ชอบค่ะ ชอบมากเลย คุณนนท์ออกแบบได้ตรงใจดิฉันมาก เป็นไงชอบมั้ยลูก ตอนที่ผมเดินเข้ามา ลูกค้าคนนี้ก็เอ่ยปากชมผมขึ้นมาทันทีทำให้ผมนึกประหลาดใจว่าทำไม ลูกค้าคนนี้ถึงชอบอะไรอย่างที่ผมชอบเหมือนกัน คราวนี้ล่ะ ผมจะได้พักสมใจ เพราะคงไม่ต้องเปลี่ยนแบบอะไรมาก ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอพาลูกสาวมาด้วย เห็นว่าชื่อ พลอย เพราะก็เห็นออกตามงานไฮโซต่างๆบ่อย ก็เลยออกทีวีให้เราได้เห็นบ้าง แต่สงสัยจะไม่ได้พาลูกสาวอีกคนมา ที่ชื่อ พิมน่ะครับ แต่ช่างเถอะ ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไร ชอบค่ะคุณแม่ ตรงนี้ออกแบบดีนะคะ เธอชี้ส่วนที่เธอชอบให้ผมดู มันคือส่วนของห้องนั่งเล่น ที่มีโซฟายาวเหยียด พร้อมโคมไฟดีไซน์เก๋ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ผมเป็นคนลงทุลงแรงหามากับมือเองทุกชิ้น แม้แต่หลอดไฟในแบบของผมจะต้องเก๋แปลกเช่นกัน หรือหากว่าผมไม่ได้เฟอร์นิเจอร์ที่ผมคิดไว้ในหัว ส่วนใหญ่ผมก็จะถามเจ้าของบ้าน แล้วค่อยเอามาสั่งทำอีกทีพี่วุฒเคยบอกว่าที่เขาจ้างผมก็เพราะเหตุนี้เหมือนกัน ผมเป็นคนละเอียดในดีไชน์ของผมมาก ครับ ขอบคุณครับ เรียบร้อยแล้วนะคะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวกลับก่อน เดี๋ยวมีธุระต่ออีกน่ะค่ะ ครับ ขอบคุณมากครับ จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายออกไป เหลือก็แต่ผมกับพี่วุฒ เออ นี่นนท์ นายจะไปพักร้อนแก้เซ็งมั้ยล่ะ ก็ดีนะพี่ ตอนนี้ยังไม่มีงานเข้ามาใช่มั้ยครับ เฮ้ย.. แหม... พักไว้ก่อนก็ได้งานน่ะ นายทำงานไม่ได้พักมาหลายเดือนแล้วนี่หว่า ครับพี่ แต่ผมไม่มีที่ไปอ่ะดิ ปัญหา อยากไปเที่ยวทะเลนะ แต่ก็ไม่รู้จะไปยังไง ไปคนเดียวก็ยังไงอยู่ นายจะไปหัวหินมั้ยล่ะ พี่มีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นั่น น่าจะดีนะ ไม่มีใครอยู่ด้วย นายไปอยู่สักหน่อยก็ดี มีคนดูแลบ้านด้วย จะดีหรอพี่ ผมเกรงใจพี่ออก รบกวนมาก็หลายอย่างแล้ว ไหนจะอุตส่าห์เมตตาผมเข้าทำงาน ไหนจะอาหารการกินในบางมื้อ นี่เอาที่พักด้วย ไม่ไหวอ่ะพี่ คนกันเองหน่า นายก็เหมือนน้องชายฉันไปแล้ว ไปเหอะ เดี๋ยวเนี่ยขับรถไปบ้านพี่กัน ไปเอากุญแจเลย แล้วนายจะไปวันนี้เลยก็ได้นะ เสร็จงานแล้วนี่ อีกอย่าง นายอกหักมาไม่ใช่เรอะ จากน้องเชอรี่ อะไรนั่น ไปพักใจสะด้วยเลย โห... พี่ ขอร้องเลย ผมยังเจ็บไม่หายเลยเนี่ย ใช่แล้วครับ ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่มีแฟน แต่ผมก็เคยมีมาก่อนหน้านี้ แต่แล้วความรักของผมก็ไม่ได้สมหวังอย่างที่ผมคิด มันเป็นรักสามเศร้าครับ เชอรี่เป็นดาวมหาวิทยาลัยที่ธรรมศาสตร์ ผมไม่ได้ชอบเธอก่อนหรอกครับ แต่เธอมาชอบผมก่อนต่างหาก ในตอนแรกนั้น เราเป็นเพื่อนกัน รู้จักกันก็แค่คุยทักทายกัน เพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทผม เราอยู่คนละคณะครับ เราเจอกันครั้งแรกก็คือ ตอนที่ผมไปที่บ้านเพื่อนผม เชอรี่เขาอยู่ที่บ้าน ในครั้งแรกที่เธอเห็นผม เธอก็ชอบผมเลย นี่เป็นสิ่งที่เพื่อนผม ชัด เล่าให้ผมฟัง เชอรี่บอกกับชัดว่าเธอชอบผม จากนั้นเราก็คุยกันเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แรกๆเธอก็โทรหาผมทุกวันคุยกันครึ่งชั่วโมงบ้างชั่วโมงหนึ่งบ้าง และในที่สุดเราก็คบกันแบบแฟน ผมจำได้ว่าระหว่างที่เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน เวลาไปเที่ยวกัน ผมมักจะเอาชัด และเพื่อนสนิทอีกคนไปด้วย นั่นก็คือนพ นพเป็นเพื่อนร่วมคณะ เราสนิทกันมากเหมือนกัน พอหลังจากที่ผมกับเชอรี่เป็นแฟนกันได้เพียงแค่หกเดือน ผมก็เริ่มเห็นความผิดปรกติที่บางครั้งผมโทรไปหาเชอรี่ เขาก็ไม่รับสาย กดทิ้ง หรือทำหงุดหงิดใส่เมื่อรับโทรศัพท์ แค่นั้นยังไม่พอ ต่อมาไม่นาน ผมโทรไปที่บ้านก็เริ่มได้ยินเสียงผู้ชายซึ่งไม่ใช่ชัด เพราะผมจำเสียงชัดได้ ในตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่กังวลเล็กน้อย ช่วงนั้นผมกับเชอรี่ไม่ได้ไปเที่ยวกันเลยหรือแม้แต่พบหน้ากัน เมื่อผมเริ่มสงสัยมากขึ้น ผมเลยตัดสินใจโทรไปถามชัดดูว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าเชอรี่ทำตัวห่างจากผมไปเรื่อยๆ ในที่สุดชัดก็หลุดปากบอกผมว่า เชอรี่ไปคบกับนพ เพื่อนสนิทของผมแล้ว ตอนนั้นผมรับไม่ได้ ผมโทรไปคุยกับเชอรี่ให้เรียบร้อย บอกเลิกเธอ และผมก็เลิกคบกับนพไปเลย พี่วุฒเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้เรื่องทั้งหมดดีเพราะผมมักจะเล่าให้เขาฟังในทุกๆเรื่อง นั่นคือเรื่องราวความรักครั้งสุดท้ายของผม เป็นเรื่องที่ผมยังเศร้าไม่หายสักที พี่วุฒมักจะแนะนำให้ผมลองหาผู้หญิงอีกคนคบดูเผื่อว่าจะลืมเชอรี่ไปบ้าง แต่เรื่องส่วนตัวของผมก็ไม่เคยทำให้การงานผมเสียเลยสักครั้ง แต่ผมเป็นคนชอบคนยาก หมายถึงว่าผมไม่ค่อยจะชอบใครตั้งแต่เห็นหน้าหรือยังรู้จักกันไม่นาน มันต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะชอบจะรักใครสักคน เพราะอย่างนี้ไงครับ ผมถึงยังเศร้าเรื่องเชอรี่อยู่ แม้ว่าเรื่องราวมันจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม ผมขับรถตามพี่วุฒไปติดๆ จนถึงบ้านของพี่วุฒ สิ่งแรกที่ผมเห็น หรือมองก็ไม่รู้นะครับ คือวุ้นที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในสวนหน้าบ้าน เธอมีรูปร่างหน้าตาที่ตรงสเป้กผมอยู่ไม่น้อย เธอมีใบหน้าคมเข้มบ่งบอกถึงความเป็นไทย ผิวสีแทนออกขาว ในหน้ารูปไข่ รูปร่างไม่อ้วนเกินไปไม่ผอมเกินเหมือนเด็กสมัยนี้ เป็นรูปร่างที่พอดี ดูมีน้ำมีนวล ผมยังไม่ได้รู้จักเธอมากนักจึงไม่รู้ว่ามีนิสัยเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆเธอเป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยพูด ผมเข้าบ้านไปกับพี่วุฒ พี่วุฒหยิบกุญแจส่งให้ผมทันทีและบอกให้ผมกลับบ้านจัดกระเป๋า โดยให้พักร้อนไปก่อนยังไม่มีกำหนดว่าจะให้กลับมาทำงานเมื่อไหร่ ผมขับรถยาวไปถึงหัวหิน จนถึงบ้านพักของพี่วุฒ ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง บ้านพักของพี่วุฒนี่น่าอยู่จริงๆครับ เป็นบ้านไม้สีฟ้าอ่อนเข้ากับทะเล ในตัวบ้านถูกออกแบบด้วยดีไซน์เก๋ไก๋ แต่เอ๊ะ คุ้นๆนะครับ มันเหมือนกับงานออกแบบของผมที่ผมทำตอนปี่สุดท้ายส่งครูเลยนี่ หึๆ ผมนึกขำอยู่ในใจ ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่วุฒจะชอบการออกแบบของผมมากขนาดเอามาลงในบ้านของเขาเลยทีเดียว งานออกแบบที่ผมนั้นเหมือนกับที่นี่มาก โดยการดีไชน์ที่ใช้ทรายเป็นหลัก ใช้ทรายทำเป็นพื้นบางพื้นที่ ตู้ทุกตู้จะถูกทรายและหอยเคลือบไว้หมด ผมเคยคิดว่าผมจะเอาดีไซน์นี้มาใช้กับบ้านในอนาคตของผมเสียหน่อย แต่พี่วุฒดันเอาไปใช้ไม่บอกเลย อย่างนี้กลับไปต้องเรียกค่าลิขสิทธิ์หน่อยแล้ว ส่วนในห้องน้ำนั้น จะมีต้นไม้อยู่ริมๆ และพื้นทำด้วยทรายรวมไปถึงอ่างล้างมือ และชั้นวางของ การที่ออกแบบโดยใช้ทราย จะทำให้ตัวบ้านเย็น เพราะทรายเป็นสิ่งที่ไม่ซึมซับความร้อน เหมาะกับบ้านริมทะเลครับ มาถึงที่นี่ ผมตัดสินใจนอนก่อนเลย..... เป็นกิจกรรมที่ผมชอบมากที่สุดแล้วครับ การนอนโดยไม่มีใครมารบกวน.....
19 เมษายน 2546 13:24 น. - comment id 68321
เหมือนกันเลยค่ะ การนอนโดยไม่มีใครรบกวน มีความสุขที่สุดแล้ว
19 เมษายน 2546 14:45 น. - comment id 68323
เชอรี่...อืม
19 เมษายน 2546 23:22 น. - comment id 68332
มาอ่านแล้วจ้า คุณ JET อิอิอิ Not bad, not bad ;) ............................................. :)
20 เมษายน 2546 15:02 น. - comment id 68355
ถึงตอนนี้เหนื่อยนักพักกายา รู้หนาว่ากายพักใจไม่ ......
21 เมษายน 2546 12:05 น. - comment id 68384
มาอ่านแล้วนะ เพื่อน ดีดี
21 เมษายน 2546 12:22 น. - comment id 68387
โห ยาวจัง Jet มีต่ออีกหรอ เออๆ เด๋วมาต่อแล้วจะมาอ่านต่อ
21 เมษายน 2546 19:14 น. - comment id 68396
อยากอ่านต่อจังเลย เขียนเร็วๆนะ
26 เมษายน 2546 11:52 น. - comment id 68523
น่าจะต่อได้แล้วน่ะ รอนาน ลืมกันพอดีอ่ะ
5 พฤษภาคม 2546 11:09 น. - comment id 68633
รอ คั๊บรอ