นกัน ...แต่..ฉันกลับได้รับสิทธิ์นั้นเพียงคนเดียว เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้ฉันรู้สึกปลื้ม อยากพบ อยากเจอ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นดาวโรงเรียนที่ทั้งเรียนเก่ง รูปหล่อ เป็นนักกิจกรรมตัวยง และนักกีฬาหลายประเภท...เป็นคนดังชนิดที่ว่าไม่มีใครในโรงเรียนที่ไม่รู้จักเขา..แต่ฉันมองเห็นผู้ชายคนนี้มากกว่านั้น ฉันมองเห็นผู้ชายขี้อาย พูดน้อย เคร่งขรึม ไม่เคยเห่อเหิมกับชื่อเสียงและคุณสมบัติที่ตัวเองมี ไม่เคยหว่านเสน่ห์กับสาวๆ (ทั้งๆที่สาวๆอยากให้เค้าทำมากแค่ไหนก็ตาม) ฉันแอบปลื้มเขาอย่างเงียบๆ และถือกระเป๋าให้เขานานนับปี โดยไม่เคยได้พูดกันซักคำ แม้ว่า เขาจะเคยตามเพื่อนเขามา ลองชิมขนมที่ฉันทำในชั่วโมงคหกรรม...ฉันก็แค่ส่งขนมให้เค้า เค้ายิ้มรับ ไม่กล้าแม้แต่จะถามเค้าว่ารสชาติเป็นยังไง อร่อยมั้ย...เฮ้อ.... จนกระทั่งฉันเรียนจบมัธยมต้น และเขาเองก็จบชั้นมัธยมปลาย เขาไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ ส่วนฉันไปเรียนต่อม.ปลาย ที่โรงเรียนประจำจังหวัดเชียงใหม่....เหมือนเส้นชีวิตของเขากับฉันจะขนานกันอย่างสิ้นเชิง วันนึง ช่วงปิดเทอม ม.5 ฉันได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ขณะที่นั่งเล่นอยู่ในบ้าน ฉันมองเห็นเขาขับรถผ่านหน้าบ้านฉัน...เร็วเท่าความคิด ฉันวิ่งถลันไปหน้าบ้านตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้...ได้แต่ชะเง้อมองรถเขาที่แล่นผ่านไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ เขาคงเห็นฉัน..เขาเลี้ยวรถกลับมาหา ณ.จุดที่ฉันยืนอยู่...ไม่รู้ทำไม ครั้งนี้ ฉันถึงกล้าคุยกับเขา...เป็นฉัน..ที่ทักเขาก่อน (อาจเป็นเพราะฉันรู้ว่า นี่เป็นโอกาสเดียวที่ฉันมี หรือเพราะฉันโตขึ้น ฉันถึงกล้าที่จะทำตามใจของตัวเองมากขึ้น) เราคุยกันได้ซักพัก แล้วเราก็แลกที่อยู่พร้อมเบอร์โทรกัน..เชียงใหม่-กรุงเทพ ไกลกันเหลือเกินในความคิดของฉัน...แต่ใครจะสนล่ะ ในเมื่อผู้ชายในฝันของฉัน กำลังยืนพูดคุยกับฉันแบบตัวเป็นๆๆต่อหน้าฉันขนาดนี้...4 ปีที่ใกล้ แต่ฉันกลับไม่เคยมีแม้แต่โอกาสที่ได้พูดกับเขา หากแต่กลับกลายเป็นว่า เมื่ออยู่ไกลกันอย่างนี้..แรงผลักของอะไรบางอย่างทำให้เรากล้าที่จะทำความรู้จักกันอย่างจริงจัง ไม่นานหลังจากนั้น ฉันได้รับโทรเลขจากเขา (ปีพ.ศ.2529 ยังไม่มีเพจเจอร์ และโทรมือถือ การติดต่อที่เร็วที่สุด คือโทรเลข โทรศัพท์) เขาบอกว่า จะขึ้นมาหาฉันที่เชียงใหม่...ไม่ต้องบอก คุณๆก็คงพอรู้นะคะ ว่าฉันตื่นเต้น ดีใจแค่ไหน ฉันเฝ้ารอคอยวันที่เขาจะมาหาด้วยใจจดจ่อ..เขามาตามนัดหมาย และอยู่รอจนฉันสอบเสร็จ เราจึงกลับบ้านที่ต่างจังหวัดพร้อมกัน เขามาหาฉันที่เชียงใหม่ ทุกๆปิดเทอม เราติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งทางโทรศัพท์และจดหมาย ฉันโชคดีที่ฉันได้รู้จักผู้ชายคนนี้ เขาเป็นผู้ชายที่ดี อบอุ่น เอาใจใส่ ห่วงใย จริงใจ และหวังดีกับฉันเสมอมา จำได้มีอยู่ครั้งนึง เรา 2 คนมีเงินกัน 100 กว่าบาท แต่เราต้องนั่งรถกลับบ้านต่างจังหวัดด้วยกันในวันนี้ ฉันเกิดอยากทานอาหารขึ้นมา เขาเสียสละให้ฉันได้ทาน โดยที่ตัวเขาไม่ทาน เงินที่เราพอมีที่จะขึ้นรถทัวร์ได้ ก็เหลือเพียงแค่ขึ้นรถบัสสีส้ม ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลมเก่าๆโบกไปมา พอให้หายร้อน เขาผ่าตัดไส้ติ่งกระทันหัน หมอให้เค้าบอกชื่อญาติที่จะติดต่อได้ แทนที่เขาจะให้ชื่อพ่อแม่พี่น้องเขา แต่..ฉันกลับเป็นคนแรกที่ฉันนึกถึง....ทางโรงพยาบาลโทรทางไกลมาหาฉันที่เชียงใหม่ บอกว่าเขาผ่าตัดไส้ติ่งด่วน ให้มาเยี่ยม ด้วยความที่ฉันเป็นคนรักเรียน ทางโรงพยาบาลโทรมาวันพุธ ฉันไม่อยากขาดเรียน ฉันจึงนั่งรถมาหาเขาในคืนวันศุกร์ มาถึงที่โรงพยาบาล พ่อแม่และพี่ๆเขาอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว..ฉันคงไม่มีความจำเป็นต่อไปอีก ...ฉันจึงบอกเขาว่าจะไปพักกับเพื่อนแถวบางกะปิ เขาบอกว่า ไปก่อน แล้วเขาจะตามไป ฉันไม่คิดว่าเขาพูดจริง เพราะเขาเพิ่งผ่าตัด แผลยังไม่แห้ง ยังไม่ได้ตัดไหม คิดเพียงว่า เขาพูดเพื่อปลอบใจฉัน วันรุ่งขึ้น ฉันเห็นเขาปรากฎตัวที่หอพักเพื่อนฉันจริงๆ ดวงหน้า ซีดเซียวของเขา แม้จะพยายามฝืนยิ้มอย่างไร ก็ไม่สามารถปกปิดร่องรอยความเจ็บปวดจากบาดแผลผ่าตัดได้ ฉันถามว่าเขามาได้อย่างไร เขาบอก หนีมา แต่เขียนจดหมายบอกญาติๆที่เฝ้าที่โรงพยาบาลแล้ว ฉันบอก แล้วมาทำไม ทำไมไม่รอให้แผลหายดี ไม่รอตัดไหมก่อน เขาบอกว่า เขาเป็นห่วงฉัน ไม่รู้ว่าฉันมาอยู่ที่นี่จะเป็นอย่างไร....นี่คือเขา..คุณคงไม่แปลกใจนะคะ ทำไมฉันถึงรักเขาเหลือเกิน กระทั่งฉันเรียนจบ ม.6 ฉันเลือกมหาวิทยาลัยในกรุงเทพทั้งหมด เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้เขา โชคดีฉันเอ็นทรานซ์ติด ได้ไปเรียนที่ทับแก้ว...เขายัง ปฎิบัติตัวสม่ำเสมอเช่นเคยในช่วงปีแรกที่ฉันเรียนที่นั่น...ฉันเรียนปี1. แต่เขากำลังเรียนจบในปีนั้นเช่นกัน.... แล้วฉันก็ได้พบสิ่งที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน ตลอดเวลาที่คบหากับเขา...ในปีที่เขาจบการศึกษานั่นเอง
21 สิงหาคม 2550 22:34 น. - comment id 97280
รู้สึกเขินนนนนนน อ่ะจิ อิอิอิ ยิ่งถ้าน่ารักๆ นะ ก็อยากสานต่อโนะ ฮุ ฮุ ฮุ
23 สิงหาคม 2550 11:44 น. - comment id 97291
ขอบใจจ้า น้องโฟร์ท แฟนประจำที่เข้ามาโพสต์ ...ไม่อยากสานต่ออ่ะค่ะ ให้เขาไปมีชีวิตที่ดีเหอะ
5 กันยายน 2550 19:15 น. - comment id 97451
เจ๋ง